ช่องเขาฟ้าดิน-ทงลากปืนใหญ่ขึ้นสู่สมรภูมิเดียนเบียนฟู
Thu Hoa-VOV5 -  
( VOVworld )- ช่องเขาฟ้าดินหรือทางลาดชันฟ้าดินยาว ๓๒ กม. บนทางหลวงหมายเลข ๖ ซึ่งเป็นประตูสู่จังหวัดเดียน เบียน ทางตอนบนของประเทศเวียดนาม จุดสูงสุดของช่องเขาฟ้าดินอยู่ที่ ๑,๖๔๘ เมตรเมื่อเทียบกับระดับน้ำทะเล ชนเผ่าไทในเดียนเบียนเรียกช่องเขานี้ว่าฟ้าดินเพราะเป็นจุดบรรจบระหว่างดินกับฟ้าและช่องเขาฟ้าดินก็เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการลากปืนใหญ่ของกองทัพประชาชนเวียดนามโดยอาศัยแรงคนโดยเฉพาะแรงของทหารเป็นหลัก ทั้งนี้ ทำให้เวียดนามสามารถรบชนะฝรั่งเศสผู้รุกราน ณ สมรภูมิเดียน เบียน ฟูได้ในวันที่ ๗ พฤษภาคมปีค.ศ.๑๙๕๔ อันเป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของทหารและประชาชนเวียดนาม
( VOVworld )-
ช่องเขาฟ้าดินหรือทางลาดชันฟ้าดินยาว ๓๒ กม. บนทางหลวงหมายเลข ๖ ซึ่งเป็นประตูสู่จังหวัดเดียน เบียน ทางตอนบนของประเทศเวียดนาม จุดสูงสุดของช่องเขาฟ้าดินอยู่ที่ ๑,๖๔๘ เมตรเมื่อเทียบกับระดับน้ำทะเล สองข้างทางของช่องเขาฟ้าดินคือภูผาและเหวลึก ชนเผ่าไทในเดียนเบียนเรียกช่องเขานี้ว่าฟ้าดินเพราะเป็นจุดบรรจบระหว่างดินกับฟ้าและช่องเขาฟ้าดินก็เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการลากปืนใหญ่ของกองทัพประชาชนเวียดนามโดยอาศัยแรงคนโดยเฉพาะแรงของทหารเป็นหลัก ทั้งนี้ ทำให้เวียดนามสามารถรบชนะฝรั่งเศสผู้รุกราน ณ สมรภูมิเดียน เบียน ฟูได้ในวันที่ ๗ พฤษภาคมปีค.ศ.๑๙๕๔ อันเป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของทหารและประชาชนเวียดนาม ในรายการเที่ยวเวียดนามวันอาทิตย์วันนี้ ขอเชิญท่านร่วมกับพวกเรากลับสู่ช่องเขาฟ้าดินเพื่อย้อนอดีตเส้นทางเคลื่อนย้ายปืนใหญ่ขึ้นสู่เดียน เบียน ฟูผ่านการบอกเล่าของทหารผ่านศึกที่เคยเข้าร่วมยุทธนาการเดียน เบียน ฟู ก่อนหน้านี้ ๖๐ ปี
ช่องเขาฟ้าดิน
ช่องเขาฟ้าดินทุกวันนี้ไม่ลาดชันเหมือนก่อนหน้านี้ ๖๐ ปี แต่ยังคงคดเคี้ยวและมีทางโค้งสลับกันหลายช่วงเหมือนเดิม ช่องเขาถูกลดความชันลงและขยายกว้างขึ้น แต่ยังคงรักษาทิวทัศน์ที่สวยงามของเขตเขาตอนบนไว้ได้เหมือนเดิมนั่นคือ เมฆหมอกขาวปกคลุม ดอกกาหลงสีขาวบานสะพรั่งสองข้างทางและบ้านของชนเผ่าไทอยู่กระจัดกระจายตามไหล่เขา ทั้งนี้คือเสน่ห์ของที่นี่ที่เรียกความสนใจของนักท่องเที่ยว
