การประชุมใหญ่พรรคสาขาทุกระดับวาระปี 2020-2025 มีการเปลี่ยนแปลงใหม่และประสบความสำเร็จ

1.                    การประชุมใหญ่พรรคสาขาทุกระดับวาระปี 2020-2025 มีการเปลี่ยนแปลงใหม่และประสบความสำเร็จ

ปี 2020 ในการประชุมใหญ่พรรคสาขาทุกระดับได้มีการหารือเกี่ยวกับปัญหาใหญ่ๆบนจิตใจแห่งความมีประชาธิปไตย สติปัญญาและมีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะในการเตรียมร่างเอกสารฉบับต่างๆของการประชุมและงานด้านบุคลากร

องค์กรพรรคสาขาแต่ละระดับได้เกาะติดสถานการณ์และเข้าใจในศักยภาพเพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการแก้ไขที่เหมาะสมเพื่อสร้างก้าวพัฒนาทั้งในด้านศักยภาพและองค์กร ค้ำประกันเงื่อนไขในด้านมาตรฐาน จำนวนและคุณภาพของสมาชิกคณะกรรมการพรรค อัตราสมาชิกคณะกรรมการพรรคที่เป็นสตรี ชนกลุ่มน้อยและคนรุ่นใหม่ที่เพิ่มมากกว่าวาระที่ผ่านมา โดยมีเลขาธิการพรรสาขาจังหวัดและนครที่เป็นคนที่เกิดในยุคปี 70 ถึงร้อยละ 43

2.                    เวียดนามเป็นจุดเด่นในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด -19 ของโลก

จากการปฏิบัติแนวทางและนโยบายที่ถูกต้องและเด็ดขาดของพรรค รัฐบาลและการเข้าร่วมของทั้งระบบการเมือง รวมทั้งการสนับสนุนอย่างเต็มที่และความตั้งใจอย่างเข้มแข็งของประชาชนทุกชั้นชน เวียดนามสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้เป็นอย่างดีโดยมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เคร่งครัด ใช้ระบบรับมือ ยับยั้งและควบคุมการแพร่ระบาดในจุดร้อนต่างๆเพื่อไม่ปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างคือมาตรการที่ช่วยให้เวียดนามประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และได้กลายเป็นตัวอย่างในการควบคุมโควิด -19 อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด โควิด -19 ได้ส่งผลให้หลายกิจกรรมต้องจัดขึ้นผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เช่น การประชุมสภาแห่งชาติ การประชุมผู้นำอาเซียน การสัมมนาและการเรียนหนังสือที่ต้องเรียนออนไลน์จากที่บ้าน เป็นต้น

เวียดนามประสบความสำเร็จในการปฏิบัตหน้าที่ประธานอาเซียน ประธาน AIPO/ AIPA 2020 และสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

3.                    เวียดนามประสบความสำเร็จในการปฏิบัตหน้าที่ประธานอาเซียน ประธาน AIPO/ AIPA 2020 และสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

จากการส่งเสริมจิตใจ “ ความเป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัว” ในฐานะประธานอาเซียน 2020 เวียดนามและบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียนได้แสดงความมุ่งมั่นที่เข้มแข็ง ความสามัคคีและความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในการรับมืออุปสรรคและความท้าทายต่างๆ ธำรงแนวทางความร่วมมือและรับมือผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ยกระดับสถานะให้สูงเด่นยิ่งขึ้นบนเวทีภูมิภาคและโลก โดยความสำเร็จที่โดดเด่นสุดในปีประธานอาเซียน 2020 คือ เวียดนามได้ผลักดันการลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในทุกด้านระดับภูมิภาค หรือ RCEP ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยประเทศอาเซียนได้เห็นพ้องถึงการให้ความสำคัญต่อกฎหมายสากล ธำรงบรรยากาศที่สันติในทะเลตะวันออก แก้ไขการพิพาทต่างๆด้วยมาตรการทางการทูตและการสนทนา

ในฐานะสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยเฉพาะในเดือนที่เวียดนามปฏิบัติหน้าที่ประธานนั้น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้อนุมัติ 13 มติ แถลงการณ์ของประธาน ออกแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน 5 ครั้งและข่าวสารนิเทศ 2 ครั้ง นี่เป็นผลงานที่มากที่สุดในการปฏิบัติหน้าที่ใน 1 เดือนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในหลายปีมานี้ นอกจากนี้ เวียดนามยังเสนอ ทำการเจรจาและผลักดันให้สมัชชาใหญ่สหประชาชาติอนุมัติมติให้วันที่ 27 ธันวาคมเป็นวันเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดสากล นี่คือมติฉบับแรกในด้านนี้ของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติและเป็นมติฉบับแรกที่เสนอ ทำการเจรจาและผลักดันโดยเวียดนาม

