ในการนี้ ประธานประเทศ โตเลิม ได้ยืนยันว่า อียูเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของเวียดนาม เสนอให้ทั้งสองฝ่ายผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทน ปฏิบัติข้อตกลงหุ้นส่วนและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับอียู ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับอียูและข้อตกลงฉบับต่างๆ พร้อมทั้งเสนอให้อียูส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกที่เหลือให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม-อียู ยกเลิกใบเหลืองต่อการส่งออกสัตว์น้ำของเวียดนาม  ให้ความช่วยเหลือเวียดนามในการปฏิบัติความตกลงการเป็นพันธมิตรด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรม หรือ JETP ผลักดันความร่วมมือทางไซเบอร์ ความมั่นคงทางทะเล การป้องกันและรับมือภัยธรรมชาติ เป็นต้น เวียดนามพร้อมเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอียูกับภูมิภาค รวมทั้งการส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับอียู

ส่วนนาย โจเซฟ บอร์เรลล์ ยืนยันว่า อียูถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนชั้นนำในภูมิภาค อียูกำลังปฏิบัติยุทธศาสตร์ ความคิดริเริ่มต่างๆ รวมทั้ง โครงการร่วมมือกับอาเซียนและในเวียดนาม มีความประสงค์ที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่และเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะนับวันพัฒนาอย่างเข้มแข็ง เพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย

 ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ประเทศต่างๆต้องมีส่วนร่วมต่อการรักษาความมั่นคงและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก ทุกการปะทะต้องได้รับการแก้ไขด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากลและกฎบัตรสหประชาชาติ สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก นาย โจเซฟ บอร์เรลล์ ย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของทะเลตะวันออกในการแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายยืนยันสนับสนุนการค้ำประกันความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบิน แก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกด้วยสันติวิธี สอดคล้องกับกฎหมายสากล

ในวันเดียวกัน นาย เลหว่ายจุง หัวหน้าคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ส่วนกลางได้ให้การต้อนรับ รองประธานอีซี โจเซฟ บอร์เรลล์.