ก่อนหน้านี้ ๖๐ ปี ช่องเขาฟ้าดินเป็นเส้นทางลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์และเสบียงอาหารเส้นทางหลักในยุทธนาการเดียน เบียน ฟู แต่ละวันที่นี่ได้บันทึกรอยเท้าของเยาวชนอาสาและชาวบ้านอาสากว่า ๘,๐๐๐ คนที่ลำเลียงเสบียงอาหาร ข้าวและกระสุนปืนผ่านเส้นทางสายนี้ และยังเป็นเส้นทางเคลื่อนกำลังทหารราบและทหารปืนใหญ่สู่เจิ่น ดิ่งห์ ซึ่งคือรหัสของยุทธนาการเดียน เบียน ฟู ช่วงทางผ่านช่องเขาฟ้า ดินที่ยากลำบากยังคงตราตรึงในความทรงจำของนักประพันธ์ดนตรีหว่าง เวินที่แต่งเพลง ลากปืนใหญ่
เหล่าทหารเคลื่อนพลที่ผ่านป่าทึบและลำธารหลายแห่ง
“ ก่อนเข้าสู่ทุ่งนาเมืองแถง พวกเราต้องเดินผ่านช่องเขายาว ตั้งแต่ปีค.ศ.๑๙๕๓ กองกำลังรถยนต์ อาสาสมัครหาบกระสุนและข้าวของอาหาร รถจักรยานที่ดัดแปลงเพิ่มเติมให้บรรทุกสิ่งของได้มากขึ้นต้องผ่านเส้นทางนี้เพื่อป้อนให้แก่ยุทธนาการเดียน เบียน ฟู พวกเขาต้องเดินลัดเลาะขึ้นลงตามไหล่เขาแต่ก็ถูกเครื่องบินของฝรั่งเศสดักทิ้งระเบิดและกราดยิงทำให้รถยนต์ รถบรรทุกและรถเสบียงหลายคันถูกไฟไหม้ เราต้องมีมาตรการอำพรางในการผ่านช่องเขานี้ ซึ่งความทรงจำดังกล่าวยังคงสถิตอยู่ในหัวใจของผมมาตราบเท่าทุกวันนี้ ต่อมาผมได้เข้าร่วมยุทธนาการและได้อยู่ในเหตุการณ์ลากปืนใหญ่ขึ้นสู่เดียน เบียน ฟู ทั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดอารมณ์สุนทรีย์ในการแต่งเพลง ลากปืนใหญ่ ”
โบราณสถานเนินเอ๑ ปัจจุบัน
ช่องเขาฟ้าดินถือเป็นเส้นทางที่ลำบากที่สุดในการลากปืนใหญ่ด้วยแรงคนของทหารเดียน เบียน ฟูเพราะต้องผ่านทางลาดชัน เหวลึกและภูเขาสูงเพื่อลำเลียงกระสุนไปยังจุดหมายปลายทางเพื่อยิงที่มั่นฮิม ลาม เนินดกเหลิบ เนินเอ ๑ และอุโมงเดอ กัสตรี ซึ่งปัจจุบัน เรายากที่จะเข้าใจความยากลำบากในการเคลื่อนย้ายปืนใหญ่ด้วยแรงคนผ่านเส้นทางนี้ นักประพันธ์ดนตรีหว่าง เวิน เล่าว่า “ การลากปืนนั้นต้องมีคนหลายสิบคนโดยแบ่งเป็นสองส่วนคือ คนจำนวนหนึ่งอยู่ข้างบนและส่วนที่เหลืออยู่ข้างล่าง โดยจำนวนคนอยู่ที่ข้างบนต้องดึงปืนใหญ่ขึ้น ส่วนที่อยู่ข้างล่างต้องผลักปืนใหญ่ มีเครื่องกว้านช่วยทุ่นแรงด้วย แต่ละครั้งลากปืนต้องเปล่งคำโห่เพื่อเป็นการให้กำลังใจแล้วปืนใหญ่จะขยับได้ แต่ไม่ใช่ว่าการลากปืนใหญ่นั้นจะสะดวกทุกครั้งเพราะตอนกลางวันมีเครื่องบินของฝรั่งเศสบินตรวจตราอยู่ตลอดเวลา บางครั้งจึงต้องเคลื่อนย้ายปืนใหญ่ยามกลางคืน และเมื่อเครื่องกว้านถูกกระสุนปืนใหญ่ของฝรั่งเศสทำให้สายเชือกเสีย ปืนใหญ่อาจจะลื่นไถลจวนเจียนตกเขา นักรบผู้หนึ่งคือโต หวิง เหยี่ยนได้ทุ่มตัวเข้าขัดล้อไว้ ถือเป็นวีรกรรมการเสียสละอย่างสูงสุด ”