4.                    ถึงแม้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด -19 แต่เวียดนามยังคงเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีอัตรเศรษฐกิจขยายตัวในระดับสูงของภูมิภาคและโลก

ปี 2020 เศรษฐกิจมหภาคของเวียดนามมีเสถียรภาพ เวียดนามสามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ ยกระดับคุณภาพของการขยายตัว รักษาความสมดุลในด้านหลักๆของเศรษฐกิจ ถึงแม้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 แต่จีดีพีของเวียดนามในปี 2020 ขยายตัวเกือบร้อยละ 3 รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรอยู่ที่ 2,750 ดอลลาร์สหรัฐ เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีอัตราการขยายตัวในระดับสูงของภูมิภาคและโลก ที่น่าสนใจคือ ตัวเลขได้เปรียบดุลการค้าของเวียดนามทำสถิติใหม่ที่ 1 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราเงินสำรองต่างประเทศบรรลุ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งความพยายามให้อัตราการขยายตัวของเวียดนามเป็นบวกในปี 2020 เป็นหนึ่งในจุดเด่นของโลก

การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกนับวันกว้างลึกมากขึ้นผ่านข้อตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆ

5. การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกนับวันกว้างลึกมากขึ้นผ่านข้อตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆ

ข้อตกลงอีวีเอฟทีเอที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมปี 2020 ได้เปิดโอกาสมากมายให้แก่สินค้าเวียดนามในการส่งออกไปยังตลาดอียู นอกจากอีวีเอฟทีเอ เวียดนามได้เข้าร่วมข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านระดับภูมิภาคหรือ RCEP โดยมี 15 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งเป็นการจัดตั้งตลาดที่มีผู้บริโภคถึง 2.2 พันล้านคนและมีมูลค่ามากถึง 26.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ข้อตกลงเหล่านี้ได้สร้างแรงกระตุ้นให้แก่การส่งออกของเวียดนาม ช่วยเพิ่มความหลากหลายในด้านตลาดและสินค้าส่งออก โดยเฉพาะสินค้าเกษตร สัตว์น้ำและสินค้าอื่นๆที่เป็นจุดแข็งของเวียดนาม

6. จัดวันงานสำคัญๆช่วยปลุกเร้าจิตใจแห่งความรักชาติและความภาคภูมิใจของประชาชาติ

ในปี 2020 ประเทศเวียดนามได้จัดกิจกรรมการเมืองและรำลึกวันสำคัญๆ เช่น ครอบรอบ 90 ปีวันก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม 3 กุมภาพันธ์ 90 ปีวันก่อตั้งแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนาม 18 พฤศจิกายน 130 ปีวันคล้ายวันเกิดของประธานโฮจิมินห์ 75 ปีการปฏิวัติเดือนสิงหาคมและวันชาติเวียดนาม 2 กันยายน 45 ปีวันปลดปล่อยภาคใต้รวมประเทศเป็นเอกภาพ 30 เมษายน ซึ่งกิจกรรมวัฒนธรรมเหล่านี้ได้ช่วยปลุกเร้าจิตใจแห่งความสามัคคีชนในชาติ ความภาคภูมิใจ การพึ่งพาตนเองของประชาชาติเพื่อมีส่วนร่วมเสริมสร้างความไว้วางใจของประชาชนต่อภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกภายใต้การชี้นำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม

ส่วนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นได้รับการแก้ไขอย่างเด็ดขาดและมีประสิทธิภาพ

7. การสร้างสรรค์ ปรับปรุงพรรคและระบบการเมืองได้รับการผลักดันอย่างรอบด้านและครอบคลุม ส่วนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นได้รับการแก้ไขอย่างเด็ดขาดและมีประสิทธิภาพ

ปี 2020 งานด้านการสร้างสรรค์และปรับปรุงพรรคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่น่ายินดี โดยมีการส่งเสริมทักษะความสามารถในการบริหารและพลังการต่อสู้ขององค์กรพรรค งานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นได้รับการบริหาร ชี้นำและปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและเข้าสู่ส่วนลึก ยืนยันความตั้งใจต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของพรรคและรัฐเวียดนามที่ไม่มีการจำกัดขอบเขตหรือมีข้อยกเว้น สำนักงานที่เกี่ยวข้องได้เปิดดำเนินคดีคอร์รัปชั่นและคดีทางเศรษฐกิจใหญ่ๆที่มีความเสียหายอย่างหนัก การเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างเข้มแข็ง การปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงมากขึ้นในการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในท้องถิ่นต่างๆ การแก้ไขและลงโทษการขัดขวางและสร้างอุปสรรคให้แก่ประชาชนและสถานประกอบการ ซึ่งทั้งนี้ได้มีส่วนร่วมรักษาความมีเสถียรภาพด้านการเมือง พัฒนาเศรษฐกิจสังคมและเพิ่มความไว้วางใจของเจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคและประชาชนต่อพรรคและรัฐเวียดนาม

8. พัฒนาวัฒนธรรม สร้างสรรค์มนุษย์ให้มีความก้าวหน้า

ความสำนึกและการตระหนักในสถานะและบทบาทของวัฒนธรรมในฐานะเป็นพลังขับเคลื่อน เป็นเป้าหมาย เป็นพลังความเข้มแข็งภายในและเป็นพื้นฐานทางจิตใจของสังคมได้รับการยกระดับมากขึ้น โดยผลงานต่างๆได้รับการพัฒนาและมีความหลากหลาย คุณค่าด้านวัฒนธรรมพื้นเมืองของประชาชาติได้รับการอนุรักษ์และส่งเสริม กิจกรรมด้านวัฒนธรรมและศิลปะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว การจัดการประชุมใหญ่ของสมาคมวรรณคดีและศิลปะได้ประสบความสำเร็จ มีการจัดงานมหกรรมศิลปะและวรรณกรรมต่างๆ มากมาย การสร้างสรรค์คนเวียดนามด้วยคุณค่าของประชาชาติและทันสมัยได้รับการดูแลเอาใจใส่ทั้งในด้านบุคลิก สติปัญญาและจิตใจ

ปี 2020 ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นประเทศที่ประยุกต์ใช้ระบบดิจิทัล โดยรัฐบาล กระทรวง หน่วยงานและสถานประกอบการต่างๆ ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แอพพลีเคชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยประยุกต์ใช้เทคโลยีที่ทั่นสมัยต่างๆ เช่น Big Data คลาวด์คอมพิวติ้ง ปัญญาประดิษฐ์ และ Internet of Things เป็นต้น

การเมืองสังคมมีเสถียรภาพ ความมั่นคงกลาโหมได้รับการรักษาและเสริมสร้างอย่างเข้มแข็ง

9. การเมืองสังคมมีเสถียรภาพ ความมั่นคงกลาโหมได้รับการรักษาและเสริมสร้างอย่างเข้มแข็ง

สร้างสรรค์กองทัพประชาชนและตำรวจประชาชนเป็นแบบแผน เป็นมืออาชีพและค่อยๆทันสมัยมากขึ้น กองทัพภาคต่างๆมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและทันสมัยมากขึ้น ยืนหยัดต่อสู้และปกป้องเอกราช อธิปไตย เอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดน ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและประชาชาติ รักษาความมั่นคงด้านการเมืองและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม กองกำลังกลาโหมและความมั่นคงได้รับการปรับปรุงให้เข้มแข็ง ประชาชนมีความมั่นใจต่อพรรคและรัฐมากขึ้น สถานการณ์ในทะเลตะวันออกแม้ซับซ้อนเป็นอย่างมากแต่ก็ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องและยืนหยัด ปฏิบัติยุทธศาสตร์ด้านกลาโหมและความมั่นคงอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อสู้และยับยั้งภัยคุกคามด้านความมั่นคงต่างๆ ประสบผลที่น่ายินดีในการต่อต้านอาชญากรรมและควบคุมการใช้ความรุนแรงในสังคมได้เป็นอย่างดี

10. เหตุอุทกภัยได้สร้างผลเสียหายอันหนักหน่วงให้แก่ภาคกลางเวียดนาม

พายุลูเห็บในช่วงต้นปี ภัยแล้งในภาคกลาง เขตที่ราบสูงเตยเงวียนและเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง พายุและดินถล่มในจังหวัดต่างๆในภาคกลางเวียดนาม ได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 คนและสร้างความเสียหายทางทรัพย์สินเกือบ  30 ล้านล้านด่ง ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในทั่วโลกและพฤติกรรมของมนุษย์ และมีการใช้คำว่า "ภัยธรรมชาติที่หลากหลาย" แทนคำว่า "ภัยธรรมชาติ" แต่ในช่วงที่ลำบากนั้น เราได้เห็นความสามัคคีของประชาชาติ ความรักใคร่ ความเป็นมิตรและการช่วยเหลือจุนเจือกันระหว่างประชาชนในการช่วยแก้ไขผลเสียหายต่างๆอย่างรอบด้านและพร้อมเพรียง.