ท่านเหงียนซิงหุ่ง ประธานรัฐสภากล่าวสุนทพจน์ต่อที่ประชุมครรบองค์ของรัฐสภาพม่า

(VOVworld) – ในกรอบการเยือนพม่า เช้าวันที่ 25 กรกฎาคม ท่าน เหงียนซิงหุ่ง ประธานรัฐสภาได้กล่าวสุนทพจน์ต่อที่ประชุมครรบองค์ของรัฐสภาพม่าโดยยืนยันว่า สัมพันธไมตรีที่มีมาช้านาน ความไว้วางใจและความผูกพันระหว่างเวียดนามกับพม่าจะพัฒนามากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐสภาพม่าจะอยู่เคียงข้างกับรัฐบาลพม่าในภารกิจการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองและพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ท่านประธานรัฐสภาได้ย้ำว่า “การผลักดันการพัฒนาสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านระหว่างเวียดนามกับพม่าไม่เพียงแต่เป็นความต้องการที่จำเป็นในการพัฒนาเท่านั้น หากยังเป็นความปรารถนาของประชาชน ความรับผิดชอบของบรรดผู้นำของทั้งสองประเทศ เป็นปัจจัยเพื่อค้ำประกันให้แก่ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาประเทศของแต่ละประเทศอีกด้วย พร้อมทั้งมีส่วนร่วมรักษา เสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคและโลก”

บ่ายวันเดียวกัน ท่าน เหงียนซิงหุ่งได้ให้การต้อนรับประธานสภาล่างเขต ย่างกุ้งและผู้ว่าการเขตย่างกุ้งโดยให้ความสำคัญต่อความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆของทั้งสองประเทศ รวมทั้งนครโฮจิมินห์กับเมืองย่างกุ้ง พร้อมทั้งเสนอให้ผู้ว่าการเขตย่างกุ้งส่งเสริมให้รัฐบาลพม่าพิจารณา อำนวยความสะดวกเพื่อให้สถานประกอบการเวียดนามลงทุนในพม่า โดยเฉพาะโครงการลงทุนในเขตย่างกุ้งจะได้รับการปฏิบัติอย่างสะดวกและรวดเร็ว ทั้งสองประเทศ รวมทั้งท้องถิ่นต่างๆต้องผลักดันการแลกเปลี่ยนกิจกรรมด้านวัฒนธรรม การประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประชาชาติของทั้งสองประเทศ

ท่านเหงียนซิงหุ่ง ประธานรัฐสภาและประธานรัฐสภาพม่า (Vietnamplus)

ก่อนหน้านั้น เมื่อบ่ายวันที่ 24 กรกฎาคม ณ กรุง เนปีดอ ประเทศพม่า ท่านเหงียนซิงหุ่ง ประธานรัฐสภาและคณะผู้แทนระดับสูงของรัฐสภาเวียดนามได้เจรจากับนาย ขิ่น อ่อง มินต์ ประธานวุฒิสภาและประธานรัฐสภาพม่า เข้าพบนาย ฉ่วยมานน์ ประธานสภาล่างและเข้าเยี่ยมคาราวะ พลเอก เต็งเส่ง ประธานาธิบดีพม่าโดยในการเจรจาต่างๆ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า สำนักงานต่างๆของรัฐสภาทั้งสองประเทศต้องผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทน ประสบการณ์ในด้านนิติบัญญัติ การตรวจสอบและปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงการปฏิบัติงานของรัฐสภา พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า จะร่วมมือ สนับสนุนและประสานงานอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มรัฐสภาระหว่างประเทศ ปฏิบัติข้อตกลงที่ได้บรรลุอย่างเข้มแข็งและส่งเสริมระเบียบการที่กำลังปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้ความสัมพันธ์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศพัฒนาอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น./.