ผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อสันติภาพและเสถียรภาพของทะเลตะวันออก
(VOVworld) – คำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการ ณ กรุงเฮกได้ช่วยกำหนดและลดขอบเขตทะเลที่มีการพิพาทในทะเลตะวันออก อีกทั้งเปิดโอกาสให้แก่การแก้ไขและบริหารการพิพาทในทะเลตะวันออกผ่านมาตรการทางนิตินัย ช่วยให้ทุกฝ่ายที่มีการพิพาทอื่นๆพิจารณาเลือกใช้มาตรการสันติในการแก้ไขการพิพาทในทะเลตะวันออก
ผู้แทนที่เข้าร่วมการสัมมนา(dantri.com.vn) |
(VOVworld) – การสัมมนาเชิงวิชาการระหว่างประเทศครั้งที่ 8 เกี่ยวกับทะเลตะวันออกภายใต้หัวข้อ “ทะเลตะวันออกเพื่อความมั่นคงและการพัฒนาภูมิภาค” ซึ่งจัดโดยสถาบันการทูตและกองทุนให้การช่วยเหลือการวิจัยทะเลตะวันออกและสมาคมนักกฎหมายเวียดนามที่มีขึ้น ณ เมืองญาจาง จังหวัดแค๊งหว่าได้เสร็จสิ้นลงในบ่ายวันที่ 15 พฤศจิกายน ในการประชุม 7 นัด บรรดาผู้แทนได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งในระดับภูมิภาคและโลก การเคลื่อนไหวเมื่อเร็วๆนี้ในทะเลตะวันออก เนื้อหาด้านนิตินัย เศรษฐกิจ ความมั่นคง การเมืองและประวัติศาสตร์ของการพิพาทในทะเลตะวันออก และศักยภาพเกี่ยวกับมาตรการบริหารและแก้ไขการพิพาทในภูมิภาค บรรดาผู้แทนได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องเส้นประ 9 เส้นของจีนในทะเลตะวันออก เพราะคำเรียกร้องนี้ไม่มีหลักฐานทางนิตินัยและวิชาการรองรับ ซึ่งในทางเป็นจริง จีนยังคงธำรงและผลักดันการปรากฎตัวและควบคุมทะเลตะวันออก รวมทั้งแนวหินสการ์โบโรและหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลของเวียดนาม ขยายการก่อสร้างและติดตั้งอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนเป้าหมายทางทหารและสำรวจในบริเวณเกาะจื๋อเถิบ แหว่งคันและซูบีซึ่งได้แสดงให้เห็นว่า จีนไม่เปลี่ยนแปลงเป้าหมายในระยะยาวคือควบคุมทะเลตะวันออกทั้งหมด นี่คือเหตุผลสำคัญที่สร้างความตึงเครียดในภูมิภาค บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมกล่าวว่า ประเทศต่างๆในภูมิภาคต้องผลักดันบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการบริหารการพิพาทในทะเลตะวันออก ทุกฝ่ายต้องร่วมรักษาสภาพเดิม ไม่มีปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวในทะเลตะวันออก ผลักดันกลไกความร่วมมือทวิภาคีและไตรภาคี ตลอดจนการร่างระเบียบการป้องกันการกระทบกระทั่งที่เกิดขึ้นในทะเล การร่วมมืออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและแหล่งทรัพยากรน้ำ ในการตอบคำถามของสื่อมวลชนนอกรอบการสัมมนา พลจัตวา Michael McDevitt ทหารเกษียณอายุราชการ นักวิจัยระดับสูงของโครงการวิจัยยุทธศาสตร์สังกัดศูนย์วิเคราะห์กองทัพเรือของสหรัฐได้แสดงความเห็นว่า สถานการณ์ในทะเลตะวันออกในเวลาอันใกล้นี้จะยังคงมีเสถียรภาพ ส่วนในการแสดงความเห็นเกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการ ณ กรุงเฮกและผลกระทบต่อทัศนะทางนิตินัยของทุกฝ่ายที่มีการพิพาท รองศาสตราจารย์ ดร. เหงียนถิลานแอง รองหัวหน้าสถาบันเกี่ยวกับทะเลตะวันออกสังกัดสถาบันการทูตได้แสดงความเห็นว่า คำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการ ณ กรุงเฮกได้ช่วยกำหนดและลดขอบเขตทะเลที่มีการพิพาทในทะเลตะวันออก อีกทั้งเปิดโอกาสให้แก่การแก้ไขและบริหารการพิพาทในทะเลตะวันออกผ่านมาตรการทางนิตินัย ช่วยให้ทุกฝ่ายที่มีการพิพาทอื่นๆพิจารณาเลือกใช้มาตรการสันติในการแก้ไขการพิพาทในทะเลตะวันออก
ดร. Vladimir Evseev รองผู้อำนวยการสถาบันกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช หรือ SNG ของรัสเซียได้ยืนยันถึงความสำคัญของการแก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติ ย้ำถึงบทบาทให้ความเคารพกฎหมาย ปฏิบัติตามกฎหมายสากลในการแก้ไขการพิพาทในทะเลตะวันออก พร้อมทั้งแสดงความเห็นว่า ทุกการปะทะทางดินแดนต้องได้รับการแก้ไขผ่านมาตรการสันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากล ซึ่งการแก้ไขไม่ได้เน้นถึงชัยชนะของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากเป็นการสร้างสรรค์ระบบความมั่นคงภูมิภาคบนพื้นฐานของเสถียรภาพ.