บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมคือผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อการปฏิวัติ นักปฏิวัติอาวุโส รวมทั้งผู้ที่ปฏิบัติภารกิจระหว่างประเทศซึ่งเคยถูกศัตรูจับกุมคุมขัง ตัวแทนของญาติของทหารพลีชีพเพื่อชาติที่มีส่วนร่วมต่อการปฏิวัติ การต่อสู้เพื่อปกป้องและพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ นาย เลืองวันอา ทหารทุพพลภาพจากจังหวัดซอกจังได้แสดงความเห็นว่า

“ผมมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้เข้าร่วมการประชุมยกย่องสดุดีผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อการปฏิวัติ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางมากรุงฮานอย ผมเห็นว่า รัฐปฏิบัตินโยบายดูแลผู้ที่อยู่ในเป้านโยบายและผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองดีมาก.”

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำถึงเป้าหมายในการระบุตัวอย่างของอัฐิทหารพลีชีพเพื่อชาติประมาณ 20,000 ตัวอย่างภายในปี 2030 เพื่อพยายามชันสูตรและระบุทหารนิรนามร้อยละ 60 ที่ยังไม่มีข้อมูลในสุสานของทหารพลีชีพเพื่อชาติ        

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยืนยันว่า พรรค รัฐและประชาชน ให้ความสนใจ ดูแลเอาใจใส่ผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและญาติของพวกเขาด้วยความเคารพ ความกตัญญูและความรับผิดชอบอันสูงส่งอยู่เสมอ

“ด้วยการส่งเสริมเกียรติประวัติ “ดื่มน้ำต้องรำลึกถึงแหล่งที่มาของน้ำ” ต้องทบทวน วิจัย ปรับปรุงและปฏิบัตินโยบาย และกฎหมายต่อผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพเพื่อให้พวกเขาและครอบครัวมีมาตรฐานการครองชีพที่ดีในท้องถิ่น เร่งดำเนินการค้นหาและรวบรวมอัฐิทหารพลีชีพเพื่อชาติ ชันสูตรและสรุปข้อมูลด้วยการใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์หลุมฝังศพของทหารพลีชีพเพื่อชาติที่ขาดข้อมูลในสุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติ ผลักดันการดึงดูดแหล่งพลังต่างๆในสังคม ปฏิบัติขบวนการตอบแทนบุญคุณต่อผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและครอบครัวของพวกเขาเป็นอย่างดี ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ การให้การศึกษาโดยเฉพาะให้แก่คนรุ่นใหม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การต่อสู้อย่างกล้าหาญของประเทศผ่านรูปแบบที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพด้วยวิธีการปฏิบัติใหม่ๆและมีความคิดสร้างสรรค์”

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้มอบของขวัญและแสดงความสำนึกในบุญคุณต่อผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อการปฏิวัติ คุณแม่วีรชนและนักปฏิวัติอาวุโส.