(VOVWORLD) - จังหวัดฮึงเอียนมีหมู่บ้านศิลปาชีพที่มีชื่อเสียงหลายแห่งด้วยผลิตภัณฑ์พื้นเมืองที่สะท้อนให้เห็นถึงความงามของเขตชนบทที่เก่าแก่ โดยหมู่บ้านศิลปาชีพหลายแห่งกำลังได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
อาชีพทำเครื่องจักสานในจังหวัดฮึงเอียน |
หมู่บ้านศิลปาชีพจักสานถูสีในอำเภอเตียนหลือ จังหวัดฮึงเอียน อยู่ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 60 กม. เป็นหมู่บ้านที่มีอายุกว่า 200 ปีในการทำเครื่องมือจับปลาและจับกุ้งที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตของเกษตรกรในภาคเหนือเวียดนามในอดีต เช่น ไซและสุ่มจับปลา
ผู้สูงอายุในหมู่บ้านเผยว่า การทำไซจับปลาต้องใช้ความปราณีตและความชำนาญ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความสวยงามและคงทน เคล็ดลับที่ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความคงทนคือการแขวนผลิตภัณฑ์ที่ทำเสร็จแล้วในห้องครัวเพื่อหลีกเลี่ยงปลวกและเป็นการรมควันเพื่อให้สีเข้มขึ้นเงายิ่งขึ้น ช่างศิลป์ เลืองเซินบาก ซึ่งประกอบอาชีพทำเครื่องมือจับปลาในหมู่บ้านถูสีเผยว่า
“ควันต้องเต็มห้องและกระจายทั่วห้องซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์ขึ้นสีที่สวยงาม”
เมื่อทำไซจับปลาเสร็จก็นำไปมัดเรียงกันเป็นช่อคล้ายดอกไม้บนจักรยานเพื่อนำไปขาย แม้ว่าปัจจุบัน เกษตรกรจะไม่ใช้ไซดักปลาและจับกุ้งอีกแล้ว แต่คำสั่งซื้อยังคงเพิ่มขึ้นเนื่องจากร้านอาหารและร้านค้าต่างนำไปใช้เป็นอุปกรณ์ตกแต่งร้าน ผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้านถูสีไม่เพียงแต่วางขายภายในประเทศเท่านั้น หากยังได้รับการส่งออกไปต่างประเทศอีกด้วย เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินเดียและจีน ถึงแม้ว่าการทำผลิตภัณฑ์นี้จะไม่ใช่แหล่งรายได้หลักอีกต่อไป แต่เมื่อมีเวลาว่าง ชาวบ้านก็ยังคงทำเครื่องจักสาน คนหนุ่มสาวยังคงเรียนรู้อาชีพของหมู่บ้านเพื่ออนุรักษ์และสานต่ออาชีพนี้ให้แก่คนรุ่นต่อๆไป ช่างศิลป์ เลืองเซินบาก ยืนยันว่า
“ผมจะพยายามอนุรักษ์อาชีพนี้ต่อไปจนผมอายุร้อยปี ผมรักอาชีพนี้มากเพราะสืบทอดจากบรรพบุรุษ ดังนั้น ต้องพยายามสืบทอดอาชีพนี้ให้แก่คนรุ่นต่อๆ ไป ไม่ปล่อยให้อาชีพนี้สูญหายไป”
ส่วนหมู่บ้านกาวอยู่ห่างจากหมู่บ้านถูสีไม่ไกลนัก โดยติดอยู่กับทำนบกั้นน้ำทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำแดง เป็นหนึ่งในหมู่บ้านทำธูปที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ปัจจุบัน หมู่บ้านกาวมีเกือบ 200 ครอบครัวที่ยังคงประกอบอาชีพทำธูปแบบดั้งเดิม ผู้ผลิตธูปในหมู่บ้านกาวสามารถสร้างธูปพิเศษหลายชนิด เช่น ธูปขดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางสูงถึง 50 ซม. เผาได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ธูปอัด ธูปเผาเร็ว ธูปเผาช้าและธูปไร้ควัน เป็นต้น ซึ่งการทำธูปแบบต่างๆ ขึ้นอยู่กับเทคนิคของส่วนผสมและสูตรของแต่ละตระกูล นาง เจิ่นมิงถาว ผู้ผลิตธูปในหมู่บ้านกาวเผยว่า
“ส่วนผสมหลักในการทำธูปคือสมุนไพร เช่น ไม้กฤษณา โป๊ยกั๊กและอบเชย เป็นต้น โรงงานผลิตธูปแต่ละแห่งต่างก็มีวิธีการทำกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เราใช้สมุนไพรแท้ 100% ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความปลอดภัยต่อผู้ผลิตและลูกค้า”
หมู่บ้านทำธูปโทนกาวเป็นหนึ่งในหมู่บ้านทำธูปที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ |
ปัจจุบัน ธูปในหมู่บ้านกาวได้รับการวางขายในจังหวัดและนครทั่วประเทศ และได้รับการส่งออกไปยังหลายประเทศ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางจิตวิญญาณอันล้ำค่า
ที่จังหวัดฮึงเอียน หมู่บ้านช่างไม้หว่าฟอง ในตัวเมืองหมีห่าวเป็นหมู่บ้านศิลปาชีพที่มีชื่อเสียงในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำในภาคเหนือ ฝีมือดีของช่างศิลป์ในหมู่บ้านหว่าฟองได้สร้างผลิตภัณฑ์จากไม้ที่สวยงาม มีความซับซ้อนและประณีต กระบวนการผลิตมีหลายขั้นตอนและแต่ละขั้นตอนก็มีความสำคัญ ซึ่งการขึ้นรูปถือเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดเนื่องจากจะสร้างเอกลักษณ์เฉพาะของผลงานซึ่งต้องใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของช่างไม้ นาย เหงวียนวันแหม่ง ช่างไม้ในหมู่บ้านหว่าฟองแสดงความเห็นว่า
“ก่อนอื่นต้องมีจินตนาการ เพื่อทำผลิตภัณฑ์จากไม้ที่มีชีวิตชีวา สวยงามและมีคุณค่า ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าใจและเข้าถึงความงามของผลิตภัณฑ์”
ผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้านช่างไม้หว่าฟองได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากลูกค้า |
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์งานไม้ของตำบลหว่าฟองได้รับการพัฒนาและมีชื่อเสียงในตลาด มีลูกค้าจำนวนมากจากต่างหวัดและต่างประเทศมาสั่งซื้อ ช่างไม้ เหงวียนวันดู๋ ในหมู่บ้านหว่าฟองเผยว่า
“เมื่อผมทุ่มเทตั้งใจในการทำผลิตภัณฑ์จากไม้จนเป็นที่ยอมรับของลูกค้าและได้รับการส่งไปจำหน่ายในต่างประเทศ ผมก็ดีใจมาก เพราะผมได้ช่วยแนะนำงานช่างไม้ของเวียดนามและของหว่าฟองไปสู่ลูกค้าต่างชาติ ช่วยให้พวกเขามีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเวียดนาม”
นอกจากนี้ ที่จังหวัดฮึงเอียนยังมีหมู่บ้านศิลปาชีพหลายแห่ง เช่น หมู่บ้านทำเต้าเจี้ยวเบิ่นในตัวเมืองหมีหว่า หมู่บ้านหล่อทองแดงหล่งเถื่องในอำเภอวันเลิม หมู่บ้านศิลปาชีพแต่ละแห่งในจังหวัดฮึงเอียนถือเป็นภาพที่มีชีวิตชีวาเกี่ยวกับเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของผืนแผ่นดินฮึงเอียน หมู่บ้านศิลปาชีพไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ผลิตสินค้าศิลปะหัตถกรรมแบบดั้งเดิมเท่านั้น หากยังเป็นสถานที่อนุรักษ์เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและความดีเลิศที่ได้รับการสืบทอดมาหลายชั่วอายุคนอีกด้วย.