เวียดนาม – ไทยเห็นด้วยว่า มูลค่าการค้าทวิภาคีจะเป็น1หมื่น5พันล้านเหรียญสหรัฐในปี2020
(VOVworld)–เวียดนามและไทยได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความร่วมมือทวิภาคีในหลายด้าน เช่น การเมือง การกลาโหมกับความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษา การพบปะสังสรรค์ในระดับประชาชนและความร่วมมือระดับภูมิภาคและโลก
|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม -นายกรัฐมนตรีไทย(VOV)
|
(VOVworld) – เมื่อบ่ายวันที่ 5 เดือนนี้ การประชุมครั้งแรกคณะกรรมการผสมความร่วมมือทวิภาคีเวียดนาม–ไทยได้เสร็จสิ้นลง ณ กรุงเทพฯ ภายหลังการประชุมเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ เวียดนามและไทยได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความร่วมมือทวิภาคีในหลายด้าน เช่น การเมือง การกลาโหมกับความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษา การพบปะสังสรรค์ในระดับประชาชนและความร่วมมือระดับภูมิภาคและโลกและยืนยันว่า ให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทศาสตร์ใหม่ที่ได้รับการสถาปนาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งหารือรายละเอียดโครงการปฏิบัติเวียดนาม – ไทยช่วงปี 2014 – 2018 เพื่อสามารถลงนามกันในโอกาสการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมเวียดนาม – ไทยครั้งที่ 3 ที่จะจัดขึ้นในเร็วๆนี้ ตลอดจนเห็นพ้องกันที่จะปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อเพิ่มยอดมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1หมื่น 5 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2020 สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ซึ่งรวมไปถึงความมั่นคงทางทะเล การเดินเรืออย่างปลอดภัยและเสรีในทะเลตะวันออกโดยย้ำถึงหลักการที่จะแก้ไขความพิพาทด้วยสันติวิธีและสอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและยืนยันถึงความร่วมมือเพื่อผลักดันการอนุมัติร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว
ในที่ประชุม เวียดนามและไทยได้อนุมัติบันทึกความตกลงและเห็นพ้องกันที่จะจัดการประชุมครั้งที่สอง ณ ประเทศเวียดนามในปี 2014
ก่อนหน้านั้น ในการให้การต้อนรับนายฝ่ามบิ่งมิงห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยได้ชื่นชมความสัมพันธ์ไทยกับเวียดนามและความหมายของการประชุมครั้งนี้โดยถือเป็นกลไกที่สำคัญเพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนายิ่งขึ้น ตลอดจนยืนยันว่า ไทยจะพยายามมีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพและการเดินเรืออย่างเสรีในทะเลตะวันออกโดยเรียกร้องให้ทุกประเทศอาเซียนขยายการพบปะหารือและพยายามมากขึ้นเพื่ออนุมัติร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว./.