(VOVWORLD) -นอกจากมีการเปลี่ยนแปลงแนวความคิดในการผลิตเกษตรแล้ว เกษตรกร สหกรณ์และสถานประกอบการหลายแห่งในจังหวัดดั๊กยังได้ปฏิบัติห่วงโซ่การเชื่อมโยงในการผลิตเพื่อช่วยให้เกษตรกรมีความมั่นใจในการผลิต ส่วนสหกรณ์ก็ได้ขยายการดำเนินงาน ในขณะที่สถานประกอบการก็มีแหล่งจัดสรรสินค้าที่มีเสถียรภาพ ซึ่งการเชื่อมโยงระหว่างสามฝ่ายนี้ได้ก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าการเกษตร ซึ่งเป็นแนวทางที่มุ่งสู่ระบบการเกษตรที่ยั่งยืนในท้องถิ่น
จังหวัดดั๊กลั๊กปฏิบัติการเชื่อมโยงห่วงโซ่การยกระดับคุณค่าของสินค้าการเกษตร (baodaklak.vn) |
ในหลายปีมานี้ ข้าวสะอาด “ทังบิ่ง HTB” ของสหกรณ์ด้านการเกษตรทังบิ่งในตำบลกือกตี อำเภอกรงบง ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภค โดยเมื่อปี 2020 ข้าวของสหกรณ์ฯ ได้รับใบรับรอง OCOP ระดับ 4 ดาวของจังหวัด โดยเฉพาะในต้นปี 2022 ทางสหกรณ์ฯ ได้ลงนามสัญญาส่งออกไปยังประเทศนิวซีแลนด์รวม 6 ตัน อีกทั้งยังมีตัวแทนจำหน่าย 26 แห่งใน 12 จังหวัดและนครทั่วประเทศ ซึ่งผลสำเร็จเหล่านี้เป็นผลมาจากการเชื่อมโยงเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ นาย หวอวันเซิน ผู้อำนวยการสหกรณ์เผยว่า
“ในช่วงก่อน เราร่วมมือเพื่อแก้ไขอุปสรรค์ในการผลิต แต่หลังจากนั้นเราได้ร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาการจำหน่าย โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ เพราะว่า ก่อนหน้านี้ เกษตรกรรู้แค่การผลิตเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ต้องทำมาร์เกตติ้งด้วย ดังนั้น ทางสหกรณ์ได้ช่วยเหลือเกษตรกรในการนำสินค้าไปจำหน่ายในตลาดใหญ่ๆ”
สำหรับสถานประกอบการจัดสรรสินค้าการเกษตร การผลักดันเชื่อมโยงระหว่างการผลิตกับการจำหน่ายสินค้าเพื่อช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทานอาหารที่ปลอดสารพิษเป็นเรื่องที่จำเป็นเพื่อมุ่งสู่ระบบการผลิตที่ทันสมัยและเพิ่มมูลค่า ยกตัวอย่างเช่น บริษัทหุ้นสวน Damaca Nguyen Phuong ในตำบลฟู้หลก อำเภอกรงนัง ทางบริษัทฯ ได้ให้คำมั่นว่า เมื่อเข้าร่วมห่วงโซ่การเชื่อมโยงของบริษัท เกษตรกรจะสามารถจำหน่ายผลผลิตได้อย่างมีเสถียรภาพแบะปลอดภัย ทางบริษัทฯ ให้การสนับสนุนเกษตรกรทั้งพันธุ์พืชและอุปกรณ์การเพาะปลูก ส่วนทางบริษัทฯ มีแหล่งจัดสรรวัตถุดิบที่มั่นคงและสามารถควบคุมเรื่องคุณภาพได้ นาง เหงียนถิทูเฟือง ผู้อำนวยการบริษัทฯ เผยว่า
“ปัจจุบันนี้ ชาวบ้านปลูกตามความสามารถของตนเอง ซึ่งทำให้ผลผลิตไม่ได้คุณภาพที่เหมือนกัน ดังนั้น สถานประกอบการต้องร่วมมือกับเกษตรกรเพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพสูงที่สุด เช่น ทำการเก็บเกี่ยวตรงตามฤดู นอกจากกนี้ สถานประกอบการและสำนักงานที่เกี่ยวข้องยังสนับสนุนเกษตรกรในการดูแลไร่ นา เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
นาย เจืองหงอกกวาง ผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วนจำกัด โกโก้นามเจื่องเซินแนะนำวิธีการปลูกโกโก้ให้แก่เกษตรกร |
แต่อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง ที่ดั๊กลั๊ก ห่วงโซ่เชื่อมโยงการผลิตสินค้าเกษตรยังมีไม่มากนักและมีขอบเขตเล็ก โดยการลงทุนในอุตสาหกรรมการแปรรูปยังอยู่ในระดับต่ำ จึงทำให้สินค้าการเกษตรยังไม่มีคุณภาพสูง นอกจากนี้ สถานประกอบการและสหกรณ์หลายแห่งยังไม่สามารถหาตลาดที่มั่นคงเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้การขยายห่วงโซ่การเชื่อมโยงทำได้ยาก ยกตัวอย่างเช่น ในการผลิตโกโก้ ถึงแม้มีพื้นที่ปลูกถึง 1,200 เฮกตาร์แต่มีแค่ 200 ครอบครัวเท่านั้นที่เข้าร่วมห่วงโซ่การเชื่อมโยงผ่านรูปแบบสหกรณ์หรือกลุ่มผลิตขนาดเล็ก ซึ่งทำให้ผลผลิตที่มีคุณภาพมีปริมาณไม่มากนัก นาย เจืองหงอกกวาง ผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วนจำกัด โกโก้นามเจื่องเซิน แสดงความคิดเห็นว่า
“การพัฒนาเขตปลูกวัตถุดิบประมาณ 1,200 เฮกตาร์ในดั๊กลั๊กต้องมีนโยบายสนับสนุนเพื่อพัฒนาอย่างหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะสนับสนุนเกษตรหรือสหกรณ์อย่างเข็มแข็งเพื่อช่วยให้พวกเขาตระหนักได้ดีว่า การเชื่อมโยงคือเรื่องที่จำเป็นในการสร้างสรรค์ห่วงโซ่มูลค่าเพื่อมุ่งสู่การผลิตอย่างยั่งยืน”
นาย เหงียนหว่ายเยือง ผู้อำนวยการสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทดั๊กลั๊กเผยว่า ในสภาวการณ์ปัจจุบัน การจัดตั้งห่วงโซ่การเชื่อมโยงคือมาตรการที่สำคัญเพื่อค้ำประกันแหล่งตลาดให้แก่ผลิตภัณฑ์การเกษตร เพื่อสนับสนุนการพัฒนาห่วงโซ่การเชื่อมโยง ทางการดั๊กลั๊กได้ปฏิบัติมติของรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายส่งเสริมการพัฒนาความร่วมมือและการเชื่อมโยงในการผลิตและจำหน่ายสินค้าการเกษตร โดยเน้นปฏิบัตินโยบายสนับสนุนหลังการลงทุน เช่น การแปรรูป การสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าและการตรวจสอบย้อนกลับของสินค้าเกษตร
“เราต้องประชาสัมพันธ์ สนับสนุนและอำนวยความสะดวกมากที่สุดให้แก่ท้องถิ่นต่างๆ โดยเฉพาะท้องถิ่นที่มีศักยภาพพัฒนาสินค้าเฉพาะถิ่นให้พัฒนาห่วงโซ่การเชื่อมโยงเพื่อจำหน่ายผลผลิติ ทางสำนักงานฯ ได้เสนอให้คณะกรรมการประชาชนจังหวัดฯ อนุมัติร่างโครงการสนับสนุนเพื่อเชื่อมโยงกับท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของจังหวัดฯในเวลาที่จะถึง”
ปัจจุบันนี้ ที่จังหวัดดั๊กลั๊ก มีสหกรณ์การเกษตรกว่า 380 แห่งและมีสถานประกอบการนำเข้าและส่งออกกว่า 90 แห่ง โดยส่งออกสินค้าไปยัง 68 ประเทศและดินแดนทั่วโลก โดยเฉพาะสามารถเจาะตลาดใหญ่ๆ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น อังกฤษและฝรั่งเศส นี่คือพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาห่วงโซ่การผลิตเกษตร ดังนั้น ถ้าหากจังหวัดฯ สามารถใช้ศักยภาพได้เป็นอย่างดีเพื่อพัฒนาห่วงโซ่การเชื่อมโยงก็จะมีส่วนร่วมต่อการยกระดับคุณภาพให้แก่สินค้าการเกษตร เพิ่มมูลค่าและพัฒนาการเกษตรได้อย่างยั่งยืนท่ามกลางความผันผวนของตลาด.