สถานการณ์ความตึงเครียดหลังตุรกียิงเครื่องบิน SU-24ของรัสเซียตก
(VOVworld) - เหตุเครื่องบินรบของรัสเซียที่เข้าร่วมการโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มก่อการร้าย ในซีเรียถูกจรวดอากาศสู่อากาศของตุรกียิงตกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ได้ทำให้สถานการณ์ในภูมิภาค โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตุรกีมีความตึงเครียดอย่างไม่เคยมีมา ก่อน
สถานที่เกิดเหตุ (Photo: TASS)
|
(VOVworld) - เหตุเครื่องบินรบของรัสเซียที่เข้าร่วมการโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มก่อการร้ายในซีเรียถูกจรวดอากาศสู่อากาศของตุรกียิงตกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ได้ทำให้สถานการณ์ในภูมิภาค โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตุรกีมีความตึงเครียดอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยในตลอดคืนวันที่ 24 พฤศจิกายน สถานีโทรทัศน์ของรัสเซียได้เผยแพร่ภาพเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวและการแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวของทางการรัสเซีย ก่อนหน้านั้น เมื่อบ่ายวันที่ 24 ที่ผ่านมา หลังการประชุมฉุกเฉินเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกนาโต้ตามข้อเสนอของตุรกี ณ กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยมได้มีการออกแถลงการณ์ที่เรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆธำรงการพบปะกัน ใช้ความอดกลั้นและหลีกเลี่ยงปฏิบัติการที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น นาย เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ได้ยํ้าว่า มาตรการทางการทูตและการหลีกเลี่ยงปฏิบัติการที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นเพื่อแก้ไขวิกฤตและต้องแสวงหากลไกที่เหมาะสมเพื่อไม่ปล่อยให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวอีก ส่วนนาย บันคีมุน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้เผยว่า ตนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆมีปฏิบัติการที่เร่งด่วนเพื่อลดความตึงเครียด ส่วนประธานาธิบดีสหรัฐและประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เร่งรัดให้รัสเซียและตุรกีธำรงการสนทนาและหลีกเลี่ยงปฏิบัติการที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการพบปะโดยตรงระหว่างรัสเซียกับนาโต้ แต่รัสเซียได้แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวต่อตุรกีและนาโต้ โดยได้เผยว่า การกระทำของตุรกีก็เพื่อตอบโต้การโจมตีของรัสเซียใส่ระบบท่อส่งนํ้ามันดิบจากเขตที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอสไปยังตุรกี ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างฝ่ายต่างๆเกี่ยวกับการประสานงานในการต่อต้านกลุ่มไอเอสและส่งผลกระทบในทางลบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตุรกี และระหว่างรัสเซียกับประเทศที่กำลังต่อต้านกลุ่มไอเอสโดยในการพบปะกับกษัตริย์แห่งจอร์แดนอับดุลเลาะห์ นาย วลาดีเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้ประณามการกระทำของตุรกีโดยถือเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ ส่วนรัฐสภารัสเซียได้เห็นพ้องที่จะมีมาตรการควํ่าบาตรตุรกี ส่วนนาย เซอร์เก ลาฟรอฟรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ยกเลิกการเยือนตุรกีในวันที่ 25 พฤศจิกายน พร้อมทั้งเตือนประชาชนรัสเซียว่า ไม่ควรเดินทางไปยังตุรกี ส่วนที่กรุงมอสโคว์ ประชาชนรัสเซียหลายร้อยคนได้ทำการชุมนุมประท้วงด้านหน้าสถานทูตตุรกีประจำรัสเซีย.
เดียบแอง-นักข่าววีโอวีประจำรัสเซีย