อิหร่านใช้ทุกโอกาสจากข้อตกลงนิวเคลียร์แห่งประวัติศาสตร์

(VOVworld)- ในหลายวันที่ผ่านมา สหรัฐและสหภาพยุโรปหรืออียูได้ประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านหลังจากที่สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ ประกาศยืนยันเตหะรานได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุในข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับกลุ่มพี5+1ที่บรรลุเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมปี2015อย่างจริงจัง ส่วนทางฝ่ายอิหร่านนั้นก็กำลังมีก้าวเดินเพื่อผสมผสานอย่างเข้มแข็งเข้ากับโลกเพื่อที่จะใช้โอกาสความร่วมมือต่างๆได้อย่างเต็มที่


(VOVworld)- ในหลายวันที่ผ่านมา สหรัฐและสหภาพยุโรปหรืออียูได้ประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านหลังจากที่สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ ประกาศยืนยันเตหะรานได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุในข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับกลุ่มพี5+1ที่บรรลุเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมปี2015อย่างจริงจัง ส่วนทางฝ่ายอิหร่านนั้นก็กำลังมีก้าวเดินเพื่อผสมผสานอย่างเข้มแข็งเข้ากับโลกเพื่อที่จะใช้โอกาสความร่วมมือต่างๆได้อย่างเต็มที่

อิหร่านใช้ทุกโอกาสจากข้อตกลงนิวเคลียร์แห่งประวัติศาสตร์ - ảnh 1
นานาชาติเห็นพ้องข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับกลุ่มพี5+1(Reuters)

ผลประโยชน์ที่อิหร่านจะได้รับจากข้อตกลงนิวเคลียร์แห่งประวัติศาสตร์นั้นเป็นสิ่งที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยไม่เพียงแต่ได้รับอนุญาตส่งออกน้ำมันดิบสู่ตลาดโลกซึ่งเป็นแหล่งรายรับเงินตราต่างประเทศหลักของประเทศเท่านั้น หากเตหะรานยังได้เข้าถึงวงเงิน1แสนล้านดอลลาร์สหรัฐที่ถูกอายัดในช่วงที่มาตรการคว่ำบาตรยังมีผลบังคับใช้ ซึ่งวงเงินนี้มีความหมายเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเทศที่ถูกโดดเดี่ยวหลายสิบปีอย่างอิหร่านในกระบวนการเปิดรับเทคโนโลยีที่ทันสมัยของโลกเพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะเดียวกัน ภาคการเงินธนาคาร การประกันภัย การค้า การขนส่งและการซื้อขายเทคโนโลยีก็มีโอกาสพัฒนามากขึ้นเมื่อได้รับแหล่งเงินลงทุนจากต่างประเทศ

ก้าวผสมผสานที่เข้มแข็ง

สถานการณ์ในปัจจุบันเป็นโอกาสที่เหมาะสมเพื่อให้อิหร่านขยายความร่วมมือกับประเทศอื่นๆเพื่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งอิหร่านได้ตั้งเป้าว่าจะพยายามให้เศรษฐกิจขยายตัวที่ร้อยละ8และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศที่3หมื่น-5หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี นี่คือคำประกาศที่นาย ฮัสซาน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านเสนอเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อยืนยันถึงความตั้งใจของประเทศในการใช้โอกาสจากประโยชน์ของข้อตกลงนิวเคลียร์เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและเปิดทางให้แก่การพัฒนาและความก้าวหน้าของอิหร่าน

โดยก้าวเดินที่เข้มแข็งอันดับแรกคือเมื่อวันที่14กุมภาพันธ์ สินค้างวดแรกคือน้ำมันดิบ4ล้านบาร์เรลได้ส่งออกไปยังยุโรป ซึ่งเป็นตลาดน้ำมันใหญ่ของอิหร่านในหลายปีที่ผ่านมา  โดยน้ำมันงวดนี้ถูกขายให้แก่หุ้นส่วนใหญ่ในฝรั่งเศส รัสเซียและสเปน และอิหร่านได้วางแผนส่งออกน้ำมัน1.5ล้านบาร์เรลต่อวันจากนี้จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม และตัวเลขดังกล่าวอาจจะเพิ่มเป็น2ล้านบาร์เรลในปีงบประมาณต่อไปคือตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ ตามแผนการเตหะรานจะส่งออกน้ำมัน3แสนบาร์เรลต่อวันไปยังยุโรปพร้อมทั้งมุ่งเป้าไปที่หุ้นส่วนเอเชียด้วยจำนวน2แสนบาร์เรลต่อวันในช่วงเวลาข้างหน้า

ในด้านการท่องเที่ยว อิหร่านได้ประกาศแผนการพัฒนาที่มุ่งเพิ่มรายรับเป็น3หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐผ่านการดึงดูดนักท่องเที่ยวประมาณ20ล้านคนต่อปี ซึ่งเพื่อปฏิบัติแผนการนี้ รัฐบาลอิหร่านได้อนุมัติกฎหมายใหม่ที่ขยายการออกวีซาที่สนามบินจาก 14วันเป็น30วันให้แก่นักท่องเที่ยวจาก180ประเทศ นอกจากนั้นยังมีการผ่อนปรนนโยบายว่าด้วยการพำนักอาศัยให้แก่พลเมืองของ7ประเทศได้แก่ตุรกี เลบานอน อาเซอร์ไบจาน โบลิเวีย อิยิปต์ ซีเรียและจอร์เจีย โดยจะสามารถพำนักในอิหร่านเป็นเวลา15-90วันโดยไม่ต้องขอวีซา  อิหร่านยังได้ประกาศแผนการซื้อเครื่องบินใหม่400-500ลำรวมมูลค่าประมาณ2หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในรอบ10ปีข้างหน้า

ขยายความสัมพันธ์ทางการค้า

จากการที่ประเทศต่างๆได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร อิหร่านตั้งความหวังว่าจะสามารถดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศถึง5หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งตามความเห็นของนักวิเคราะห์ระหว่างประเทศ อิหร่านมีศักยภาพทางเศรษฐกิจในหลายด้านมิใช่เฉพาะเพียงน้ำมันเท่านั้น โดยในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจจีนขยายตัวเชื่องช้าและเศรษฐกิจเกิดใหม่หลายประเทศก็กำลังเผชิญอุปสรรคต่างๆ ศักยภาพการประกอบธุรกิจในอิหร่านกำลังสร้างแรงดึงดูดนักลงทุนจากยุโรปและสหรัฐ ด้วยจำนวนประชากร80ล้านคนซึ่งร้อยละ60อยู่ในวัยทำงานต่ำกว่า30ปีและมีวุฒิการศึกษาสูง รวมถึงชนชั้นกลางของอิหร่านที่ถูกมองว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดสินค้าหลายประเภทของยุโรป

ขณะนี้บริษัทต่างชาติหลายแห่งทั้งจากเศรษฐกิจที่พัฒนาเช่น เยอรมนี อังกฤษ สเปน สวิสเซอร์แลนด์ ฝรั้งเศสและเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาต่างมีความพร้อมที่จะแสวงหาโอกาสลงทุนในอิหร่าน โดยภายในเวลาอันสั้นหลังจากมาตรการคว่ำบาตรต่างๆถูกยกเลิก บรรยากาศทางการทูตระหว่างอิหร่านกับประเทศต่างๆจะเริ่มคึกคักมากขึ้น ซึ่งเปิดฉากด้วยการเยือนอิหร่านของผู้นำจีน ต่อจากนั้นก็เป็นการเยือนยุโรปของผู้นำอิหร่านและโอกาสนี้ได้มีการลงนามข้อตกลงทางเศรษฐกิจเพื่อเปิดทางให้ผู้ประกอบการขยายกิจกรรมการลงทุน

ทั้งนี้จากก้าวเดินเพื่อการผสมผสานอย่างเข้มแข็ง อิหร่านได้เปิดประตูต้อนรับนักลงทุนต่างชาติอย่างเต็มที่ ซึ่งภายหลังถูกโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจเพราะมาตรการคว่ำบาตรจากตะวันตก อิหร่านได้พิสูจน์ให้เห็นถึงกระบวนการผสมผสานที่เข้มแข็งด้วยศักยภาพต่างๆที่น่าสนใจสำหรับหุ้นส่วนต่างประเทศที่เคยเผชิญหน้ากันทางการเมือง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด