คณะผู้แทนเวียดนามเข้าร่วมการประชุม

ในการกล่าวปราศรัยเปิดการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โงซวนหลีกได้ย้ำว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชีวิตและเศรษฐกิจของหลายประเทศ  อีกทั้ง ทำให้สันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคยิ่งเปราะบางมากขึ้นเพราะความเสี่ยงจากการก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ ความมั่นคงทางทะเล ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์และความมั่นคงของแหล่งน้ำมีเพิ่มสูงขึ้น

ในสภาวการณ์ดังกล่าว อาเซียนได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่ง "การเป็นหนึ่งเดียว" และ "พร้อมปรับตัว" ตรงตามหัวข้อของปีอาเซียนปี 2020 เพราะปี 2020 ได้เล็งเห็นถึงการพัฒนาที่เข้มแข็งของความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างประเทศอาเซียน โดยเฉพาะในด้านการป้องกันและรับมือโรคโควิด -19 ด้วยผลงานที่เป็นรูปธรรมของโครงการต่างๆ เช่น กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือโควิด-19 คลังอุปกรณ์การแพทย์อาเซียน แผนแบบบูราณาการเกี่ยวกับการฟื้นฟูอาเซียหลังโควิด-19 ในด้านกลาโหม รัฐมนตรี โงซวนหลีก ย้ำว่า “เรายังคงธำรงความร่วมมือด้านกลาโหมอาเซียนผ่านการใช้แพลตฟอร์มทางเทคนิคที่เป็นนวัตกรรมใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์เพื่อสนับสนุนการประสานงาน การติดต่อและการจัดการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ บนพื้นฐานของแถลงการณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านกลาโหมเกี่ยวกับการป้องกันโรคระบาดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 พวกเราได้ผลักดันความร่วมมือในการป้องกันและรับมือโรคโควิด-19 ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ การสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ ร่วมมือควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดน ร่วมมือพัฒนาชุดทดสอบและวัคซีน ... และได้ประสบความสำเร็จในการจัดฝึกซ้อมแก้ไขกรณีป้องกันและรับมือโควิด -19 ของกองกำลังเสนารักษ์อาเซียนเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2020”

ในการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของ 10 ประเทศอาเซียนได้พิจารณาและอนุมัติข้อคิดริเริ่มต่างๆเพื่อผลักดันความร่วมมือด้านกลาโหมอาเซียน แผนปฏิบัติการใน 3 ปีของ ADMM ตั้งแต่ปี 2020-2022 โดยเฉพาะ แถลงการณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านกลาโหมเพื่ออาเซียนที่เป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัว

ในการกล่าวปราศรัยปิดการประชุม พลเอก โงซวนหลีก ได้ยืนยันว่า การอนุมัติแถลงการณ์ อาเซียนได้แสดงให้เห็นถึงความสามัคคี ความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์และคำมั่นต่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาค

ส่วนบรรดารัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนได้ชื่นชมการเป็นฝ่ายรุกและการเตรียมอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพของเวียดนามในปีประธานอาเซียน 2020 และยืนยันว่า ด้วยความพยายามภายในของแต่ละประเทศและการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศสมาชิก อาเซียนมุ่งมั่นที่จะไม่ให้การแพร่ระบาดส่งผลกระทบต่อความร่วมมือด้านกลาโหมอาเซียน เห็นพ้องกันว่า ในเวลาที่จะถึง ประเทศอาเซียนต้องผลักดันการเป็นฝ่ายรุกและการเชื่อมโยงอาเซียนในการปรับตัวกับกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ผ่านการผลักดันความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ตลอดจนกับประเทศต่างๆเพื่อรับมือความท้าทายด้านความมั่นคงแบบเก่าและแบบใหม่เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาของภูมิภาค ยกระดับบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในภูมิภาคและโลก./.