วันงานเชิดชูคุณค่าวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเขตตะวันออกเฉียงเหนือ

(VOVWORLD) - วันงานวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆเขตตะวันออกเฉียงเหนือครั้งที่ ๑๐ ปี๒๐๑๘ ที่จังหวัดหวิงฟุกเป็นเจ้าภาพได้สร้างความทรงจำดีๆให้แก่บรรดาศิลปินอาวุโส และศิลปินจาก ๑๐ จังหวัดที่เข้าร่วมงาน ซึ่งเป็นโอกาสให้ประชาชนชนกลุ่มน้อยแนะนำและประชาสัมพันธ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่าตนและท้องถิ่น อีกทั้งเป็นโอกาสให้พวกเขาได้พบปะสังสรรค์และศึกษาวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยเผ่าอื่นๆในเขตตะวันออกเฉียงเหนือ

 

วันงานเชิดชูคุณค่าวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเขตตะวันออกเฉียงเหนือ - ảnh 1มีประชาชนชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆจาก 10 จังหวัดในเขตตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ บั๊กก่าน ห่ายาง เตวียนกวาง กาวบั่ง ท้ายเงวียน หล่างเซิน บั๊กยาง กว๋างนิง หวิงฟุกและแทงฮว้าเข้าร่วม  

คุณผู้ฟังกำลังฟังการร้องเพลงของหนุ่มสาวชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคักของเสียงดนตรี เสียงกลองและการตีฆ้อง รวมทั้งการฟ้อนรำต่างๆในกรอบวันงานวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆเขตตะวันออกเฉียงเหนือครั้งที่ ๑๐ ณ เมืองหวิงเอียน จังหวัดหวิงฟุก โดยมีประชาชนชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆจาก 10 จังหวัดในเขตตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ บั๊กก่าน ห่ายาง เตวียนกวาง กาวบั่ง ท้ายเงวียน หล่างเซิน บั๊กยาง กว๋างนิง หวิงฟุกและแทงฮว้าเข้าร่วม โดยเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นของแต่ละชนเผ่าได้สะท้อนอย่างมีชีวิตชีวาจากการฟ้อนรำ การร้องเพลงที่ไพเราะ การใช้เครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ต่างๆ เช่น กลอง แคนและปี่ของคู่หนุ่มสาวชนกลุ่มน้อยในโอกาสเทศกาลตรุษเต๊ต หรือ ในตลาดนัดเขตเขาและการเดินแฟชั่นชุดแต่งกายที่หลากหลายสีสันของสาวชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเขตตะวันออกเฉียงเหนือ นาย โห่เหวียดเซิน ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดห่ายางได้เผยว่า“จังหวัดห่ายางมีหลายชนเผ่า ดังนั้น พวกเราจึงเลือกแนะนำเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นของประชาชนชนกลุ่มน้อย เช่น การรำแคนของเด็กชนเผ่าม้ง การฟ้อนรำของประชาชนชนเผ่าป่าแถนและการร้องเพลงของประชาชนชนเผ่าโบ๊อี”

นอกเหนือจากกิจกรรมดังกล่าว ยังมีการจัดงานเทศกาลที่ผูกพันกับชีวิตทางจิตวิญญาณและความเลื่อมใสของประชาชนชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเขตตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น พิธีกรรมรับรองการบรรลุนิติภาวะของผู้ชายชนเผ่าเย้า พิธีลุยไฟของชนเผ่าป่าแถนเพื่อแสดงความยินดีต่อการเก็บเกี่ยวได้ผลดี ขอพรให้มีชีวิตที่อิ่มหนำผาสุก ปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ ภูตผีปีศาจและการละเล่นพื้นเมืองต่างๆ เช่น การยิงธนู การเล่นชักกะเย่อ เป็นต้น

ในกรอบของงาน ท้องถิ่นต่างๆได้เลือกแนะนำเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นของชนเผ่าตนให้แก่ชนเผ่าอื่นๆ ซึ่งชนเผ่าส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมวันงานครั้งนี้เป็นชนเผ่าที่มีประชากรน้อยที่สุดของจังหวัดต่างๆ เช่น ชนเผ่าโบ๊อี ชนเผ่าโถ ชนเผ่าป่าแถน ชนเผ่ากาวลานและชนเผ่าซ้านหยิ่ว โดยเฉพาะการเข้าร่วมของศิลปินด้านวัฒนธรรมและช่างศิลป์ทำผลิตภัณฑ์ศิลปะหัตถกรรมชนกลุ่มน้อยได้ช่วยส่งเสริมบทบาการเป็นศูนย์กลางของประชาชนชนกลุ่มน้อยในกิจกรรมวัฒนธรรมอย่างเต็มที่ ซึ่งดึงดูดความสนใจของประชาชนจำนวนมาก เช่น การสาธิตทำพิณติ๊งของช่างศิลป์ชนเผ่าไตจากจังหวัดบั๊กก่าน การสาธิตอาชีพทอผ้าและทำกระดาษสาของช่างศิลป์ชนเผ่ากาวลาน ศิลปินร้องเพลงพื้นเมืองแทนและเล่นพิณติ๊ง เหงวียนวันเถาะ ซึ่งเป็นชนเผ่าไตจากจังหวัดหลางเซินได้เผยว่า“ผมรู้สึกปลื้มปิติยินดีมากที่ได้มาเข้าร่วมวันงานนี้เพราะได้เจอเพื่อนเก่าที่เคยพบปะสังสรรค์ในงานมหกรรมการร้องเพลงพื้นเมืองและวันงานวัฒนธรรมครั้งก่อนๆ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่หายาก อีกทั้งได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆและได้เรียนรู้จากศิลปินอาวุโสหลายๆท่าน”

วันงานเชิดชูคุณค่าวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเขตตะวันออกเฉียงเหนือ - ảnh 2การแสดงในงาน 

วันงานวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆเขตตะวันออกเฉียงเหนือคือโอกาสเพื่อเชิดชูและประชาสัมพันธ์เกียรติประวัติที่ดีงามของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในเขตตะวันออกเฉียงเหนือในคลังวัฒนธรรมพื้นบ้านที่หลากหลายและเป็นเอกภาพของกลุ่มชาติพันธุ์เวียดนาม อีกทั้งเป็นโอกาสเพื่อประชาสัมพันธ์ ยกระดับความรู้และปลูกฝังจิตสำนึกเกี่ยวกับการอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมพื้นเมืองเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีระหว่างประชาชนชนกลุ่มน้อยในเขตตะวันออกเฉียงเหนือและใน 54 กลุ่มชาติพันธุ์เวียดนาม นาย หว่างวันต่อง ชนเผ่าไตจากจังหวัดท้ายเงวียนได้ให้ข้อสังเกตว่า“นี่เป็นโอกาสเพื่อให้ประชาชนชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆอย่างพวกเราได้พบปะสังสรรค์และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน อีกทั้งเป็นกิจกรรมให้การศึกษาและมีส่วนร่วมอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆเพื่อสร้างความสามัคคีในเขตชุมชนและระหว่างชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆ”

วันงานวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆเขตตะวันออกเฉียงเหนือได้กลายเป็นจุดนัดพบเพื่อฝึกอบรมและพัฒนาศิลปินด้านวัฒนธรรมพื้นเมือง อีกทั้งเป็นเวทีเพื่อให้ศิลปินอาวุโส ศิลปินและประชาชนชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆได้พบปะสังสรรค์และเรียนรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด