สิงคโปร์ส่งเสริมให้ประชาชนเลือกมื้ออาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย(Photo:baomoi.com)

 สภาส่งเสริมสุขภาพของสิงคโปร์เริ่มปฏิบัติโครงการ“มื้ออาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย”เพื่อปรับปรุงงานด้านโภชนาการให้แก่ประชาชนบนพื้นฐานของผลการวิจัยเกี่ยวกับโภชนาการแห่งชาติที่จัดทำเมื่อปี๒๐๑๐ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ชาวสิงคโปร์มีความเคยชินกับการเลือกอาหารที่มีแคลอรีสูงกว่าความต้องการของร่างกาย ชาวสิงคโปร์ร้อยละ๖๐นิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน๔ครั้งต่อสัปดาห์ซึ่งแต่ละมื้อจะได้รับพลังงาน๗๐๐ถึง๘๐๐แคลอรีในขณะที่ร่างกายต้องการ๕๐๐แคลอรีเท่านั้น ถ้าไปรับประทานที่ร้านอาหาร๓ครั้งต่อสัปดาห์แคลอรีก็จะมากกว่าความต้องการของร่างกายซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคอ้วน

            ด้วยเหตุนี้ โครงการ“มื้ออาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย”ซึ่งเน้นลดแคลอรีในแต่ละมื้ออาหารให้เหลือ๕๐๐แคลอรีโดยมีเป้าหมายจนถึงปี๒๐๒๐จะมีอาหาร๑๘๐ล้านจานหรือคิดเป็นร้อยละ๒๐ของอาหารทั้งหมดที่เสริฟในร้านอาหารได้มาตรฐานนี้ ปัจจุบัน มีผู้ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม๑๘รายพร้อมร้านอาหาร๗๐๐แห่งเข้าร่วมโครงการ  รัฐบาลสิงคโปร์หวังว่า จนถึงปลายปี๒๐๑๔ ผู้ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มจะอยู่ที่๓๐ราย รวมทั้งร้านอาหารพีแซนต์ โคที่ได้จัดทำเมนูอาหารที่มีแคลอรีต่ำ เช่น สปาเก็ตตี้ทะเลและพิซซ่าเมดิเตอร์เรเนียนแถมราคาก็ถูกลงร้อยละ๔๐ นางตาน ยีลิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดร้านอาหารพีเซนต์ โค เผยว่า“แน่นนอนว่า พวกเรายังคงได้กำไรเพราะมีเมนูอื่นๆอยู่ เป้าหมายของพวกเราคือเจาะกลุ่มลูกค้าที่เน้นรักษาสุขภาพ”

โครงการ“มื้ออาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย”เป็นการสานต่อโครงการโฮเกอร์ซึ่งเป็นโครงการยกระดับคุณภาพของอาหารที่ปฏิบัติเมื่อปี๒๐๑๒ซึ่งมุ่งเป้าไปยังแม่ค้าเร่ขาย  โดยส่งเสริมและช่วยเหลือทางการเงินเพื่อให้พวกเขาใช้วัตถุดิบทำอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพซึ่งมีแม่ค้าเร่ขาย๓๕๐คนเข้าร่วมซึ่งแสดงให้ถึงความยั่งยืนของแนวคิดนี้ ดังนั้น  ในปีนี้ รัฐบาลสิงคโปร์จึงได้ขยายรูปแบบนี้ในร้านอาหาร นายซียองกาง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสภาส่งเสริมสุขภาพได้ยืนยันถึงประสิทธิภาพของในการให้ความช่วยเหลือร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการว่า“มีความแตกต่างด้านราคาระหว่างผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ อัตราช่วยเหลือเพื่อส่งเสริมให้ร้านอาหารต่างๆใช้วัตถุดิบ

ที่เป็นประโยชน์ในการปรุงอาหารให้แก่ลูกค้า จำนวนร้านอาหารเข้าร่วมโครงการยิ่งมาก ความเหลื่อมล้ำด้านราคาก็ยิ่งลดลง ”

ควบคู่กับโครงการ“มื้ออาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย” สภาส่งเสริมสุขภาพยังร่วมมือกับบริษัทผลิตเครื่องดื่มเพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลน้อย และเพิ่มจำนวนการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลน้อยในโรงเรียนและหน่วยงานต่างๆ หน่วยงานผลิตอาหารก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมโครงการนี้ ในอนาคตข้างหน้า ซูปเปอร์มาเก็ตในสิงคโปร์จะเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีแคลอรีต่ำซึ่งจากมาตรการ๓อย่างนี้ รัฐบาลสิงคโปร์หวังว่า จะสร้างอุปนิสัยในการบริโภคที่ประโยชน์ต่อร่างกายให้แก่ประชาชน ./.

Cường-vov5