คำภีร์พระไตรปิฏกที่ทำจากไม้ของวัดหวิงเงียมมรดกทางข้อมูลของภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก
Lan Anh -VOV5 -  
(VOVworld)- เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมองค์การวิทยาศาสต์การศึกษาและวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือองค์การยูเนสโก ที่กรุงเทพฯประเทศไทยได้รับรองคำภีร์พระไตรปิฏกที่ทำจากไม้ของวัดหวิงเงียมจังหวัดบั๊กยางเป็นมรดกทางข้อมูลของภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ซึ่งนับเป็นมรดกชุดที่ ๓ ของเวียดนามต่อจาก...
(VOVworld)- เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมองค์การวิทยาศาสต์การศึกษาและวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือองค์การยูเนสโก ที่กรุงเทพฯประเทศไทยได้รับรองคำภีร์พระไตรปิฏกที่ทำจากไม้ของวัดหวิงเงียมจังหวัดบั๊กยางเป็นมรดกทางข้อมูลของภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ซึ่งนับเป็นมรดกชุดที่ ๓ ของเวียดนามต่อจากบันทึกประวัติศาสตร์ของราชวงศ์เหงวียนที่ทำจากไม้และศิลาจารึกในวันเหมียว – ก๊วกตึ๋ย้ามหรือวิหารวรรณคดี ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนามที่ได้รับการรับรองจากองค์กรยูเนสโก อีกทั้งนับเป็นคำภีร์พระไตรปิฏกชุดหนึ่งไม่มีสองของพุทธศาสนานิกายเถี่ยนเหวียนจุ๊กเลิม ซึ่งเป็นพุทธศาสนานิกายเฉพาะของเวียดนาม จากเนื้อไม้สามารถเดาได้ว่าคำภีร์ชุดเก่าแก่ที่สุดนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๓ ๑๔ และ ๑๕ และชุดล่าสุดปรากฎตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ ๒๐
|
แผ่นคำภีร์พระไตรปิฏกเป็นมรดกทางข้อมูลของภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก
(Photo internet) |
ตามบันทึกโบราณของเวียดนามได้ระบุไว้ว่า วัดหวิงเงียมได้รับก่อสร้างขึ้นในสมัยราชวงค์หลีศตวรรษที่ ๑๑ ถึงสมัยราชวงค์เจิ่นราวศตวรรษที่ ๑๓ พระสงฆ์ผู้สร้างพุทธศาสนานิกายเถี่ยนเหวียนจุ๊กเลิม ๓ รูปคือ เจิ่นเญินตง ฟาบลวาและเหวี่ยนกวาง ได้ทำการขยายวัดเป็นโรงเรียนสงฆ์ พระทิ๊กแทงติ๋ง รองเจ้าอาวาสวัดหวิงเงียมเเปิดเผยว่า วัดหวิงเงียมมีวัตถุโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นจำนวนมากได้แก่ พระพุทธรูปกว่า ๑๐๐ องค์ ศิลาจารึก ๗ แผ่น โดยเฉพาะแผ่นไม้คำภีร์พระไตรปิฏกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม “ เนื่องจากเป็นศูนย์การฝึกอบรมพุทธศาสนาในสมัยราชวงค์เจิ่น ดังนั้นตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ ๑๕ ณ ที่นี่ได้มีการพิมพ์และแกะสลักคำภีร์บนแผ่นไม้ ปัจจุบันยังมีแผ่นไม้คำภีร์กว่า ๓๐๐๐ แผ่นที่บันทึกพระธรรมคำสอนที่กำลังได้รับการอนุรักษ์ แผ่นคำภีร์เหล่านี้ได้วางบนฐาน ๗ แห่ง ที่มีคุณค่าด้านสาระและศิลปะการแกะสลักไม้ที่ประณีตของสมัยราชวงค์เจิ่น เลและเหงียน ”
แผ่นคำภีร์พระไตรปิฏกกว่า ๓๐๐๐ แผ่นบันทึกเกี่ยวกับแนวคิดพุทธศาสนามหายานของพระสงฆ์ผู้สร้างพุทธศาสนานิกายเถี่ยนเหวียนจุ๊กเลิมของเวียดนามคือ พระเจิ่นเญินตง ฟาบลวา และเหวี่ยนกวาง นักวิชาการเห็นว่า นี่เป็นคำภีร์ไม้เกี่ยวกับพระไตรปิฏกชุดเดียวไม่มีสองที่ยังได้รับอนุรักษ์ของพุทธศาสนานิกายเถี่ยนเหวียนจุ๊กเลิมซึ่งเป็นพุทธศาสนาเฉพาะของเวียดนาม ซึ่งก็นับเป็นจุดเด่นที่ทำให้องค์การวิทยาศาสตร์การศึกษาและวัฒนธรรมหรือยูเนสโกให้การรับรองคำภีร์ไม้ชุดนี้เป็นมรดกของโลก การกำเนิดพุทธศาสนานิกายเถี่ยนเหวียนจุ๊กเลิมในศตวรรษที่ ๑๓ ไม่เพียงแต่เป็นเหตุการณ์ที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ของเวียดนามเท่านั้น หากยังมีอิทธิพลต่อภูมิภาคและโลกด้วย ซึ่งจุดเด่นของพุทธศาสนานี้คือจิตใจเป็นตัวของตัวเอง ไม่อาศัยอำนาจของไสยศาสตร์ มองชีวิตในทางที่ดีและยอมรับกฎแห่งธรรมชาติ แนวคิดของพุทธศาสนานิกายเถี่ยนเหวี่ยนจุ๊กเลิมเป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงการแปรพุทธศาสนาของอินเดียและจีนเป็นของเวียดนามได้อย่างดียิ่ง ผู้อำนวยการพิพิธภัณย์จังหวัดบั๊กยางนาย เจิ่นวันหลาง กล่าวว่า “ มีวัดหลายแห่งเช่น โบ่ด่าและเวินห่าที่ยังอนุรักษ์ชุดคำภีร์ไม้ธรรมดา แต่ไม่มีคำภีร์พระไตรปิฏกนิกายเถี่ยนเหวี่ยนจุ๊กเลิม นับเป็นการยืนยันว่าเมื่อพุทธศาสนานิกายนี้ถือกำเนิดขึ้นมาต้องมีพระธรรมคำสอนเฉพาะของตนและบันทึกชุดนี้เพื่อเผยแพร่ให้แก่พุทธศาสนิกชน กว่าที่จะได้บันทึกคำภีร์ไม้ชุดนี้บรรพบุรุษต้องศึกษาไตรปิฏกของอินเดียและจีน นับเป็นพื้นฐานของพระไตรปิฏกที่เป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม แนวคิดของท่านเจิ่นเญินตงคือ การฝึกจิตใจให้เป็นพระฝึกฝนตนเองเพื่องานส่วนรวมโดยไม่ต้องบวชที่วัดหรือสถาบัน ซึ่หมายความว่าต้องเป็นคนดีในครอบครัวในชุมชนของตนเองมาก่อน ”
|
แผ่นไม้คำภีร์ได้รับแกะสลักตัวอักษรฮั่นและนม
(Photo internet) |
ไม้ที่ใช้ในการแกะสลักคำภีร์เป็นไม้จันทน์ที่ปลูกในวัด ไม้ชนิดนี้เหมาะแก่การแกะสลักและทนกับกาลเวลา แผ่นไม้คำภีร์ได้รับแกะสลักตัวอักษรฮั่นและนมหรือเป็นแม่พิมพ์ที่สวยงามประณีตที่มีอายุหลายร้อยปี บางแผ่นได้แกะสลักภาพประกอบในบริบทที่ลงตัว นักวิจัยศึกษาภาษาฮั่นนมและเป็นรองผู้อำนวยการพิพิทธภัณย์จังหวัดบั๊กยางนายเหงวียนวันฟองกล่าวว่า “ ที่เวียดนามมีค่ายช่างแกะสลักน้อยมากนักที่จะทำการแกะสลักคำภีร์ไม้ชุดนี้ ซึ่งค่ายที่มีชื่อเสียงที่สุดอยู่ที่จังหวัดห่ายเยือง ณ ที่นั่นมีหนังสือแกะสลักต้นฉบับที่ช่างฝีมือดีสามารถแกะสลักตัวอักษร ๔ – ๕ ตัวโดยใช้พื้นที่บนเนื้อไม้เพียง๑.๒ซม. ซึ่งช่างที่ทำอาชีพนี้ต้องเก่งในด้านอักษรศาสตร์ และมีใจรักอาชีพด้วย มีค่ายหลายแห่งประกอบอาชีพนี้แต่หนังสือทุกชุดต่างถูกต้องตามมาตรฐาน ”
การแกะสลักตัวอักษรบนแผ่นไม้ต้องใช้เวลาเกือบ๑๐๐ ปีและได้รับการสืบทอดผ่านเจ้าอาวาสของวัดถึง ๕๙ รูป เนื่องจากการแกะสลักบนไม้แผ่นเดียวสำหรับช่างฝีมือดีต้องใช้เวลากว่า ๒ เดือน และกว่าจะได้คำภีร์ชุดกิงฮวาเงียมของรัชกาลกษัตริย์ตื่อดึกปี ๑๘๘๔ ที่มีทั้งหมด ๒๐๐ แผ่นต้องใช้เวลากว่า ๗๐ ปี คำภีร์พระไตรปิฏกแต่ละชุดเป็นผลงานการแกะสลักที่ประณีตสวยงามแสดงถึงความสามารถของช่างชาวเวียดนามสมัยโบราณ ซึ่งนับเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับศิลปะการแกะสลักไม้ของเวียดนามในสมัยรางวงค์เลและเหงวียน./.
Lan Anh -VOV5