(VOVWORLD) -ควบคู่กับเอกลักษณ์วัฒนธรรมและประวัตศาสตร์อันยาวนาน จังหวัดบิ่งเยืองยังมีอาชีพหัตถกรรมพื้นเมืองต่างๆ เช่น อาชีพทำเครื่องเซรามิก ลงรักขัดเงา แกะสลักไม้ และจักสาน โดยมีผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น เซรามิกล้ายเทียว เซรามิกเตินเฟือกแค้ง เซรามิกเซือ อาชีพผลิตกระปุกออมสินถวนอาน ไหน้ำด๋ายฮึง งานลงรักขัดเงาเตืองบิ่งเหียบ งานแกะสลักไม้ในเขตแช้งเหงียะและเขตฟู้เถาะและสหกรณ์จักสานบาเญิ๊ด เป็นต้น ซึ่งในหลายปีมานี้ โรงงานต่างๆ ที่จังหวัดบิ่งเยืองได้เปลี่ยนแปลงในการออกแบบผลิตภัณฑ์ ประยุกต์เทคโนโลยีที่ทันสมัย ปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล เชื่อมโยงกิจกรรมต่างๆ ของหมู่บ้านศิลปาชีพกับกิจกรรมการท่องเที่ยวเพื่อช่วยอนุรักษ์หมู่บ้านเหล่านี้และพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่นด้วย
ผลิตภัณฑ์เซรามิกของจังหวัด (congluan.vn) |
เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาอาชีพหัตถกรรมพื้นเมือง หมู่บ้านศิลปาชีพต่างๆ ในจังหวัดบิ่งเยืองได้ลงทุนเทคโนโลยีแบบกึ่งอัตโนมัติและระบบการผลิตแบบอัตโนมัติครบวงจรและสร้างความผูกพันกับกิจกรรมการท่องเที่ยว
เปลี่ยนแปลงเพื่อปรับตัวเป็นอย่างดี
หนึ่งในตัวอย่างสำหรับการลงทุนเปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยีของหมู่บ้านศิลปาชีพต่างๆ ในจังหวัดบิ่งเยืองคือบริษัทเซรามิก มิงลอง 1 บริษัทเซรามิกเกื่องฟาตและบริษัทเซรามิก เฟือกหวูลอง นาย หลีหงอกแบก ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท เซรามิกเกืองฟาต จำกัด ประธานสมาคมเซรามิกบิ่งเยือง เผยว่า โรงงานผลิตเซรามิกต่างๆในจังหวัดบิ่งเยืองได้เน้นพัฒนาตลาดภายในประเทศด้วยการพัฒนาการออกแบบและการเคลือบสี
“ผลิตภัณฑ์เซรามิกบิ่งเยืองทำแม่พิมพ์และสีเคลือบด้วยตัวเองเพื่อจำหน่ายในตลาดภายในประเทศแล้ว ปัจจุบัน เรากำลังเน้นผลิตเซรามิกเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ หวังว่า ในปีนี้ เราจะสามารถพัฒนาตลาดภายในประเทศได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะจำหน่ายให้ร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ”
จากการเปลี่ยนแปลงวิธีการแนะนำผลิตภัณฑ์มาใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์และอี – คอมเมิร์ส ผลิตภัณฑ์ต่างๆ บริษัทจักสานแถ่งหลก ในเขตเตินเฟือกแค้ง อำเภอเมืองเตินเอวียน จังหวัดบิ่งเยือง สามารถจำหน่ายสินค้าได้มากกว่าการจำหน่ายแบบดั้งเดิม นาย เหงียนแถ่งเหลิบ รองผู้อำนวยการบริษัทฯ กล่าวว่า
“สินค้าที่เราขายผ่านอี – คอมเมิร์ซมีเสถียรภาพมาก ซึ่งปัจจุบัน เรากำลังส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่นและบางประเทศยุโรป ถึงแม้กำลังเกิดสงครามในบางประเทศแต่เรายังได้รับใบสั่งซื้อเพราะสินค้าของเราเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งชาวยุโรปนิยมเป็นอย่างาก และเขาใช้แค่สองสามปีแล้วก็ซื้ออันใหม่ ช่วยให้เราสามารถส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง”
ผลิตภัณฑ์ลงรักขัดเงาของจังหวัดฯ ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก (congluan.vn) |
เช่นเดียวกับหมู่บ้านจักสานและเซรามิก หมู่บ้านศิลปาชีพอื่นๆ ในจังหวัดบิ่งเยือง เช่น หมู่บ้านลงรักขัดเงาและหมู่บ้านแกะสลักไม้ก็หาทางจำหน่ายสินค้าเพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นและพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนอกจากเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิต หมู่บ้านศิลปาชีพเหล่านี้ก็ยังประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหาร การผลิตและประกอบธุรกิจเพื่อสามารถพัฒนาต่อไป
