นายนิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอยกล่าวปราศรัยในงาน (ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย)

วัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้คือเพื่อสร้างเครือข่ายระหว่างเยาวชนทั้ง 2 ประเทศผ่านทางเทคโนโลยีดิจิทัลและ social media แทน ซึ่งเชื่อว่า เยาวชนในทั้ง 2 ประเทศจะยังสามารถร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและแบ่งปันประสบการณ์ในหลากหลายประเด็นความร่วมมือผ่าน digital platform ได้อย่างสร้างสรรค์

นายนิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอยได้เผยว่า “ปีนี้ ครบรอบ 12 ปีการจัดโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนไทย-เวียดนามและครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ เวียดนามและไทยมุ่งมั่นตั้งใจกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งในทุกด้านและทุกระดับ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเยาวชนคนรุ่นใหม่ของทั้ง 2 ประเทศ โดยกลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นพลังในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ในระดับประชาชน ความสัมพันธ์และความร่วมมือแขนงต่างๆให้พัฒนาต่อไปในอนาคต”

มีตัวแทนเยาวชนเวียดนามและไทยกว่า 50 คนเข้าร่วมผ่านทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ (ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย)

ในการนี้ บรรดาผู้แทนได้หารือถึงประเด็นต่างๆ เช่น การท่องเที่ยว วัฒนธรรม ประสบการณ์ในกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเยาวชนเวียดนามและไทยครั้งก่อนๆและแนวทางการพัฒนาเครือข่ายระหว่างเยาวชนทั้ง 2 ประเทศ เช่น การเปิด fanpage facebook ของกลุ่ม การถ่ายทำคลิปวิดีโอเกี่ยวกับกิจกรรมและความสัมพันธ์ระหว่างเยาวชนทั้งสองประเทศและแผนจัดการแลกเปลี่ยนในปี 2565ในประเทศไทยหลังจากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คุณ ด่าวถิเหิบ ซึ่งเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนในปี 2560 ได้เผยว่า “พวกเรารอคอยกิจกรรม Reunion ทุกปีเพื่อให้ทุกคนสามารถพบปะสังสรรค์และทบทวนประสบการณ์ต่างๆ 2 ปีที่ผ่านมาไม่ได้มีการจัดกิจกรรม Reunion ดังนั้น เมื่อได้ทราบข่าวกิจกรรมในปีนี้ ดิฉันรู้สึกดีใจมากและรอคอยการได้พบปะกับเพื่อนๆทั้งชาวเวียดนามและชาวไทย”

เยาวชนไทยที่เข้าร่วมผ่านทาง Zoom (ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย)

ไทยและเวียดนามได้ดำเนินโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนไทย-เวียดนามมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2552 โดยจัดที่ไทยและเวียดนามสลับกัน เมื่อปี 2562 ได้เปลี่ยนชื่อโครงการเป็น “เพื่อนมิตรไทย-เวียดนาม” เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการมากขึ้น โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโลกทัศน์และเปิดโอกาสให้เยาวชนของทั้ง 2ประเทศรู้จักกันมากขึ้นผ่านการได้เรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม และแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างกัน ในปี 2564 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้ปรับรูปแบบของโครงการเป็น “โครงการเพื่อนมิตรไทย-เวียดนาม : สานสัมพันธ์เยาวชนในยุควิถีใหม่”