ผลักดันกลไกร่วมมืออาเซียน+3 ในระยะหลังจัดตั้งประชาคม
(VOVWORLD) - ในกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนหรือเอเอ็มเอ็มครั้งที่ 51 ได้มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนกับ 3 ประเทศหุ้นส่วนประกอบด้วยจีน สาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นในเช้าวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นปฏิบัติแผนปฏิบัติการอาเซียน+3 ระยะที่ 3 ตั้งแต่ปี 2018-2022
บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนหรือเอเอ็มเอ็มครั้งที่ 51 (Photo VNplus)
|
บรรดารัฐมนตรีได้ให้คำมั่นสนับสนุนบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในภูมิภาคและผลักดันกลไกร่วมมืออาเซียน+3 อย่างมีประสิทธิภาพและจริงจัง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ามบิ่งมิงห์ ได้นำคณะผู้แทนเวียดนามเข้าร่วมการประชุม
บรรดารัฐมนตรีได้สรุปผลสำเร็จ 20 ปีของการจัดตั้งกลไกอาเซียน+3 และเห็นพ้องกันว่า นี่คือกลไกสำคัญ เป็นกุญแจเพื่อผลักดันการพัฒนาและเสถียรภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเอเชียแปซิฟิก กลไกอาเซียน+3 ได้ส่งเสริมผลงานที่น่ายินดีในทุกด้าน โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างอาเซียนกับ 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อปี 2017 บรรลุ 8 แสน 7 หมื่น 3 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 32 ของยอดมูลค่าการแลกเปลี่ยนการค้าของอาเซียน
ในการกล่าวปราศรัยต่อสื่อมวลชน นาย หวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้แสดงความเห็นว่า ความร่วมมือของกลไกอาเซียน+3 มีความหมายสำคัญต่อการผลักดันความเจริญรุ่งเรืองในเอเชียตะวันออก
สำหรับปัญหาในภูมิภาคและโลก บรรดาผู้แทนได้ชื่นชมการเคลื่อนไหวที่น่ายินดีบนคาบสมุทรเกาหลีเมื่อเร็วๆนี้ และยืนยันสนับสนุนสันติภาพ เสถียรภาพและการปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี
สำหรับสถานการณ์ในทะเลตะวันออก ประเทศต่างๆได้ย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย เสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก และแสดงความเห็นว่า นี่คือผลประโยชน์ร่วมของทุกประเทศ อีกทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีความรับผิดชอบ ต้องใช้ความอดกลั้น ไม่มีปฏิบัติการแต่เพียงฝ่ายเดียวที่ทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อน ไม่มีปฏิบัติการทางทหารและแก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติบนพื้นฐานกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ผลักดันกระบวนการเจรจาซีโอซี บรรดารัฐมนตรียังชื่นชมก้าวเดินใหม่ระหว่างอาเซียนกับจีนในการบรรลุความเห็นพ้องอย่างเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับเอกสารฉบับเดียวในกระบวนการหารือเกี่ยวกับซีโอซี เพื่อสร้างพื้นฐานให้แก่การเจรจาซีโอซีในอนาคต.