การปกป้องอธิปไตยของประเทศคือแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนาม
Thu Hoa -  
(VOVWORLD) - ก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 กลุ่มที่เป็นอริและพวกที่ฉกฉวยโอกาสทางการเมืองเพื่อต่อต้านรัฐเวียดนามได้ปล่อยข่าวเท็จและข้อมูลที่บิดเบือนความจริงเกี่ยวกับการปกป้องอธิปไตยของเวียดนาม โดยล้วนแต่เป็นคารมที่มุ่งต่อต้านพรรค รัฐและส่งผลกระทบในทางลบต่อชีวิตที่สงบสุขของประชาชนเวียดนาม ซึ่งต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้และยืนหยัดต่อต้านคารมเหล่านี้อย่างเคร่งครัด
ทัศนะที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามคือยืนหยัดปกป้องเอกราช อธิปไตย เอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดน ปกป้องเขตชายแดนและอธิปไตยเหนือทะเล เกาะแก่งและเขตน่านฟ้าของปิตุภูมิ (hanoimoi.com.vn) |
เครือข่ายสังคมออนไลน์และฟอรั่มของผู้ที่ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับแนวทางการเมืองของเวียดนามได้ปล่อยข่าวว่า "พรรคและรัฐเวียดนามให้ความสำคัญต่อการจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคมากกว่าการปกป้องอธิปไตยเหนือทะเลและเกาะแก่ง” หรือปล่อยข้อมูลที่ใส่ร้ายป้ายสีทัศนะและแนวทางการต่อสู้เพื่อพิทักษ์รักษาอธิปไตยของเวียดนามผ่านแผนกุศโลบายที่มุ่งยุยงปลุกปั่นให้เกิดความระแวงสงสัยในหมู่ประชาชน ทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นต่อการชี้นำของพรรคและรัฐ แต่สิ่งที่อันตรายกว่าก็คือมีหลายคนที่ได้ฉกฉวยปัญหาอธิปไตย รวมทั้งการปกป้องอธิปไตยเหนือทะเลและเกาะแก่งเพื่อชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมการชุมนุนประท้วง โดยใช้ข้ออ้างว่า เพื่อแสดงความความรักชาติ ซึ่งทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพในสังคม ส่วนสำหรับกลุ่มที่เป็นอริก็ได้ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างเพื่อต่อต้านพรรคและรัฐเวียดนามต่อไป
ก่อนอื่น ต้องตระหนักได้ว่า ทัศนะที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามคือยืนหยัดปกป้องเอกราช อธิปไตย เอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดน ปกป้องเขตชายแดนและอธิปไตยเหนือทะเล เกาะแก่งและเขตน่านฟ้าของปิตุภูมิ พร้อมทั้งรักษาบรรยากาศที่สันติภาพและเสถียรภาพเพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยเมื่อวันที่23 มิถุนายนปี1994 สภาแห่งชาติเวียดนามได้มีมติให้สัตยาบันอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี1982 โดยยืนยันถึงอธิปไตยของเวียดนามเหนือพื้นที่น่านน้ำภายในประเทศ เขตน่านน้ำ อำนาจอธิปไตยและอำนาจศาลเหนือเขตน่านน้ำที่ติดกับทะเลสากล เขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนามบนพื้นฐานของอนุสัญญาฯและหลักการของกฎหมายสากลและเรียกร้องให้ประเทศต่างๆให้ความเคารพสิทธิดังกล่าวของเวียดนาม มติดังกล่าวยังยืนยันถึงอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะหว่างซา หรือ หรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลีย์ แนวทางการแก้ไขปัญหาการพิพาทด้านอธิปไตยและความขัดแย้งอื่นๆเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออกผ่านการเจรจาอย่างสันติบนพื้นฐานของความเสมอภาค ความเข้าใจและความเคารพซึ่งกันและกัน การให้ความเคารพกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี1982
เพื่อปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี1982 เวียดนามได้ประกาศใช้กฎหมายทางทะเลปี2012 เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพในการบริหารการวางแผน การสำรวจและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเล การบริหารเขตทะเล ไหล่ทวีปและเกาะแก่งของเวียดนามและการแก้ไขปัญหาการพิพาททางทะเลระหว่างเวียดนามกับประเทศเพื่อนบ้าน ควบคู่กับการประกาศใช้กฎหมายทางทะเล สภาแห่งชาติเวียดนามได้อนุมัติกฎหมายเขตชายแดนปี2003 กฎหมายการเดินเรือปี2015 กฎหมายทรัพยากร สิ่งแวดล้อมทางทะเลและเกาะแก่งปี2015 เป็นต้น
การปกป้องอธิปไตยเหนือทะเลและเกาะแก่งของเวียดนามเป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็มีความยากลำบาก ซับซ้อนและต้องปฏิบัติในระยะยาว เวียดนามมีแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายในการยืนหยัดต่อสู้ด้วยมาตรการสันติและสอดคล้องกับกฎหมายสากลผ่านช่องทางต่างๆเพื่อรักษาอธิปไตย อำนาจอธิปไตยและอำนาจศาลเหนือเขตทะเล เขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปตามกฎหมายสากล ซึ่งสิ่งนี้ถูกระบุอย่างชัดเจนในมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12และได้รับการพิสูจน์ให้เห็นผ่านวิธีการแก้ไขข้อบกพร่องในปัญหาทะเลตะวันออกด้วยเจตนารมณ์ของการให้ความเคารพกฎหมายสากลของเวียดนาม นั่นคือการแก้ไขปัญหาการพิพาทบนพื้นฐานของกฎหมายสากลและอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี1982 ใช้ความอดกลั้น ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้กำลัง ปฏิบัติแถลงการณ์ว่าด้วยการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพและมุ่งสู่การจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว
ทหารกองทัพเรือภาคที่ 4 กำลังปฏิบัติหน้าที่ปกป้องเขตน่านน้ำของปิตุภูมิ (dangcongsan.vn) |
ผู้นำระดับสูงของพรรค รัฐและกองทัพเวียดนามก็ได้ยืนยันหลายครั้งถึงจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามเกี่ยวกับอธิปไตยของประเทศ โดยล่าสุดนี้ ในการพบปะกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเขตบาดิ่ง กรุงฮานอยเมื่อกลางเดือนตุลาคมปี2019 เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ เหงวียนฟู้จ่องได้ชี้ชัดถึงความเสี่ยงด้านความมั่นคงและความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม โดยเฉพาะปัญหาดินแดน เขตชายแดน ทะเลและเกาะแก่ง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังต่อทัศนะของกลุ่มหัวรุนแรงเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออกและยืนยันว่า ต้องรักษาบรรยากาศแห่งสันติภาพและเสถียรภาพเพื่อพัฒนาประเทศ ยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องเอกราช อธิปไตย เอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดน ไม่ยอมประนีประนอมในปัญหาอธิปไตย เอกราช เอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดน
ส่วนในพิธีประกาศหนังสือปกขาวด้านกลาโหมของเวียดนามปี2019 นอกจากย้ำถึงนโยบายกลาโหมของเวียดนามที่เน้นรักษาสันติภาพและปกป้องตนเอง พลโทอาวุโสเหงวียนชี้หวิง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมได้ชี้ชัดว่า “พวกเราจะใช้ศักยภาพทางทหารเมื่อประเทศถูกรุกรานเพื่อปกป้องเอกราช อธิปไตย เอกภาพ บูรณภาพแห่งดินแดน ผลประโยชน์ของประชาชาติและระบอบการเมือง” หนังสือปกขาวด้านกลาโหมของเวียดนามยังได้ยืนยันถึงทัศนะที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือ “ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้กำลังในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ” และ“ไม่เข้าร่วมพันธมิตรทางทหาร”
บทเรียนที่ล้ำค่าจากสงครามต่างๆในอดีตทำให้ประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศที่มีศักยภาพทางทหารก็กำลังถือการสนทนาและกฎหมายสากลเป็นเข็มทิศนำทางในทุกกิจกรรมเกี่ยวกับอธิปไตยแทนการส่งเสริมการปะทะและเผชิญหน้า ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า จุดยืน แนวทางและนโยบายของเวียดนามในการปกป้องอธิปไตยและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องด้วยสันติวิธีและการสนทนาเป็นแนวทางที่ถูกต้องและสอดคล้องกับแนวโน้มของโลก.
Thu Hoa