การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีสมัยที่ 19 (THX)

การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนคือการประชุมสุดท้ายในระยะประวัติศาสตร์ 100 ปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ดังนั้นนี่คือการประชุมที่มีความหมายสำคัญ สร้างนิมิตหมายการเปลี่ยนแปลงใหม่และการพัฒนาของจีนในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา และการตัดสินใจแนวทางการพัฒนาในปีต่อๆไป

ผลสำเร็จที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของจีนในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

ในช่วงทศวรรษปี 50 จีนได้ปฏิบัติแนวทาง “พัฒนา4ด้านให้ทันสมัย” เพื่อสร้างสรรค์ประเทศ อันประกอบด้วย การพัฒนาอุตสาหกรรม การเกษตร กลาโหมและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีให้มีความทันสมัย แต่เนื่องจากผลกระทบของความผันผวนทางการเมืองและสังคม กระบวนการพัฒนาของจีนยังไม่สามารถบรรลุก้าวกระโดดได้อย่างแท้จริง บรรดาผู้นำจีนจึงเน้นปฏิบัติการปฏิรูปและเปิดประเทศ เพื่อสร้างสรรค์เศรษฐกิจเชิงตลาดบนพื้นฐานการธำรงระบอบรัฐเป็นเจ้าของและยืนหยัดปฏิบัติแนวทางนี้ นำเศรษฐกิจจีนขึ้นอยู่อันดับ 2 ของโลก นับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่ง เลขาธิการใหญ่พรรคและประธานประเทศจีน นายสีจิ้นผิง ได้ปฏิบัติแนวทาง “พัฒนาให้ทันสมัยครั้งที่ 5” โดยดำเนินการปฏิรูปในทุกด้าน เดินหน้าในการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นและผลักดันระบอบการบริหารด้วยกฎหมาย  โดยนอกจากการปฏิบัติแนวทาง “พัฒนา4ด้านให้ทันสมัย”แล้วจีนยังย้ำถึงการปฏิรูปสังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศวิทยา

โดยความมุ่งมั่นทำการปฏิรูป ในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้สังคมจีนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่เมื่อหลายปีก่อนก็ค่อยๆได้รับการแก้ไข เช่นการลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนในเขตตัวเมืองและเขตชนบท ทำให้กลไกของพรรคและรัฐมีความโปร่งใสผ่านการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นและเปลี่ยนแปลงวิธีการพัฒนาเศรษฐกิจ

ตามรายงานสถิติ ในช่วงปี 2012-2016 เฉลี่ยทุกปีมีชาวจีนเกือบ 14 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรในเขตชนบทเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 10.7 ต่อปี การปราบปรามการทุจริตได้รับการปฏิบัติอย่างกว้างลึกจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไปภายใต้ชื่อ “จับเสือตีแมลงวัน” ซึ่งได้รับการปฏิบัติอย่างเด็ดขาด โดยได้ลงโทษเจ้าหน้าที่ข้าราชการในทุกระดับเกือบ 7 หมื่นคนในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้แถวขบวนเจ้าหน้าที่ผู้นำของพรรคและรัฐได้รับการปรับปรุงให้มีความบริสุทธิ์ สร้างความไว้วางใจและได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากประชาชน แม้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงมีการผันผวนอย่างซับซ้อน ด้วยความท้าทายต่างๆที่เพิ่งเกิดขึ้นในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แต่เศรษฐกิจจีนยังคงอยู่อันดับ 2 ของโลก โดยอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจในทุกปีมีเสถียรภาพและอยู่ในระดับสูงซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีของเศรษฐกิจได้ทำให้จีนมีสถานะและอิทธิพลมากขึ้นบนเวทีโลก แม้จะประสบผลสำเร็จอย่างข้ามขั้นก็ตาม แต่ประเทศจีนยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ นั่นคือจำนวนประชากรที่อยู่ในระดับสูงได้ทำให้ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้การเสร็จสิ้นเป้าหมายสังคมที่ร่ำรวยภายในปี 2020 กำลังประสบอุปสรรค์ เนื่องจากจำนวนประชากรที่ยากจนและกลับจนอีกยังอยู่ในระดับสูง ความขัดแย้งหลายปัญหาในสังคมเกิดขึ้นและสถานการณ์การทุจริตคอรัปชั่นยังคงมีความรุนแรง โดยเฉพาะจีนต้องแก้ไขบางปัญหาที่เร่งด่วนในปัจจุบันคือปัญหาหนี้สาธารณะซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 260% จนถึงกลางปีนี้

ในสภาวการณ์ดังกล่าว การสร้างก้าวกระโดดใหม่ให้แก่ภารกิจการปฏิรูปในทุกด้านคือสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน เพื่อค้ำประกันการขยายตัวด้านเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ธำรงเสถียรภาพในสังคม อนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมที่ก้าวหน้าบนพื้นฐานระบอบลัทธิสังคมนิยมที่เป็นเอกลักษณ์จีน

ประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง (THX)

หัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ

ทั้งนี้ การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 19 คือช่วงเวลาที่สำคัญเพื่อให้คณะผู้บริหารของพรรคคอมมิวนิสต์จีนตระหนักถึงความสำเร็จ ข้อสะดวก อุปสรรค์และความท้าทายต่างๆเพื่อค่อยๆปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นเพื่อสังคมที่มีเสถียรภาพ มีความยุติธรรมและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น ในรายงานการเมืองในการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งนี้ เลขาธิการใหญ่พรรคและประธานประเทศจีน นายสีจิ้นผิง ได้ให้คำมั่นที่จะสร้างสรรค์ประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยในยุคใหม่ และแสดงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศจีนให้เป็นประเทศมหาอำนาจชั้นนำของโลก โดยเฉพาะ คาดว่า ที่ประชุมครั้งนี้จะอนุมัติวิสัยทัศน์ 30 ปี โดยจนถึงปี 2035 จีนจะเสร็จสิ้นทุกเป้าหมายในขั้นพื้นฐาน กลายเป็นประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัย ปี 2050 จะกลายเป็นประเทศมหาอำนาจสังคมนิยมที่ทันสมัย.

ในตลอดเกือบ 70 ปีที่ผ่านมา การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้กลายเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญของประเทศ เป็นปัจจัยชี้ขาดต่อการพัฒนาอนาคตของประเทศ  การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 19 ยิ่งมีความสำคัญเมื่อขอบเขตและอิทธิพลของประเทศนี้ยิ่งเข้มแข็งมากขึ้นในเศรษฐกิจและปัญหาต่างๆของโลก จากสถานะ “โดดเด่นขึ้นอย่างเข้มแข็ง”  ไปจนถึงการค่อยๆยืนยันและเสริมสร้างบทบาทเป็นประเทศมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจ ทุกการเปลี่ยนแปลงของจีนไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อปัญหาภายในประเทศจีนเท่านั้น หากยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพรวมสถานการณ์การเมืองในโลกไม่น้อย.