การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 42 เห็นพ้องในแนวทางที่สำคัญๆ

(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม การประชุมผู้นำสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนครั้งที่ 42 ได้เสร็จสิ้นลง ณ เมืองลาบวนบาโจ ประเทศอินโดนีเซีย หลังจากประชุมมาเป็นเวลา 3 วัน โดยมีการจัดการประชุมสุดยอด 8 นัดและการพบปะทวิภาคีหลายนัด ที่ประชุมได้อนุมัติเอกสารต่างๆที่ครอบคลุมทั้งใน 3 เสาหลักคือ การเมือง-ความมั่นคง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม-สังคมของประชาคมอาเซียน ตามความเห็นของรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม บุ่ยแทงเซิน ที่ประชุมได้ส่งสารและเห็นพ้องในแนวทางที่สำคัญๆของความร่วมมืออาเซียนในปี 2023 และปีต่อๆ ไป ในขณะที่เวียดนามก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงบทบาทในฐานะประเทศสมาชิกที่กระตือรือร้นและมีส่วนร่วมต่อความสำเร็จของการประชุมครั้งนี้
การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 42 เห็นพ้องในแนวทางที่สำคัญๆ - ảnh 1บรรดาผู้นำอาเซียนที่เข้าร่วมการประชุม

 

การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 42 ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิกที่จะร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและครอบคลุม

ความสำเร็จในการส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาค

นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ยืนยันว่า การประชุมได้ผลลัพธ์ที่สำคัญต่างๆ  โดยอันดับแรกคือ จิตใจแห่งความสามัคคี ความเป็นอิสระ การพึ่งตนเองและการเป็นฝ่ายรุกในการจัดทำยุทธศาสตร์ได้ถูกระบุอย่างชัดเจนในบทปราศรัยของบรรดาผู้นำอาเซียน โดยบรรดาผู้นำอาเซียนได้เห็นพ้องกันว่า นี่คือพลังที่เข้มแข็ง พลังขับเคลื่อนและเป็นแนวทางของอาเซียนในการธำรงสถานะ บทบาทและภาพลักษณ์ในภูมิภาคและโลก อาเซียนจะเป็นกองกำลังหลักในกระบวนการเสริมสร้างสันติภาพ  ธำรงเสถียรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนภูมิภาคเอเชีย และอินโด-แปซิฟิก

2 คือ อาเซียนมีเงื่อนไขที่เพียงพอเพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางแห่งการเติบโตและได้รับการให้ความสำคัญจากประเทศต่างๆ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์มีความผันผวนอย่างซับซ้อน มีความท้าทายและความยากลำบากนานัปการ แต่อาเซียนยังคงเติบโตในระดับสูง โดยอยู่ที่ร้อยละ 5.5 เมื่อปีที่แล้ว กลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ถึงกระนั้น บรรดาผู้นำอาเซียนยังแสดงความเห็นว่า อาเซียนจะต้องไม่ประมาท ต้องส่งเสริมความร่วมมือในด้านใหม่ๆและเป็นยุทธศาสตร์ เช่น การส่งเสริมการค้า การลงทุนภายในกลุ่ม การปรับเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัล การพัฒนาที่ยั่งยืน การพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น ประเด็นที่ 3 คือ ถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุดและเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของประชาคมอาเซียน เนื้อหาที่ได้รับการอภิปรายในการประชุมครั้งนี้คือผลประโยชน์ของประชาชนเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่เท่าเทียมกัน ยั่งยืนและครอบคลุม ซึ่งถูกระบุในคำประกาศของบรรดาผู้นำอาเซียน และมีความหมายที่เป็นรูปธรรม มุ่งสู่ประชาคม เช่น แรงงานข้ามชาติ เครือข่ายหมู่บ้านอาเซียนและการพัฒนาชนบท เป็นต้น

ในกรอบการประชุม บรรดาผู้นำยังได้สงวนเวลาเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในอาเซียน เช่น รัฐสภา เยาวชน สถานประกอบการและกลุ่มปฏิบัติงานระดับสูงเกี่ยวกับวิสัยทัศน์อาเซียนหลังปี 2025 โดยทุกคนได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์ประชาคมที่มุ่งสู่ประชาชนและถือประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง

การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 42 เห็นพ้องในแนวทางที่สำคัญๆ - ảnh 2นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง 

สารของเวียดนามในการประชุม

สำหรับการมีส่วนร่วมของเวียดนามในการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศ บุ่ยแทงเซิน ได้ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และคณะผู้แทนเวียดนามได้ส่งสารที่สำคัญ นั่นคือจิตใจแห่งความสามัคคีของอาเซียน ความมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพต่อภารกิจการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนและเป็นการยืนยันถึงแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคและรัฐเวียดนามโดยถืออาเซียนเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในนโยบายการต่างประเทศ

ตามความเห็นของรัฐมนตรี บุ่ยแทงเซิน บทปราศรัยของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง สื่อถึงการสร้างความคิด การปลุกเร้าจิตใจพึ่งตนเองและสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาของประชาคมอาเซียน และได้มีข้อเสนอหลายข้อในการประชุม โดยประเด็นที่ 1 คือ ความสามัคคี ความเป็นเอกภาพ ความเป็นอิสระ การพึ่งตนเองและการส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลางอย่างเข้มแข็ง คือคุณค่าขั้นพื้นฐานที่สร้างความสำเร็จของอาเซียน นายกรัฐมนตรีเวียดนามระบุว่า อาเซียนต้องเป็นสะพานเชื่อมที่น่าเชื่อถือ มีความสามารถในการประสานความสัมพันธ์กับประเทศสำคัญๆ อย่างมีประสิทธิผล  สร้างสรรค์และส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการสนทนา ความร่วมมือในการเป็นที่ปรึกษา การสร้างความไว้วางใจและประสานงานในการรับมือความท้าทายร่วมกัน

ประเด็นที่ 2 คือ อาเซียนต้องส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคผ่านกลไก โครงสร้างพื้นฐาน และผู้คน เพื่อแก้ไขอุปสรรคในความร่วมมือและกระตุ้นศักยภาพแห่งการพัฒนา นายกรัฐมนตรีย้ำว่า นี่คือ 3 ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนแห่งการพัฒนาที่เข้มแข็งมากขึ้นให้แก่อาเซียนในทศวรรษหน้า อีกทั้ง เสนอเรื่องการให้ความสนใจต่อการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล รัฐบาลดิจิทัล และเศรษฐกิจหมุนเวียน ควบคู่กับการเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้า การพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและจัดทำยุทธศาสตร์ในระยะยาวโดยเร็วเกี่ยวกับการฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพสูงผ่านการปฏิบัติข้อตกลงรับรองร่วมเกี่ยวกับมาตรฐานวิชาชีพของอาเซียน ประเด็นที่ 3 คือ ด้วยการยึดมั่นจิตใจหลักของอาเซียนคือถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป้าหมายและพลังขับเคลื่อนแห่งการสร้างสรรค์ประชาคม นายกรัฐมนตรีเวียดนามย้ำว่า อาเซียนต้องให้ความสนใจต่อการส่งเสริมการลดช่องว่างการพัฒนา โดยเฉพาะ ในเขตที่อยู่ห่างไกลความเจริญ เขตทุรกันดารและอนุภูมิภาค ความร่วมมืออนุภูมิภาคต้องมีความเชื่อมโยงกับโครงการความร่วมมือของประชาคมอาเซียนในทุกด้านเพื่อเปิดพื้นที่การพัฒนาที่กว้างใหญ่มากขึ้นและค้ำประกันชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ประชาชนทุกคน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บุ่ยแทงเซิน ยืนยันว่า ผลงานที่ได้บรรลุในการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 42 ด้วยการมีส่วนร่วมที่สำคัญของเวียดนามเป็นการยืนยันถึงพลังชีวิตของอาเซียนภายหลังกว่า 55 ปีแห่งความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง แถลงการณ์ร่วมของบรรดาผู้นำเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียนหลังปี 2025 มีการมองที่กว้างไกล ครอบคลุมและมุ่งสู่อนาคต ซึ่งจะสนับสนุนการรับมือความท้าทายและแนวโน้มการพัฒนาทั้งภายในและนอกภูมิภาคในอีก 20 ปีข้างหน้า.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด