การประชุมทาบทามร่วมอาเซียน
(VOVWORLD) -ในระหว่างวันที่7-8มีนาคม ณ ประเทศสิงคโปร์ ได้มีการจัดการประชุมทาบทามร่วมอาเซียนหรือJCMภายใต้หัวข้อ “อาเซียนที่พึ่งพาตนเองและมีความคิดสร้างสรรค์”เพื่อทำการตรวจสอบโครงการปฏิบัติงาน ระเบียบวาระการประชุมและเอกสารต่างๆของการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่32ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่25-28เมษายน ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งคณะผู้แทนเวียดนามนำโดยนาย เหงวียนก๊วกหยุงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและหัวหน้าคณะ SOM ASEAN เวียดนามได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
คณะผู้แทนเวียดนามนำโดยนาย เหงวียนก๊วกหยุงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว |
คาดว่า ความสามัคคีภายในกลุ่มอาเซียน การพึ่งพาตนเองในทุกด้านของภูมิภาคและความคิดสร้างสรรค์ของประชาคมจะเป็นเนื้อหาหลักของความร่วมมืออาเซียนในปี2018 นอกจากแถลงการณ์ของประธานการประชุมแล้ว บรรดาผู้นำอาเซียนจะอนุมัติแถลงการณ์เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนเกี่ยวกับอาเซียนที่พึ่งพาตนเองและมีความคิดสร้างสรรค์ เอกสารเกี่ยวกับการจัดตั้งเครือข่ายเมืองแห่งอารยธรรมอาเซียนและแถลงการณ์ผู้นำอาเซียนเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ต
เพื่อผลักดันกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน ผู้นำอาเซียนจะหารือเกี่ยวกับมาตรการยกระดับประสิทธิภาพความร่วมมืออาเซียน รวมทั้ง การเพิ่มทักษะความสามารถของคณะเลขาธิการอาเซียนและผลักดันการเชื่อมโยงในภูมิภาค
เมื่อวันที่7มีนาคม ได้มีการจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและโลก สำหรับปัญหาในทะเลตะวันออก ประเทศต่างๆได้เห็นพ้องที่จะธำรงหลักการอาเซียน ผลักดันการทาบทามกับหุ้นส่วนต่างๆ ส่งเสริมความไว้วางใจระหว่างประเทศต่างๆในภูมิภาค ที่ประชุมได้รับฟังรายงานเกี่ยวกับผลการประชุมของกลุ่มปฏิบัติงานร่วมอาเซียน-จีนครั้งที่23เกี่ยวกับการปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกัน ของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออก ณ เมืองญาจาง จังหวัดแค้งหว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ในการนี้ นาย เหงวียนก๊วกหยุง ได้ทบทวนคำมั่นของเวียดนามเกี่ยวกับการเป็นฝ่ายรุกในกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน เวียดนามชื่นชมความรับผิดชอบและบทบาทการเป็นประธานอาเซียนของสิงคโปร์ พร้อมทั้ง ยืนยันว่า อาเซียนจะส่งเสริมความสามัคคีในการแก้ไขปัญหาในภูมิภาคและโลกเพื่อมีส่วนร่วมต่อสันติภาพและเสถียรภาพ อีกทั้ง ย้ำว่า ผลการประชุมดังกล่าวมีส่วนช่วยกำหนดแนวทางการเจรจาเกี่ยวกับร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีบนพื้นฐานของกฏหมายสากล รวมทั้ง อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี1982และเอกสารต่างๆระหว่างอาเซียนกับจีน.