รับมือและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศคือหน้าที่อันดับต้นๆ
(VOVworld)–เวียดนามได้เข้าร่วมและเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของกรอบอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและพิธีสารเกียวโต
|
(VOVworld) – เช้าวันที่ 10 ตุลาคม ณ กรุงฮานอย กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทร่วมกับกระทรวงทรัพยากรณ์และสิ่งแวดล้อม องค์การสหประชาชาติประจำเวียดนามและธนาคารโลกจัดฟอรั่มแห่งชาติเกี่ยวกับการลดภัยธรรมชาติและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 3
ในการกล่าวปราศรัย ณ ฟอรั่ม ท่านหว่างจูงหาย รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจะส่งผลกระทบในทางลบต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของหลายประเทศ รวมทั้งเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่ถือว่าจะได้รับผลกระทบอันหนักหน่วง ดังนั้นเพื่อเป็นฝ่ายรุกในการรับมือกับปัญหานี้ เวียดนามจึงได้เข้าร่วมและเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของกรอบอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและพิธีสารเกียวโตอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งปฏิบัติขั้นตอนต่างๆเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปฏิบัติโครงการประหยัดพลังงาน ต่อต้านการบุกรุกและทำลายป่าและส่งเสริมการปลูกป่าชายเลนเพื่อป้องกันน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง เป็นต้น ท่านหว่างจูงหายชี้ชัดว่า “ เวียดนามถือการปรับตัวและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดและเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดังนั้นจึงได้ออกระเบียบการและนโยบายต่างๆ รวมทั้งเพิ่มการติดตาม การประชาสัมพันธ์และความสามารถในการป้องกันโดยเริ่มต้นด้วยการยกระดับความรู้ของประชาชนและทางการปกครองทุกระดับเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเพราะว่าถ้าหากประชาชนไม่เตรียมพร้อมก็จะประสบความเสียหายอย่างหนักหน่วง”
ในฟอรั่ม ผู้แทนทุกคนได้ชื่นชมผลสำเร็จของการปฏิบัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้อนุมัติเมื่อปี 2011 และดำเนินกรอบการปฏิบัติงานเฮียวโกะช่วงปี 2011-2013 ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เตือนว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศนับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้นดังนั้นกระทรวง หน่วยงานและทางการปกครองทุกระดับต้องนำโครงการและนโยบายเกี่ยวกับการรับมือกับภัยธรรมชาติระบุในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการป้องกันเพื่อลดภัยธรรมชาติและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนยกระดับความสามารถของชุมชนในการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเพื่อเป็นฝ่ายรุกในการรับมือกับภัยธรรมชาติและสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปรกติโดยเร็วภายหลังเกิดภัยธรรมชาติ./.