ควบคู่กับความพยายามของผู้ที่หลงไหลอาชีพและความตั้งใจพัฒนาเพื่ออนุรักษ์อาชีพพื้นเมือง ทางการจังหวัดบิ่งเยืองยังคงปฏิบัติมาตรการต่างๆ เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาหมู่บ้านเหล่านี้ ถ้าหากเป็นอาชีพที่ก่อมลพิษ เช่น เซรามิกและกระปุกออมสิน ที่ตั้งอยู่ในเขตชุมชน ทางการท้องถิ่นได้วางแผนย้ายโรงงานผลิตออกไปยังพื้นที่อื่นและให้สถานประกอบการที่ขาดแคลนเงินทุนกู้เงินเพื่อพัฒนาและอนุรักษ์หมู่บ้านเหล่านี้ นอกจากนี้ ทางการจังหวัดฯ ก็เน้นฝึกอบรมแหล่งบุคลากรให้แก่หมู่บ้านศิลปาชีพ
เชื่อมโยงกับกิจกรรมการท่องเที่ยว
หนึ่งในมาตรการที่ทางการจังหวัดบิ่งเยืองกำลังปฏิบัติเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาหมู่บ้านศิลปาชีพให้มีความยั่งยืนคือการเชื่อมโยงกิจกรรมของหมู่บ้านศิลปาชีพกับการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นก้าวเดินที่ถูกต้องที่ไม่เพียงแต่ช่วยขยายตลาดและเปิดโอกาสผลักดันการผลิตของหมู่บ้านศิลปาชีพเท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมของหมู่บ้านศิลปาชีพอีกด้วย ในความเป็นจริง ทางการจังหวัดฯ ได้จัดทำโครงการ “อนุรักษ์และพัฒนาหมู่บ้านลงรักขัดเงาเตืองบิ่งเหียบที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวในเมืองถูเหย่าหมด” โดยสร้างหมู่บ้านศิลปาชีพที่มีพื้นที่กว่า 54,000 ตารางเมตรที่มีโรงผลิตสินค้าต่างๆ ช่างฝีมือ ดิงโกงเถียว อายุ 52 ปีกล่าวว่า
“เรามีความปรารถนาว่า เราสามารถย้ายเข้าในหมู่บ้านศิลปาชีพและทางจังหวัดฯ จะช่วยให้เราได้เชื่อมโยงกับนักท่องเที่ยว ถ้าหากนักท่องเที่ยวมาอุดหนุนจำนวนมากจะช่วยให้อาชีพลงรักขัดเงาพัฒนาต่อไปได้”
ตามโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดบิ่งเยืองถึงปี 2025 และแนวทางถึงปี 2030 คณะกรรมการประชาชนจังหวัดฯ ได้กำหนดว่า เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดฯ พัฒนาเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ จำเป็นต้องพัฒนาการท่องเที่ยวในหมู่บ้านศิลปาชีพต่างๆ โดยสำนักงานวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวของจังหวัดฯ ได้มอบหมายหน้าที่ให้ศูนย์ส่งเสริมและการท่องเที่ยวจัดโครงการโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวรู้จักหมู่บ้านศิลปาชีพในท้องถิ่น ซึ่งเมื่อปีที่แล้วและในปีนี้ ทางศูนย์ฯ ได้จัดทัวร์แนะนำหมู่บ้านศิลปาชีพต่างๆ ตลอดจนเสนอผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้านศิลปาชีพเหล่านี้ในงานส่งเสริมการค้าทั้งภายในและต่างประเทศ นาย เหงียนแทงฟอง รองผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดบิ่งเยือง เผยว่า
“ทางสำนักงานฯ ได้เสนอให้สำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทของจังหวัดฯ รับรองผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ได้มาตรฐานของหมู่บ้านศิลปาชีพเป็นผลิตภัณฑ์ OCOP พร้อมทั้งนำไปจัดแสดงในงานแสดงสินค้าและเว็บไซต์การท่องเที่ยวต่างๆ โดยหวังว่า ผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้านศิลปาชีพในจังหวัดบิ่งเยืองจะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วประเทศ”
การเป็นฝ่ายรุกในการพัฒนาและใช้มาตรการแก้ไขที่สอดคล้องกับกิจกรรมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในท้องถิ่นจะช่วยให้หมู่บ้านศิลปาชีพ 32 แห่งรวมอาชีพพื้นเมือง 9 อาชีพในจังหวัดบิ่งเยืองได้รับการอนุรักษ์ พัฒนาและมีส่วนร่วมผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในจังหวัดฯ .