ในการตอบคำถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเยือนนี้ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำออสเตรเลีย โงเฮื้องนามได้เผยว่า การที่นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียตัดสินใจมาเยือนเวียดนามหลังจากที่ขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเป็นการแสดงให้เห็นว่า ออสเตรเลียให้ความสำคัญต่อเวียดนามและความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ

ซึ่งจุดเด่นในการเยือนครั้งนี้คือทั้งสองฝ่ายจะพัฒนายุทธศาสตร์การผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ โดยตั้งเป้าไว้ว่า จะกลายเป็น 1 ใน 10 หุ้นส่วนการค้าชั้นนำของกัน ควบคู่กันนั้น การที่ทั้งสองประเทศผลักดันการปฏิบัติข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าภาคพื้นแปซิฟิกหรือ CPTPP จะเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ

การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียจะมีส่วนร่วมขยายความร่วมมมือระหว่างสองประเทศในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน ความมั่นคงด้านพลังงาน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินและความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ต เป็นต้น

คาดว่า ผู้นำทั้งสองประเทศจะหารือเกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาคและโลก เอกอัครราชทูต โงเฮื้องนามได้เผยว่า การรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือและการบิน การให้ความเคารพกฎหมายสากล โดยเฉพาะ อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ไม่มีปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียว มีลักษณะบังคับ ปรับเปลี่ยนสภาพเดิมและทำให้สถานการณ์ทวีความซับซ้อนและความตึงเครียดมากขึ้นเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจร่วมของทั้งเวียดนาม ออสเตเลียและภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย-แปซิฟิก.