ก้าวพัฒนาที่สำคัญในการปรองดองชาติของปาเลสไตน์

(VOVWORLD) -วันที่ 12 ตุลาคมตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ หัวหน้าขบวนการฮามาสและฟาตาห์ได้บรรลุข้อตกลงปรองดองชาติ ยุติความขัดแย้งและความแตกแยกเป็นเวลา 1 ทศวรรษ นี่เป็นก้าวพัฒนาครั้งประวัติศาสตร์เพื่อเปิดความหวังยุติการปะทะที่ยืดเยื้อมานานระหว่างสองขบวนการทางการเมืองสำคัญของปาเลสไตน์และมุ่งสู่การสร้างสรรค์ประเทศปาเลสไตน์ที่สามัคคี เอื้ออำนวยให้แก่การเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล
ก้าวพัฒนาที่สำคัญในการปรองดองชาติของปาเลสไตน์ - ảnh 1 ตัวแทนของขบวนการฟาตาห์และฮามาสลงนามในข้อตกลงปรองดองชาติ ณ กรุงไคโร เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม (Photo:AFP/TTXVN)

ตามข้อตกลงฉบับนี้ ขบวนการฮามาสจะมอบอำนาจควบคุมจุดผ่านแดนราฟาห์และระบบสำนักราชการในฉนวนกาซ่าให้แก่รัฐบาลสามัคคีปาเลสไตน์ในวันที่ 1 พฤศจิกายนและ 1 ธันวาคม ส่วนขบวนการฝาตาห์จะส่งตำรวจประมาณ 3 พันนายมาเสริมกำลังให้แก่กองกำลังตำรวจในฉนวนกาซ่า แม่ฮามาสยังคงเป็นขบวนการติดอาวุธที่เข้มแข็งที่สุดของปาเลสไตน์ด้วยมือปืนที่มีอาวุธครบครัน 25,000 คน ฮามาสและฟาตาห์จะหารือเกี่ยวกับการกำหนดวันเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภา รวมทั้งการปฏิรูปองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์หรือพีแอลโอ ซึ่งเป็นฝ่ายรับผิดชอบการแสวงหาสันติภาพกับอิสราเอล

ข้อตกลงสุดท้าย

การที่ขบวนการฟาตาห์และฮามาสตกลงลงเรือลำเดียวกันถือเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นในสภาวการณ์ที่โลกและภูมิภาคมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก ที่ตะวันออกกลาง ประชามติเน้นความสนใจถึงการต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส การปะทะในซีเรีย ปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านและวิกฤตทางการทูตในเขตอ่าว จึงไม่สนใจมากถึงปัญหาปาเลสไตน์เหมือนเมื่อก่อน ในขณะเดียวกัน สหรัฐและบรรดาประเทศอาหรับกำลังมีแนวโน้มสนับสนุนอิสราเอลในระดับต่างๆที่แตกต่างกัน อีกอย่างคือ แนวทางของฮามาสที่ต่อสู้ด้วยอาวุธได้ก่อให้เกิดการปะทะกับอิสราเอล จนสร้างเหตุผลให้อิสราเอลยกเลิกคำมั่นและส่งผลกระทบให้กระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางถูกชะงักงัน ปัจจุบันนี้ การสนันสนุนขบวนการฮามาสกำลังลดลงเนื่องจากแรงกดดันของประเทศต่างๆ ดังนั้นการปรองดองไกล่เกลี่ยระหว่างฮามาสกับฟาตาห์จึงมีความหมายทางการเมืองเป็นอย่างมากต่อกระบวนการสันติภาพของภูมิภาค โดยเฉพาะปาเลสไตน์

โดยประธานาธิบดีปาเลสไตน์ มาห์มุด อับบาสได้ยืนยันว่า นี่เป็น “ข้อตกลงฉบับสุดท้าย” เพื่อยุติความแตกแยกและการปะทะระหว่างสองฝ่าย นายอับบาสยังวางแผนไปเยือนฉนวนกาซ่าในเดือนหน้าเพื่อเป็นการยืนยันถึงความพยายามปรองดองชาติ นี่จะเป็นการเยือนครั้งแรกของนาย อับบาสไปยังเขตที่อยู่ภายใต้อำนาจของขบวนการฮามาสในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมาและถือเป็นขั้นตอนหนึ่งเพื่อยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรต่างๆในเขตนี้

ในกรอบของภูมิภาค การกดดันให้ปาเลสไตน์ทำการไกล่เกลี่ยไม่เพียงแต่ช่วยให้อียิปต์ปกป้องความมั่นคงของตนและยืนยันบทบาททางการเมืองในภูมิภาคเท่านั้น หากยังช่วยปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอล เพราะการไกล่เกลี่ยกับฟาตาห์จะช่วยให้ขบวนการฮามาสต้องลดความเป็นอริและมีแนวคิดหัวรุนแรงกับอิสราเอล ส่วนทางการเทนอาวีฟ ถ้าต้องการเจรจากับปาเลสไตน์ก็จะทำการเจรจากับปาเลสไตน์เอกภาพ มิใช่กับ 2 ขบวนการทางการเมืองใหญ่นี้

ความเป็นไปได้ของข้อตกลง

นักวิเคราะห์ให้ข้อสังเกตว่า ข้อตกลงฉบับนี้ระหว่างขบวนการฟาตาห์กับฮานมาสมีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับความเคารพมากกว่าข้อตกลงฉบับก่อนๆเพราะว่า ฮามาสนับวันถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นและเศรษฐกิจในฉบนวนกาซ่านับวันซบเซามากขึ้นเนื่องจากถูกปิดล้อมและโครงสร้างพื้นฐานถูกทำลายในการปะทะกับอิสราเอล ปัจจุบันนี้ ประชาชนในฉนวนกาซ่า 2 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้และอัตราคนว่างงานอยู่ในระดับสูง ดังนั้นถ้าหากข้อตกลงฉบับนี้ได้รับการปฏิบัติ ฉนวนกาซ่าจะไม่ถูกปิดล้อมอีกและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองชาวปาเลสไตน์ Mustafa Ibraham เผยว่า ชาวปาเลสไตน์ไม่ควรดีใจกับเรื่องนี้เร็วเกินไปเพราะวันเลือกตั้งและข้อกำหนดต่างๆยังไม่ชัดเจน เช่น อำนาจการควบคุมเส้นแบ่งพรมแดนระหว่างฉนวนกาซ่ากับอิสราเอลจะมอบให้แก่ทางการปาเลสไตน์ในวันที่ 1 พฤศจิกายน แต่เส้นพรมแดนกับอียิปต์จะต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในการเจรจา กองพลทหารเอซเซดีน อัล-กอสซัมของขบวนการฮามาส ซึ่งมีสมาชิกประมาณ 2 หมื่น 5 พันคน ยังคงเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติข้อตกลงที่ได้ลงนามเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาสได้เผยว่า ไม่สามารถสลายหน่วยทหารนี้แต่ประธานาธิบดีอับบาสยืนยันว่า ทางการปาเลสไตน์จำเป็นต้องมีอำนาจการควบคุมอย่างสมบูรณ์ ตลอดจนชะตากรรมของเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ฮามาสรับสมัครงานเมื่อปี 2007 นับพันคน ซึ่งเป็นปัญหาที่จะต้องใช้เวลาแก้ไขถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018

ความเป็นไปได้ในการปฏิบัติข้อตกลงฉบับนี้ยังถูกกดดันจาประเทศต่างๆทั้งภายในและนอกภูมิภาคตะวันออกกลาง เพราะ ไม่เหมือนกับขบวนการปลดปล่อยปาเลสไตน์ของนาย อับบาส ฮามาสไม่รับรองอิสราเอลและจะไม่ยกเลิกการใช้ความรุนแรง ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮูได้เตือนว่า รัฐบาลของตนจะไม่ยอมรับข้อตกลงไกล่เกลี่ยใดๆแว้นแต่ขบวนการฮามาสปลดอาวุธและยอมรับรัฐอิสราเอล ส่วนสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังแสวงหามาตรการเริ่มกระบวนการสันติภาพอิสราเอล – ปาเลสไตน์ก็แสดงทัศนะว่า ทางการปาเลสไตน์จะต้องยอมรับสิทธิการคงอยู่ของรัฐอิสราเอล

การปรองดองชาติเป็นความคาดหวังของชาวปาเลสไตน์ทุกคน การที่ขบวนการฮามาสและฟาตาห์ได้บรรลุข้อตกลงปรองดองไกล่เกลี่ยฉบับใหม่เพียงเป็นก้าวเดินแรกในเส้นทางปรองดองชาติเพื่อเป้าหมายร่วมกันคือการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ที่เอกราช ความท้าทายยังคงรออยู่ข้างหน้า โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างฮามาสกับฟาตาห์เกี่ยวกับมาตรการแก้ไขการปะทะระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอลและอุปสรรคต่างๆจากฝ่ายอิสราเอล.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด