นายกรัฐมนตรีเวียดนามมีความประสงค์ว่า สหรัฐจะกลายเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม
(VOVWORLD) -เมื่อค่ำวันที่ 30 พฤษภาคม ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหงียนซวนฟุ๊กได้เข้าร่วมการเสวนากับกลุ่มบริษัทและสถานประกอบการชั้นนำของสหรัฐและเข้าร่วมงานราตรีต้อนรับที่จัดโดยหอการค้าสหรัฐและสภาสถานประกอบการสหรัฐ – อาเซียน
นายกรัฐมนตรีเวียดนามมีความประสงค์ว่า สหรัฐจะกลายเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม |
โดยในการกล่าวปราศรัยต่อผู้ประกอบการเวียดนามและสหรัฐ 300 คน นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้ย้ำว่า เวียดนามกำลังเป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ เวียดนามมีความได้เปรียบคือมีแรงงานจำนวนมาก มีคุณภาพและค่าจ้างถูก การเมือง สังคมและเศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ ซึ่งอำนวยความสะดวกให้การลงทุนประกอบธุรกิจมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญและสิทธิพิเศษต่อการขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐ ชมรมสถานประกอบการสหรัฐมีบทบาทสำคัญและมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพต่อภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ ผสมผสานและพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเวียดนามของสหรัฐยังไม่สูงนักโดยอยู่อันดับที่ 9 ในจำนวนทั้งหมด 116 ประเทศและดินแดนและเสนอว่า “สำหรับการลงทุน พวกเราส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนสหรัฐลงทุนในด้านที่เวียดนามให้สิทธิพิเศษและเป็นจุดแข็งของสหรัฐ เช่น เทคโนโลยีขั้นสูง พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน การศึกษาฝึกอบรม การเงินและธนาคาร ในโอกาสนี้ รัฐบาลเวียดนามส่งเสริมให้สถานประกอบการเวียดนามลงทุนในสหรัฐและในความเป็นจริงมีนักลงทุนเวียดนามหลายคนได้ลงทุนในสหรัฐในเวลาที่ผ่านมา”
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้ให้การต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ วิลเบอร์ รอสส์ โดยถือว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศยังมีศักยภาพอีกมากเนื่องจากเป็นเศรษฐกิจที่สนับสนุนกัน นายกรัฐมนตรีเวียดนามเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรับรองระเบียบเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามโดยเร็ว ประเมินอย่างมีภาวะวิสัยเกี่ยวกับปัญหาการขาดดุลการค้าระหว่างสองประเทศอย่างถูกต้อง แก้ไขปัญหาการค้าระหว่าสองประเทศบนพื้นฐานกรอบข้อตกลงเกี่ยวกับการค้าการลงทุน TIFA และข้อกำหนดต่างๆขององค์การการค้าโลก นายกรัฐมนตรีเวียดนามแสดงความประสงค์ว่า สหรัฐจะอำนวยความสะดวกให้สินค้าการเกษตรของเวียดนาม เช่น ผลไม้และสัตว์น้ำเจาะตลาดสหรัฐ ส่วนรัฐมนตรี วิลเบอร์ รอสส์ได้ยืนยันถึงเป้าหมายร่วมกันคือ พยายเพิ่มอัตราการขยายตัวด้านการค้าระหว่างสองประเทศให้สูงที่สุดบนพื้นฐานของความยุติธรรมและได้รับประโยชน์ร่วมกัน พร้อมทั้งเห็นพ้องกันว่า ทั้งสองฝ่ายควรหารือเกี่ยวกับปัญหารับรองระเบียบเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนาม.