ภาพของพิธี

ในการกล่าวปราศรัยในพิธี ประธานรัฐสภาฝรั่งเศส Francois De Rugy ได้เผยว่า “ในศตวรรษนี้ ซึ่งเป็นศตวรรษของภูมิภาคเอเชีย เวียดนามเป็นหุ้นส่วนหลักของฝรั่งเศสในภูมิภาค ซึ่งพวกเรามีความตั้งใจเพื่อเสร็จสิ้นการจัดทำข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศในทุกด้านเพื่อขยายความสัมพันธ์ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ  วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ รัฐสภา การทหารและยุทธศาสตร์ ซึ่งข้อตกลงด้านวิทยาศาสตร์และการบินที่จะได้รับการลงนามเป็นการแสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวและความหลากหลายของความสัมพันธ์นี้ เวียดนามเป็นเสาหลักของอาเซียน เป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวจีดีพีที่เพิ่มขึ้น15เท่าในรอบ30ปีที่ผ่านมา   ผมหวังว่า ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับอียูที่จะมีผลบังคับใช้ในปีนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนบริษัทฝรั่งเศสที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม”

ในการกล่าวปราศรัยในพิธี ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯได้ย้ำว่า ฝรั่งเศสเป็นหุ้นส่วนชั้นนำของเวียดนามในยุโรปและโลก ความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของเวียดนาม “การผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ พวกเราต้องพยายามกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมือง การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง ยกระดับประสิทธิภาพของกลไกการสนทนาและความร่วมมือ ในด้านต่างๆ เช่น การเมือง การทูต กลาโหม ความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พลังงาน สาธารณสุข วัฒนธรรม การศึกษา การท่องเที่ยวและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นต้น ขยายการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆและการประสานงานในปัญหาภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน”

ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯเวียดนามได้แสดงความเห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสไม่เพียงแต่อยู่ในกรอบความร่วมมือระดับทวิภาคีเท่านั้นหากยังอยู่ในกรอบความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรปกับเวียดนามและนโยบายของฝรั่งเศสต่ออาเซียนอีกด้วย เวียดนามมีความประสงค์ว่า ฝรั่งเศสให้การสนับสนุนเวียดนามในการพัฒนาความสัมพันธ์กับอียู เวียดนามพร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมเพื่อให้สถานประกอบการฝรั่งเศสเข้าถึงตลาดอาเซียนและประเทศสมาชิกข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกหรือCPTPP.