ภาพของการเจรจา

ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้แสดงความยินดีต่อการเยือนครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีมาร์ค รุตเตอ ซึ่งมีขึ้นประจวบกับโอกาสที่ทั้งสองประเทศรำลึกครบรอบ 50ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต

“การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์มีความหมายพิเศษ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทั้งสองประเทศในสร้างพลังตับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านให้เข้าสู่ส่วนลึก มีประสิทธิภาพ จริงจัง ขยายโอกาสความร่วมมือในด้านใหม่ๆ โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล การปรับเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจหมุนเวียน ร่วมมือและพัฒนาอย่างยั่งยืน มีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก การที่คณะสถานประกอบการเทคโนโลยีขั้นสูงของเนเธอร์แลนด์ไปด้วยกับคณะฯจะเปิดหน้าใหม่ในการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจอย่างกว้างลึกและมีประสิทธิภาพระหว่างสองประเทศในอีกหลายปีข้างหน้า”

นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ได้ยืนยันว่า เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ส่วนนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้เนเธอร์แลนด์ส่งเสริมให้คณะกรรมาธิการยุโรปยกเลิกใบเหลือง IUU ต่อสัตว์น้ำเวียดนามและให้สัตยาบันข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุนระหว่างเวียดนามกับอียูโดยเร็ว ส่งเสริมให้สถานประกอบการเนเธอร์แลนด์เข้ามาลงทุนในเวียดนามในด้านที่เป็นจุดแข็งของเนเธอร์แลนด์ เช่น เทคโนโลยีขั้นสูง ท่าเรือ โครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ เป็นต้น นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้ยืนยันว่า เศรษฐกิจ-การค้าเป็นเสาหลักที่สำคัญของ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เห็นพ้องปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับอียูอย่างมีประสิทธิภาพ  ผลักดันกรอบหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การบริหารแหล่งน้ำและการเกษตรอย่างยั่งยืน เห็นพ้องที่จะประสานงานและสนับสนุนกันในองค์การระหว่างประเทศต่างๆ สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะค้ำประกันความมั่นคง ความปลอดภัย เสรีภาพในการเดินเรือ การบิน  การแก้ไขปัญหาการพิพาทอย่างสันติ สอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982

ในบ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เข้าร่วมฟอรั่มสถานประกอบการเทคโนโลยีขั้นสูงเวียดนาม-เนเธอร์แลนด์ ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เสนอให้เนเธอร์แลนด์ช่วยเหลือเวียดนามในการวิจัย จัดทำ ตรวจสอบและปรับปรุงกลไกและนโยบายในด้านเทคโนโลยีขั้นสูงให้มีความสมบูรณ์ ส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นวัตกรรมและฝึกอบรมแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูง ส่วนนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์เผยว่า เนเธอร์แลนด์จะผลักดันความร่วมมือและการลงทุนในด้านเทคโนโลยีขั้นสูงในเวียดนาม โดยเฉพาะด้านที่เวียดนามมีความต้องการและเนเธอร์แลนด์มีจุดแข็ง พิจารณาข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีเวียดนามในการร่วมมือและลงทุนผ่านศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติและนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคของเวียดนาม.