ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอียูกับเวียดนาม หรือ EVFTA และข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุน หรือ EVIPA จะช่วยกระชับความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับอียู

สำนักข่าว Reuters ได้รายงานว่า อียูชื่นชมสภาแห่งชาติเวียดนามที่ให้สัตยาบันอนุสัญญาฉบับที่ 98 ขององค์การแรงงานสากลว่าด้วยการประยุกต์ใช้หลักการของสิทธิในการรวมตัวและการเจรจาต่อรองร่วม และมีแผนอนุมัติประมวลกฎหมายแรงงานฉบับแก้ไข พร้อมทั้งชื่นชมรัฐบาลเวียดนามที่มีแผนยื่นเสนออนุสัญญาฉบับที่ 105 และฉบับที่ 87 ขององค์การแรงงานสากลให้สภาแห่งชาติให้สัตยาบันภายในปี 2020 และปี 2023

ส่วนหนังสือพิมพ์ The New York Times ของสหรัฐได้รายงานว่า การลงนาม EVFTA และ EVIPA ได้แสดงให้เห็นถึงคำมั่นของอียูเกี่ยวกับการเปิดตลาดและการส่งเสริมการค้าเสรีในขณะที่ต้องรับมือกับลัทธิการคุ้มครองกาค้าและปัญหาความตึงเครียดด้านการค้าโลก ส่วนนอกรอบการประชุมผู้นำกลุ่มจี 20 ณ ประเทศญี่ปุ่น นาย ฌอง โคลด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมการยุโรปได้เผยว่า ในวาระการปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 5ปีของตน อียูได้เสร็จสิ้นการเจรจาและลงนามข้อตกลงการค้ากับ 15 ประเทศและได้รับประโยชน์จากการเปิดเสรีด้านการค้ากับ 72 ประเทศ.

ส่วนเว็บไซต์ irishexaminer.com ได้ลงบทความที่ระบุว่า EVFTA ได้เปิดโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ผู้ส่งออกของไอรแลนด์ โดยเฉพาะในด้านการเกษตร พร้อมทั้งส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงสหรัฐว่า การเปิดเสรีการค้าคือแนวโน้มในอนาคต ส่วนสำหรับประเทศที่มีแผนถอนตัวจากอียู เช่น อังกฤษ อียูต้องการส่งสาส์นว่า อียูจะปฏิบัติข้อตกลงการค้าต่างๆอย่างจริงจัง

ส่วนหนังสือพิมพ์ The Insider Stories ได้รายงานว่า EVFTA จะช่วยผลักดันการเชื่อมโยงระหว่างอียูกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และกระชับความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับอียู.