วัดเตียว-โบราณสถานทางพุทธศาสนาของเขตกิง บั๊ก
( VOVworld )-ท่านผู้ฟังคะ จังหวัดบั๊ก นินห์เขตกิง บั๊กมีโบราณสถานทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และพุทธศาสนาที่ขึ้นชื่อหลายแห่ง ซึ่งรายการเที่ยวเวียดนามวันอาทิตย์ครั้งที่ผ่านๆมา แทงเหวี่ยนได้แนะนำให้ท่าได้รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาของจังหวัดบั๊ก นินห์เช่น วัดเยิวและวัดบุ๊ต ทาป ส่วนในวันนี้ ขอเชิญท่านไปเที่ยวชมวัดโบราณอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดคือ วัดเตียวซึ่งเป็นสถานที่ที่พระสายวิปัสนาหว่าน แหง ผู้ที่ได้เลี้ยงดูกษัตริย์หลี กง อ๋วน พระองค์ที่มีพระราชกรุณาธิคุณในการสร้างราชวงศ์หลีและอารยธรรมด่ายเหวียดช่วงปีค.ศ.๑๐๐๙-๑๒๒๕
( VOVworld )-ท่านผู้ฟังคะ จังหวัดบั๊ก นินห์เขตกิง บั๊กมีโบราณสถานทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และพุทธศาสนาที่ขึ้นชื่อหลายแห่ง ซึ่งรายการเที่ยวเวียดนามวันอาทิตย์ครั้งที่ผ่านๆมา แทงเหวี่ยนได้แนะนำให้ท่านได้รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาของจังหวัดบั๊ก นินห์เช่น วัดเยิวและวัดบุ๊ต ทาป ส่วนในวันนี้ ขอเชิญท่านไปเที่ยวชมวัดโบราณอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดคือ วัดเตียวซึ่งเป็นสถานที่ที่พระสายวิปัสนาหว่าน แหก ผู้ที่ได้เลี้ยงดูกษัตริย์หลี กง อ๋วน พระองค์ที่มีพระราชกรุณาธิคุณในการสร้างราชวงศ์หลีและอารยธรรมด่ายเหวียดช่วงปีค.ศ.๑๐๐๙-๑๒๒๕
วัดเตียวตั้งอยู่ที่ตำบลเตือง ยาง ตัวเมืองตื่อ เซิน จังหวัดบั๊ก นินห์ สองข้างทางขึ้นวัดามีแมกไม้ให้ความร่มเย็นและอากาศบริสุทธิ์ พอเดินทางถึงไหล่เขาก็จะเห็นวัดโบราณที่ตะไคร่น้ำจับ สระบัวและเจดีย์เจ้าแม่กวนอิม จากวัดเมื่อมองออกไปจะเห็นทุ่งนาอันกว้างใหญ่ ซึ่งเมื่อก่อนนี้ ที่นี่มีแม่น้ำเตียวเตืองไหลผ่าน ทั้งนี้ได้สร้างภาพที่สวยงามให้แก่วัดเตียวจนชาวบ้านได้แต่งเป็นกลอนสองประโยคว่า
ภูผาแม่น้ำเตียวเซินงาม
ลือชื่อวัดโบราณตามไหล่เขา
ตามตำนานเล่าสู่กันมาว่า วัดเตียวถูกก่อสร้างมานานแล้ว มาสมัยราชวงศ์หลี วัดแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนาโดยพระหลี หว่าน แหกเป็นเจ้าอาวาส ตำนานยังเล่าว่า กษัตริย์หลี กง อ๋วนเป็นบุตรชายของนางสาวฝ่ามและได้รับการเลี้ยงดูจากพระหลีแค้งเวินซึ่งเป็นน้องชายของพระหลี หว่าน แหงเมื่ออายุ ๓ ขวบและได้ตั้งชื่อให้ว่า หลี กง อ๋วน หลี กง อ๋วนเป็นเด็กฉลาด หน้าตาดูดีและเรียนดีจึงได้รับการชื่นชมจากพระหลี หว่าน แหงว่า เด็นคนนี้ไม่ใช่เด็กธรรมดา เมื่อโตขึ้นจะช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศได้และจะขึ้นครองราชย์ พระทิก ด่าม ชิ้ง เจ้าอาวาสวัดเตียว เปิดเผยว่า “ พระหว่าน แหกประทับอยู่ที่นี้และเมื่อกษัตริย์หลี ท้าย โต๋หรือหลี กง อ๋วนทรงพระราชสมภพก็ได้เสด็จมาประทับที่นี่และได้รับการเลี้ยงดูจากพระหว่าน แหก เมื่อเห็นว่า กษัตริย์เลไม่สามารถบริหารประเทศได้ พระหว่าน แหกได้อบรมสั่งสอนหลี กง อ๋วนเพื่อที่จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์บริหารประเทศแทน ”
ผ่านกาลเวลาและการปฏิสังขรณ์มาหลายต่อหลายครั้ง แต่วัดเตียวยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมที่มีค่าตั้งแต่สมัยราชวงศ์เลช่วงปีค.ศ.๑๗๔๐-๑๗๘๖ และสมัยราชวงศ์เหงวียนช่วงปีค.ศ.๑๘๐๒-๑๙๒๕ เช่น พระไตรรัตน์ พระอุโบสถ อาคารศิลาและสถูปเก็บอัฐิของพระนับตั้งแต่ก่อสร้างวัดมาจนถึงบัดนี้ และยังเก็บรักษาเอกสารข้อมูลและสิ่งของวัตถุที่มีค่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เวียดนาม ซึ่งที่น่าสนใจคือ ศิลาโบราณขนาดใหญ่ที่สะลักคำว่า หลียาลินห์แจกหรือศิลาอันศักดิ์สิทธิ์ของราชวงศ์หลี หนังสือเถี่ยน เอิ๋วน เติป แอง ซึ่งเป็นหนังสือทางประวัติศาสตร์และวรรณคดีเกี่ยวกับพระอัจฉริยะสมัยราชวงศ์หลีหลายรูป
เมื่อมานมัสการวัดเตียว นักท่องเที่ยวยังมีโอกาสศึกษาเกี่ยวกับชีวประวัติของพระมหาเถระทิก ญือ จิ๊ ที่ได้มีส่วนร่วมในการรวบรวมและพิมพ์จำหน่ายหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนา บทกลอนที่ไพเราะและร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของท่านด้วย
วัดเตียวได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระดับชาติเมื่อปีค.ศ.๑๙๙๑ หลายปีที่ผ่านมา วัดเตียวได้กลายเป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างประเทศ นายเหงวียน ดัง เหิบ นักท่องเที่ยวชาวฮานอยเปิดเผยว่า “ ผมมาเที่ยววัดเตียวมากกว่า ๕ ครั้ง เมื่อมาวัดแต่ละครั้งผมเห็นว่าวัดดูสวยขึ้นและได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี ผมกับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวคนอื่นๆมาเที่ยวและพยายามอนุรักษ์วัดให้สมกับสถานะทางประวัติศาสตร์ของประเทศ ”
มาเที่ยววัดเตียว นอกจากได้ดื่มด่ำความสวยงามของวัดที่มีทั้งภูผาและแม่น้ำแห่งเขตกินห์ บั๊กแล้ว ท่านจะเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับกษัตริย์หลี กง อ๋วนและประวัติศาสตร์การสร้างชาติของประชาชนเวียดนาม ./.
เขียนบทความเป็นภาษาเวียดนามโดยTran Cuong-Vinh Phong