การระบำบ๊าตเหยิตจังหวัดท้ายบิ่นห์
Lan Anh –VOV5 -  
( VOVworld )-ระบำชาววังหรือระบำบ๊าตเหยิตของตำบลอานเค อำเภอกวิ่งฝู่ จังหวัดท้ายบิ่นห์มักถูกนำมาแสดงโดยชาวบ้านในโอกาสเทศกาลต้นปี ระบำบ๊าตเหยิตปรากฎในตำบลอานเคมาหลายร้อยปี แต่เพิ่งได้รับการฟื้นฟูมาและแสดงเมื่อวสันต์เวียนมาได้กว่า ๑๐ ปี
( VOVworld )-
ระบำชาววังหรือระบำบ๊าตเหยิตของตำบลอานเค อำเภอกวิ่งฝู่ จังหวัดท้ายบิ่นห์มักถูกนำมาแสดงโดยชาวบ้านในโอกาสเทศกาลต้นปี ระบำบ๊าตเหยิตปรากฎในตำบลอานเคมาหลายร้อยปี แต่เพิ่งได้รับการฟื้นและแสดงเมื่อวสันต์เวียนมาได้กว่า ๑๐ ปี
การระบำบ๊าตเหยิต
ระบำบ๊าตเหยิตหรือระบำชาววังมักถูกจัดแสดงในยามประเทศสงบสุขและชีวิตของประชาชนมีความอิ่มหนำ ระบำบ๊าตเหยิตแบบชาววังมีนักเต้น ๖๔ ชีวิต แบ่งเป็น ๘ แถว แถวละ ๘ คนจึงเรียกระบำประเภทนี้ว่า บ๊าตเหยิต เนื่องจากระบำบ๊าตเหยิตถูกหลงลืมมาหลายสิบปี ชาวบ้านอานเคต้องทุ่มเทแรงกายและเวลาเพื่อค้นหาผู้อาวุโสของหมู่บ้านที่เคยเข้าร่วมคณะระบำบ๊าตเหยิตโบราณ จนถึงปัจจุบันนี้ ชาวบ้านวัยกลางคนล้วนสามารถร่ายรำบ๊าตเหยิตและต่างรอคอยงานเทศกาลอย่างใจจดใจจ่อเพื่อที่จะได้เข้าร่วมการแสดงระบำชาววังโบราณ คุณป้าโด่ถิ่ถิ่ง อายุ ๗๓ ปี ที่เข้าร่วมการสอนร่ายรำบ๊าตเหยิตให้แก่ลูกหลานของหมู่บ้านเปิดเผยว่า “ ดิฉันเข้าร่วมคณะระบำบ๊าตเหยิตเมื่ออายุ ๑๔ ขวบ และไม่ได้รำมาหลายปีแล้ว ครูสอนระบำให้แก่พวกเราปัจจุบันอายุสูงมากแล้ว ที่นี่มีครูอาวุโสสองท่านแต่ท่านหนึ่งได้จากเราไปแล้ว เดี๋ยวนี้ชาวบ้านที่สามารถรำบ๊าตเหยิตมีไม่กี่คน ”
คุณป้าถิ่งเผยต่อไปว่า การระบำบ๊าตเหยิตมีหลายชุด ดังนั้นต้องฝึกก่อนการแสดงประมาณ ๒ เดือน พวกเราต้องฝึกเข้มและเมื่อมีเวลาว่างก็ต้องฝึก “ การรำบ๊าตเหยิตมี ๔ ชุด โดยชุดแรกคือ การลากตัวอักษร ชุดต่อไปคืออันเชิญดอกไม้เพราะได้รับชัยชนะ ชุดที่ ๓ คือ การร่ายรำพื้นเมือง และชุดสุดท้ายคือ การระบำชุดของนางฟ้า การระบำชาววังมี ๓๒ คนส่วนการระบำพื้นเมืองมี ๑๖ คน เมื่อเป็นเด็กจะมีเวลาเรียนมากกว่า ”
สมัยโบราณ การระบำบ๊าตเหยิตแสดงโดยสาวโสด หน้าตาสวยและเป็นแม่ศรีเรือน แต่ปัจจุบัน นักแสดงเป็นสาววัยกลางคนของตำบลอานเค คุณด่วานถิ่ฮวา อายุ ๕๔ ปีเปิดเผยว่า ที่หมู่บ้านเปิดสอนระบำบ๊าตเหยิตให้แก่เด็กรุ่นใหม่หนึ่งชั้นเรียนเท่านั้นเพราะพวกเขาต้องเรียนหนังสือและทำงาน ส่วนการแสดงนั้นโดยชาวบ้านวัยกลางคนเข้าร่วม “ การระบำบ๊าตเหยิตมีมานานแล้วประมาณกว่าร้อยปี ตั้งแต่รุ่นปู่ทวดก็มีการรำประเภทนี้แล้ว แต่มันค่อยๆถูกหลงลืมตามกาลเวลา พวกเรารื้อฟื้นระบำบ๊าตเหยิตมากว่า ๘ ปีและทำการรำเป็นประจำ พวกเราจัดสอนระบำนี้สองชั้นเรียนได้แก่ ชั้นสำหรับเด็กรุ่นใหม่และชาวบ้านวัยกลางคน คณะของพวกเรามีการฝึกตลอดโดยไม่ว่างเว้น ส่วนเด็กๆนั้นต้องเรียนหนังสือ ”
คุณฮวาเป็นชาวบ้านน้อยคนนักที่สามารถร้องเพลงประกอบการรำบ๊าตเหยิต โดยเนื้อร้องเป็นคำโบราณและได้สืบสานต่อกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า เพลงบ๊าตเหยิตมีทำนองและจังหวะไม่เหมือนการร้องเพลงพื้นเมืองแจ่วที่คล้ายๆลำตัดของไทยหรือทำนองการร้องเพลงอำลาผู้ที่เสียชีวิต คุณฮวาบอกว่า เขาอยากถ่ายทอดการร้องเพลงบ๊าตเหยิตให้แก่คนรุ่นใหม่แต่ยังหาคนที่สามารถร้องได้ไม่เจอ
หมวกสวมใส่ของนางรำบ๊าตเหยิตก่อนหน้านี้ ๒๕ ปี
เมื่อเสียงเพลงจบลง นายเหงวียนซุยเล่าต่อว่า การหาคนที่มีความสามารถในการ้องเพลงบ๊าตเหยิตนั้นยากเท่าไหร่ การหาคนรู้จักเล่นเครื่องดนตรีประกอบก็ยิ่งยากกว่า นายซุยเป็นนักเล่นเครื่องดนตรีอาวุโสของคณะดนตรีบ๊าตเหยิต “ วงดนตรีใช้เครื่องดนตรี ๓ ชิ้นได้แก่ ฉาบ กลองและกรับเท่านั้น แต่เมื่อเพลงบรรเลงขึ้นพร้อมกับการร่ายรำที่ประสานกันจนทำให้การแสดงน่ารับชมมากขึ้น การเล่นเครื่องดนตรีเหล่านี้คนธรรมดาสามารถทำได้ไม่ยาก แต่เล่นอย่างมีศิลปะนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งก็เช่นเดียวกับการร้องเพลงบ๊าตเหยิตที่ต้องมีศิลปะแห่งความเป็นโบราณเพื่อทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกเบื่อ ทั้งนี้คือความสามารถของผู้ร้องที่ทำให้การระบำโบราณประเภทนี้จะได้รับการสืบสานจากรุ่นสู่รุ่นตลอดไป ”
การแต่งกายของนางรำบ๊าตเหยิตสมัยโบรารคือ อ๊าวตื๊อเทินหรือชุดเสื้อยาวสี่ส่วน เอวรัดเข้มขัดผ้าหลากสีและที่ศีษะวางตะเกียง ๓ ดวงเพราะการระบำบ๊าตเหยิตนั้นมักจะแสดงยามค่ำคืน แสงไฟส่งประกายระยิบระยับตามจังหวะการระบำนั้นเป็นการเชื้อเชิญให้คนมาชมมากขึ้น ส่วนปัจจุบัน ชุดแต่งกายของนางรำนั้นยังเป็นชุดเสื้อยาวสี่ส่วนแต่สีสันฉุดฉาดสดสวยขึ้น
เมื่องานเทศกาลเวียนมาหมู่บ้านอาเคทุกครั้ง ชาวบ้านได้มีการแสดงระบำบ๊าตเหยิต ซึ่งสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ของชาวบ้านและยกย่องชีวิตที่สงบสุข ./.
Lan Anh –VOV5