ทุกวันนี้ การเดินทางจากช่องเขาฟ้าดินไปยังเมืองเดียน เบียน ฟู ตามทางหลวงหมายเลข ๖ มีระยะทางไม่กี่สิบกิโลเมตรเท่านั้น แต่ทางลากปืนใหญ่ยามสงครามในอดีตที่ผ่านช่วงทางนี้นั้นไม่สามารถนับด้วยความยาวไกลได้ แต่ต้องนับด้วยความยากลำบากของทหารปืนใหญ่เท่านั้น
อุโมงของนายพลเดอ กัสตรี
ตลอดเส้นทางขนย้ายปืนใหญ่ขึ้นสู่ที่ตั้งบนยอดเขานั้น มีทางช่วงหนึ่งยาว ๑๕ กิโลเมตรที่ถูกสร้างภายในเวลา ๒๐ ชั่วโมงเท่านั้นเพื่อขนย้ายปืนใหญ่หนัก ๒. ๔ ตันด้วยแรงคนผ่านภูเขาลาดชันและช่องเขาคดเคี้ยวท่ามกลางเครื่องบินบินตรวจตราของฝรั่งเศส แม้จะยากลำบากนานัปการแต่ทหารเวียดนามสามารถเคลื่อนย้ายปืนใหญ่ ๗๕ ม.ม.และปืนครก ๑๒๐ ม.ม. ๔๐ กระบอกเพื่อยิงถล่มที่มั่นฮิม ลามของกองทัพฝรั่งเศส เมื่อเวลา ๑๗.๐๐ น วันที่ ๑๓ มีนาคมปีค.ศ.๑๙๕๔ อันเป็นการเปิดฉากยุทธนาการเดียน เบียน ฟู อย่างเป็นทางการ นายฝ่าม ดึ๊ก กื่อ ทหารผ่านศึกหน่วยทหารปืนใหญ่เล่าให้ฟังเกี่ยวกับช่วงทางสุดท้ายของเส้นทางลากปืนใหญ่ว่า “ พวกเราเคลื่อนพลอย่างยากลำบาก เมื่อขึ้นสู่เดียน เบียน ที่ห่างจากที่มั่นเดียน เบียน ฟู ของฝรั่งเศสประมาณ ๑๕ – ๑๘ กิโลเมตรต้องลากปืนด้วยแรงคน ซึ่งเป็นช่วงทางที่ลำบากที่สุดในชีวิตทหารปืนใหญ่ของพวกเรา ดังนั้นผมจึงเปรียบเทียบทหารปืนใหญ่ว่า ร่างกายแข็งแรงเหมือนทองแดง ส่วนเท้านั้นเปรียบเสมือนเหล็ก ผมยังจำได้ไม่ลืมถึงช่วงทางผ่านทางลาดชันไบ่เต่ย ช่องเขาอุ เหมิ่ว ทางชันซ้วย เหงื่อและวอย ฝุกที่พวกเราขนย้ายปืนใหญ่ ๒.๔ ตันผ่าน ”
อนุสาวรีย์เดียน เบียน ฟู
ปัจจุบัน ทางลากปืนขึ้นเดียน เบียน ฟูนั้นเหลือแต่ร่องรอยให้เห็นคือ ช่องเขาฟ้าดินที่เป็นต้นทาง และปลายทางคือสถานที่วีรชนโต หวิง เหยี่ยนทุ่มตัวเข้าขัดล้อปืนใหญ่ไว้จนเสียชีวิตซึ่งได้รับการซ่อมแซมให้ดีขึ้นแล้ว และมีอนุสาวรีย์ยาว ๒๔ เมตร กว้าง ๘ เมตร สูง ๑๒.๕ เมตรและหนัก ๑,๒๐๐ ตันตั้งอยู่ห่างจากเมือง เดียน เบียนไปทางทิศเหนือประมาณ ๒๐ ก.ม.เพื่อเชิดชูวีรกรรมของนักรบโต หวิง เหยี่ยนแห่งหมวดทหารปืนใหญ่ ทั้งนี้ทำให้เรารุ่นลูกรุ่นหลานได้เข้าใจเกี่ยวกับเส้นทางที่สร้างประวัติศาสตร์อันเกรียงไกรของทหารเดียน เบียน ฟูในอดีต./.
้ทหารเวียดนามยึดเนินเอ๑
ช่องเขาฟ้า ดิน
Thu Hoa-VOV5