เรือและแท่นขุดเจาะของจีน(Photo:TTX )

(VOVworld) –  เมื่อวันที่๓เดือนนี้ ท่านเลหว่ายจูงเอกอัครราชทูต หัวหน้าคณะผู้แทนถาวรเวียดนามประจำสหประชาชาติได้ส่งจดหมายถึงนายบันคีมูนเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติโดยเสนอให้เวียนเอกสาร๒ฉบับอย่างเป็นทางการของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่๖๘โดยระบุชัดถึงจุดยืนของเวียดนามเกี่ยวกับการที่จีนติดตั้งแท่นขุดเจาะไหหยาง๙๘๑ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนาม ยืนยันอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซล ปฏิเสธคำเรียกร้องที่ไม่มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์และนิตินัยของจีนเกี่ยวกับอธิปไตยเหนือหมู่เกาะแห่งนี้

            เอกสารฉบับแรกแสดงให้เห็นว่า เวียดนามประท้วงจีนที่ติดตั้งแท่นขุดเจาะไหหยาง๙๘๑ ยืนหยัดปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงทั้งในทางเป็นจริง ด้านนิตินัย หลักฐานข้อมูลของจีนที่ระบุในเอกสารแนบจดหมายลงวันที่๒๒พฤษภาคมและวันที่๙มิถุนายนของอุปทูตคณะผู้แทนถาวรจีนที่ส่งถึงเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ เวียดนามเห็นว่า จีนกำลังทวีความตึงเครียดในทะเลตะวันออกผ่านการกระทำที่ละเมิดกฎหมายสากลเนื่องจากการติดตั้งแท่นขุดเจาะไหหยาง๙๘๑ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนามซึ่งเป็นเขตที่เวียดนามได้รับสิทธิของประเทศริมฝั่งทะเลตามข้อกำหนดของอนุสัญญาสากลของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี๑๙๘๒

            เอกสารฉบับที่๒ระบุถึงอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงทั้งในทางเป็นจริง ด้านนิตินัย คำเรียกร้องที่ไม่มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์และนิตินัยเกี่ยวกับอธิปไตยของจีนเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลที่จีนเรียกว่าซานซาที่ระบุในเอกสารของอุปทูตคณะผู้แทนถาวรจีนที่ส่งถึงเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ เมื่อวันที่๒๒พฤษภาคมและวันที่๙มิถุนายน ในเอสการฉบับที่๒นี้ กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ชี้ชัดว่า เอกสารทางประวัติศาสร์ฉบับต่างๆไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับแถลงการณ์เกี่ยวกับอธิปไตยของจีนเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซล ยืนยันว่า เอกสารที่จีนใช้เพื่อพิสูจน์ให้แก่อันที่เรียกว่า อธิปไตยของพวกเขาเหนือหมู่เกาะหว่างซาของเวียดนามไม่มีที่มาที่ชัดเจน และไม่แม่นยำตามที่จีนได้ตีความโดยพลการ เอกสารเหล่านี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า จีนได้มีอธิปไตยเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลตั้งแต่ครั้งที่หมู่เกาะแห่งนี้ยังเป็นดินแดนที่ไม่มีผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ โดยเฉพาะ บันทึกทางประวัติศาตร์แสดงให้เห็นว่า จีนไม่เคยมีอธิปไตยเหนือหมู่เกาะแห่งนี้

            ส่วนเวียดนามได้นำเสนอเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่า เวียดนามมีอธิปไตยเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลนับตั้งแต่หมู่เกาะแห่งนี้ยังเป็นดินแดนที่ไม่มีผู้ถือครองกรรมสิทธิ เวียดนามยังเสนอหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า หมู่เกาะแห่งนี้ไม่เคยมอบให้จีนในการประชุมนานาชาติก่อนและหลังจากที่สงครามโลกครั้งที่๒ยุติลง

            เอกสารฉบับที่๒ยังยืนยันว่า เวียดนามไม่เคยรับรองอธิปไตยของจีนเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและชี้ชัดว่า จีนได้จงใจบิดเบือนประวัติศาสตร์และตีความประวัติศาสตร์อย่างผิดพลาดเมื่ออ้างหนังสือราชการของท่านฝ่ามวันด่งอดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ เมื่อปี๑๙๕๘ พร้อมเอกสาร และสิ่งพิมพ์ที่ได้รับการจำหน่ายในเวียดนามก่อนปี๑๙๗๕เพื่อเสริมสร้างคำเรียกร้องของจีนต่อหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซล หนังสือราชการของอดีตนายกรัฐมนตรีฝ่ามวันด่งไม่ระบุถึงอธิปไตยเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลีย์./.