ท่าเรือหญ่าโหร่งอยู่ในส่วนปากแม่น้ำไซ่ง่อน เขต4 นครโฮจิมินห์ ซึ่งในช่วงเริ่มการก่อสร้างเมื่อปี1863 ที่นี่เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำสามสาย โดยชาวฝรั่งเศสได้สร้างกิจการนี้เพื่อใช้เป็นสำนักงานบริษัทเดินเรือทะเลนัมซาว ดังนั้นจึงถูกออกแบบแนวสถาปัตยกรรมตะวันตกแต่บนหลังคาประดับด้วยมังกรสองตัวแบบหลังคาวัดวิหารของเวียดนาม ลานด้านหน้าอาคารมีรูปปั้นประธานโฮจิมินห์ตอนหนุ่มในท่ายืนหันหน้าไปที่แม่น้ำไซ่ง่อน ซึ่งเมื่อ108ปีก่อน นายเหงวียนเติ๊ตแถ่งได้ลงเรือ Amiral Latouche Tréville สัญชาติฝรั่งเศสเริ่มเส้นทางแสวงหาแนวทางกู้ชาติที่ยาวนานกว่า30ปี ณ เวลานั้นเหงวียนเติ๊ตแถ่งได้ยึดมั่นตั้งใจในความปรารถนาอันแรงกล้าว่า "เสรีภาพของประชาชน เอกราชของประเทศชาติ นั่นคือสิ่งที่ผมเข้าใจ เป็นสิ่งที่ผมตั้งใจปฏิบัติ" นายหวอเฮี้ยวเหงียะ ชาวนครโฮจิมินห์ได้กล่าวว่า

"ผมมาที่นี่สามสี่ครั้งแล้วและทุกครั้งจะมีความรู้สึกไม่ซ้ำกัน เมื่อได้ศึกษาเข้าใจในกระบวนการแสวงหาหนทางกู้ชาติของท่านผมก็ยิ่งมีความเคารพศรัทธาต่อท่าน สิ่งแรกที่ผมประทับใจคือสัญลักษณ์ของดอกบัวและเมื่อยืนอยู่ในบริเวณนี้ก็สามารถเห็นบรรยากาศของแม่น้ำไซ่ง่อน สถานที่ที่เป็นพยานในการออกเดินทางของประธานโฮจิมินห์  ผมหวังว่าด้วยความพยายามของตนในฐานะเจ้าหน้าที่กองเยาวชนจะช่วยส่งเสริมให้นักศึกษามีความรู้และตระหนักถึงการร่วมรักษาและส่งเสริมเกียรติประวัติที่ดีงามของเยาวชนเวียดนาม"

บนหลังคาประดับด้วยมังกรสองตัวแบบหลังคาวัดวิหารของเวียดนาม

ปัจจุบัน ท่าเรือหญ่าโหร่งได้พัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์สาขานครโฮจิมินห์ เป็นหนึ่งในเขตอนุสรณ์สถานที่เก็บรักษาเรื่องราวประวัติศาสตร์เกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์ โดยในช่วงแรก พิพิธภัณฑ์นี้มีห้องจัดแสดงเพียง3ห้องกว้าง250ตารางเมตร หลังการซ่อมแซมสองครั้งจำนวนห้องจัดแสดงเพิ่มขึ้นเป็น9ห้องพร้อมคลังเก็บสิ่งของวัตถุเอกสารอีก2แห่งรวมถึงสิ่งของที่จัดแสดงกลางแจ้งอีกจำนวนมาก ใน9ห้องแสดงนั้นมี6ห้องเป็นส่วนจัดแสดงตามหัวข้อที่รวมสิ่งของวัตถุและเอกสาร ภาพถ่ายกับสารคดีเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์ ส่วนอีก3ห้องใช้จัดแสดงเหตุการณ์ต่างๆตามหน้าที่การประชาสัมพันธ์ทางการเมืองในแต่ละระยะเวลา 

ตั้งแต่ปี1995มาจนถึงปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้จัดแสดงเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งในพิพิธภัณฑ์และการจัดแสดงเคลื่อนที่ตามสถานที่ต่างๆตลอดจนการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อการศึกษาเกี่ยวกับชีวิตและภารกิจการเคลื่อนไหวของโฮจิมินห์เช่น การสัมมนา การแนะนำสารคดีและสิ่งพิมพ์ต่างๆ เป็นต้น 

หิ้งบูชาประธานโฮจิมินห์ในอาคาร

เมื่อมาเยือนท่าเรือหญ่าโหร่งและพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ในช่วงรำลึกวันปลดปล่อยภาคใต้รวมประเทศเป็นเอกภาพ 30เมษายนและวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดของประธานโฮจิมินห์19พฤษภาคม ก็จะเห็นกระแสนผู้คนทุกเพศทุกวัยที่หลั่งไหลมาสถานที่แห่งนี้พร้อมการแสดงออกถึงความรักความศรัธทาต่อผู้นำที่เคารพรักยิ่งของประชาชาติเวียดนาม คุณเจิ่นวันเกวี่ยนนักท่องเที่ยวจากจังหวัดนามดิ๋งห์กล่าวว่า เขาซาบซึ้งใจมากเมื่อได้มาเห็นกับตาสถานที่แห่งนี้พร้อมสิ่งของที่มีความผูกพันธ์กับประธานโฮจิมินห์

"ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากเมื่อได้เดินทางถึงสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ที่มีความหมายสำคัญนี้ ประเทศเวียดนามของเราสวยงามมากผมหวังว่าคนรุ่นใหม่จะตระหนักถึงเกียรติประวัติอันรุ่งโรจน์ของชาติเพื่อร่วมสานต่อดอกผลที่บรรพชนได้สร้างไว้และพิทักษ์รักษาประเทศของเราให้สมบูรณ์ยั่งยืนตลอดไป"

ปฏิญญาเอกราชที่ท่านได้อ่านต่อสาธารณชนปี1945

พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์สาขานครโฮจิมินห์ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก รวมทั้งมีคณะผู้นำระดับสูงของหลายประเทศที่เดินทางมาเยือนและศึกษาเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์ ซึ่งเวลาได้ผ่านไปกว่าร้อยปีนับตั้งแต่วันที่ประธานโฮจิมินห์ได้ออกเดินทางจากท่าเรือแห่งนี้ไปยังต่างประเทศ ท่าเรือหญ่าโหร่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของนครโฮจิมินห์ นครที่มีการพัฒนาอย่างคล่องตัวและเป็นหัวเรือแห่งการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และสถานที่แห่งนี้ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่เรื่องราวประวัติศาสตร์ของเวียดนามรวมทั้งของประธานโฮจิมินห์นักวัฒนธรรมโลกผู้มีชื่อเสียงพร้อมกระบวนการเดินทางรอบโลกเพื่อนำเอกราชและเสรีภาพมาให้แก่ประชาชาติเวียดนาม.