ในการกล่าวปราศรัยเปิดประชุม นายกรัฐมนตรีประเทศเจ้าภาพปาปัวนิวกินี ปีเตอร์โอนีลล์ได้ย้ำถึงความหมายของการประชุมเอเปกภายใต้หัวข้อ “ใช้โอกาสที่คลอบคลุม ส่งเสริมการพัฒนาอนาคตยุคดิจิตอล” ที่ยกย่องบทบาทของเอเปกในฐานะเป็นฟอรั่มเศรษฐกิจชั้นนำของภูมิภาค มีส่วนร่วมผลักดันการเปิดเสรีการค้าการลงทุน ทำให้เอเชีย-แปซิฟิกเป็นพลังขับเคลื่อนของการขยายตัวและการเชื่อมโยงทั่วโลก

บรรดาผู้นำเอเปกได้ร่วมการสนทนากับผู้นำกองทุนการเงินระหว่างประเทศไอเอ็มเอฟ กรีสติน ลาการ์ด เกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายต่อเศรษฐกิจโลกและภูมิภาค ซึ่งนายกฯเวียดนามได้กล่าวย้ำว่าเอเปกต้องกระชับการประสานความร่วมมือกับกลไกพหุภาคีต่างๆโดยเฉพาะไอเอ็มเอฟเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ บริหารเศรษฐกิจการเงินโลกให้สมดุล การขยายตัวที่คลอบคลุมและมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงสร้างสรรค์

ในการประชุมนัดสำคัญเกี่ยวกับการเชื่อมโยงเพื่อการพัฒนาอย่างคลอบคลุมผ่านอนาคตยุคดิจิตอล บรรดาผู้นำเอเปกได้เห็นพ้องแผนปฏิบัติการเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล ผลักดันความร่วมมือเพื่อยกระดับทักษะการพัฒนา เข้าถึงระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิตอล ระดมทุกภาคส่วนของสังคมเข้าร่วมพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและมีคุณภาพ ผู้นำเอเปกได้ยืนยันคำมั่นผลักดันการเสร็จสิ้นเป้าหมายโบกอร์ในปี2020 ปฏิบัติแผนเชื่อมโยงเอเปกแบบบูรณาการถึงปี2025 ให้ความสนใจแลกเปลี่ยนด้านนโยบาย การพบปะระดับประชาชน อำนวยความสะดวกทางการค้า เชื่อมโยงเขตที่อยู่ห่างใกล โดยเฉพาะชนบทกับตัวเมือง

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกฯเหงวียนซวนฟุกได้เสนอให้ผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างเศรษฐกิจสมาชิกเอเปก ผลักดันการปฏิบัติข้อคิดริเริ่มด้านการค้าอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแดนและเศรษฐกิจดิจิตอล ส่งสาส์นให้โลกรู้ว่าเอเปกสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่เปิดกว้าง โปร่งใส ยุติธรรมบนพื้นฐานกฎระเบียบและหลักการในยุคใหม่และเชิดชูบทบาทเป็นศูนย์กลางขององค์การการค้าโลก เอเปกยังต้องรักษาบทบาทการประสานความร่วมมือกับอาเซียน จี20 อาเซมและองค์การความร่วมมือในแอฟริกา ลาตินอเมริกา เป็นต้น

ในการร่วมหารือเกี่ยวกับการผลักดันการขยายตัวที่คลอบคลุมในยุคการพัฒนาดิจิตอล บรรดาผู้นำเอเปกได้ให้คำมั่นผลักดันการขยายตัวที่ยั่งยืน คลอบคลุมและถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นศูนย์กลางของทุกนโยบาย ส่วนนายกฯเหงวียนซวนฟุกได้กล่าวปราศรัยเสนอให้เอเปกมีบทบาทเป็นผู้ริเริ่มความคิดใหม่เพื่อนำภูมิภาคพัฒนาเป็นศูนย์กลางแห่งเทคโนโลยีของโลก ซึ่งเวียดนามก็กำลังพัฒนาสร้างสรรค์รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เน้นการขยายตัวที่ยั่งยืน คลอบคลุมและส่งเสริมจิตใจแห่งธุรกิจสตาร์ตอัพ เป็นต้น

โอกาสนี้ นายกฯเวียดนามได้แจ้งว่าสภาแห่งชาติเวียดนามได้ให้สัตยาบันข้อตกลงซีพีทีพีพีเมื่อวันที่12พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นก้าวเดินที่เป็นรูปธรรมของเวียดนามในการเข้าร่วมห่วงโซ่คุณค่าโลก ซึ่งในฐานะเป็นสมาชิกที่เข้มแข็งของเอเปก เวียดนามพร้อมมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างอนาคตร่วมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของประชาคมเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกที่สันติภาพ เสถียรภาพและเจริญรุ่งเรือง.