สถานที่เกิดเหตุ (Photo AFP/VNplus)

ส่วนสถานทูตเวียดนามประจำประเทศศรีลังกาได้เผยว่า ถึงขณะนี้ยังไม่รายงานว่ามีชาวเวียดนามได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวโดยทางสถานทูตยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์และพร้อมให้การช่วยเหลือพลเมืองเวียดนาม

ในวันที่ 22 เมษายน เจ้าหน้าที่กองทัพอากาศศรีลังกาได้เผยว่า สามารถทำการเก็บกู้ระเบิดที่ถูกวางไว้ใกล้สนามบินนานาชาติ Bandaranaike ในกรุงโคลัมโบ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้สนามบินต้องหยุดให้บริการชั่วคราว

ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมา ตำรวจศรีลังกาเผยว่า ได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัย 13 คน ส่วนนายกรัฐมนตรีศรีลังกา รานิล วิครามาสิงเห ได้ลงตรวจสถานที่เกิดเหตุและเผยว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 13 คนเป็นพลเมืองของศรีลังกาและจะทำการขยายผลเพื่อจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยรายอื่นๆ ต่อไปและได้มีการสั่งให้จัดตั้งคณะกรรมการสืบสวนพิเศษ

เมื่อเช้าวันที่ 21 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดที่โบสถ์ 3 แห่งและที่โรงแรมหรูในกรุงโคลัมโบ 3 แห่งในเขต Batticaloa, Negomboห ต่อจากนั้นในบ่ายวันเดียวกันก็ได้เกิดเหตุระเบิดที่เมือง Dehiwela และ Dematagoda ชานกรุงโคลัมโบ ซึ่งตำรวจศรีลังกาได้ระบุว่า เหตุระเบิดทั้ง 8 ครั้ง เป็นเหตุระเบิดพลีชีพ 2 ครั้ง และในจำนวนผู้เสียชีวิต มีชาวต่างชาติประมาณ 30 คน ประกอบด้วย อังกฤษ สหรัฐ เนเธอร์แลนด์และอินเดีย นี่เป็นเหตุระเบิดที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่สงครามกลางเมืองในศรีลังกาได้ยุติลงเมื่อ 1 ทศวรรษก่อน ส่วนรัฐบาลศรีลังกาได้ประกาศเคอร์ฟิวในกรุงโคลัมโบและปิดกันเครื่อข่ายสังคมออนไลน์และระบบส่งเอสเอ็มเอส เช่น Facebook และ WhatsApp เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข่าวเท็จ

ในวันเดียวกัน ผู้นำประเทศต่างๆทั่วโลก เช่น นาย ฌอง-โคลด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมการยุโรปหรืออีซี นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูติน พร้อมทั้งประเทศต่างๆ เช่น เยอรมนี ออสเตรีย นิวซีแลนด์ บาเรนห์ กาตาร์ อียิปต์ มาเลเซียและสิงคโปร์ ได้ประณามเหตุวางระเบิดอย่างต่อเนื่องในประเทศศรีลังกา โดยแสดงความเสียใจต่อผู้นำประเทศและประชาชนศรีลังกา โดยเฉพาะเลขาธิการขององค์การตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพลได้ยืนยันว่า อินเตอร์โพลพร้อมให้การช่วยเหลือศรีลังกาทำการสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว.