ภาพในฟอรั่ม (Photo: VNA)

 ตั้งแต่ปี 2010 เวียดนามได้ถูกระบุในรายชื่อประเทศที่มีรายได้ปานกลาง แต่ผลสำเร็จดังกล่าวได้สร้างความท้าทายใหม่ นั่นคือการหลีกเลี่ยงการตกอยู่ในกับดักรายได้ปานกลางที่หลายประเทศต้องประสบและปัญหาการพัฒนาที่ล่าช้าเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ในสภาวการณ์ที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ได้สร้างทั้งโอกาสและความท้าทายให้แก่เวียดนาม การเพิ่มผลผลิตถือเป็นกุญแจสู่การขยายตัวอย่างยั่งยืน

เพิ่มผลผลิต – หนึ่งในปัญหาที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนาม

ผลผลิต หรือ ผลิตภาพคือดัชนีสำคัญของตลาดแรงงานที่สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพการผลิตการขยายตัวด้านเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน รวมทั้งขีดความสามารถในการแข่งขันและประสิทธิผลของการใช้แรงงานของแต่ละประเทศ โดยในปี 2016 ผลิตภาพของเวียดนามได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับปี 2015 และสูงกว่าปีที่ผ่านๆมา ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ตั้งความหวังว่า ในปี 2017 ผลิตภาพของเวียดนามจะมีการขยายตัวแบบก้าวกระโดด  แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆในภูมิภาค ตัวเลขนี้ของเวียดนามยังอยู่ในระดับตํ่า นาย Simon Matthews ผู้อำนวยการบริษัท ManPower Group ประจำเวียดนาม ไทยและภูมิภาคตะวันออกกลางได้กล่าวถึงจุดแข็งของแรงงานเวียดนามที่สามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆในภูมิภาค “เวียดนามมีประชากรที่อยู่ในวัยทำงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีความขยัน ความมุ่งมั่นและกระตือรือร้น ดังนั้น สถานประกอบการเวียดนามต้องเน้นผลักดันการพัฒนาทักษะและฝีมือของแรงงาเพื่อเพิ่มผลผลิตของแรงงานอย่างรวดเร็ว”

นาย Simon Matthews ผู้อำนวยกาบริษัท ManPower Group ประจำเวียดนาม

บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้เห็นพ้องกันว่า การเพิ่มผลผลิตคือหนึ่งในความท้าทายและเป็นปัญหาที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนามในปัจจุบัน โดยในการกล่าวปราศรัยในการประชุม VDF ปี 2017 นาย เหงวียนจี๊หยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามได้เผยว่า“จากการเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มผลผลิต รัฐบาลเวียดนามกำลังพยายามปฏิบัติมาตรการผลักดันการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ การประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลผลิต คุณภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ โดยรายงานของรัฐบาลเกี่ยวกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมปี 2018 ในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 4 สมัยที่ 14 ได้ระบุถึงการเพิ่มผลผลิต ขีดความสามารถในการแข่งขัน การส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์และการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ”

นาย เหงวียนจี๊หยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนาม (Photo: quochoi.vn)

 แก้ไขปัญหาที่สำคัญๆ

ความท้าทายเกี่ยวกับผลผลิตในปัจจุบันคือปัญหาที่เวียดนามต้องแก้ไขเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน นาย Ousmane Dione ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำเวียดนามได้เผยว่า เวียดนามมีศักยภาพมากมายเพื่อเพิ่มผลผลิตในด้านต่างๆ เช่น พลังงาน อุตสาหกรรม การผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างการเกษตร การประสานงานระหว่างสถานประกอบการกับเกษตรกร การเชื่อมโยงระหว่างระบบคมนาคมและโลจิสติกอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การผลักดันการเข้าร่วมห่วงโซ่คุณค่าโลกมีบทบาทชี้ขาดเพื่อเพิ่มผลผลิตของเวียดนาม นอกจากนี้ ต้องส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการเวียดนามกับสถานประกอบการเอฟดีไอเพื่อช่วยให้เวียดนามเข้าร่วมห่วงโซ่คุณค่าโลกอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น “ต้องเล็งเห็นถึงความสำคัญของการให้การศึกษาด้านทักษะวิชาชีพและการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ในการแสวงหามาตรการเพิ่มผลผลิตของเวียดนาม เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่ต้องรวบรวมทักษะในด้านต่างๆและแนวโน้มใหม่ๆเพื่อมีส่วนร่วมเพิ่มผลผลิตของแรงงาน อีกทั้งต้องสร้างกลไกตลาด พัฒนาสถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัยเพื่อยกระดับทักษะและฝีมือของผู้ใช้แรงงาน”

นอกจากนี้ นาย Ousmane Dione ยังเผยว่า ต้องผลักดันการปฏิรูปในด้านต่างๆและพัฒนากลไกตลาดเพื่อเพิ่มผลผลิตของแรงงาน รวมถึงการปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิ ระเบียบราชการเพื่อลดค่าใช้จ่ายและการจัดสรรค์แหล่งพลังต่างๆ เช่น เงินทุนและที่ดิน อย่างเหมาะสมเพื่อคํ้าประกันการใช้แหล่งพลังต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด.