( VOVworld )- ในกรอบการเยือนสหภาพยุโรป ท่านฝ่ามบิ่งมินห์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกับท่านแคตเธอริน แอซตันตัวแทนระดับสูงของสหภาพยุโรปดูแลนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงและเป็นรองประธานคณะกรรมการยุโรปได้ลงนามในข้อตกลงโครงว่าด้วยหุ้นส่วนและความร่วมมืออย่างรอบด้านหรือพีซีเอระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป ซึ่งได้ถือว่าเป็นการสร้างกรอบทางนิตินัยใหม่ที่จะส่งผลดีต่อการขยายความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปในอนาคต

รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามกับตัวแทนอียูลงนามในข้อตกลงพีซีเอ ( สำนักข่าวเวียดนาม )

การลงนามข้อตกลงโครงว่าด้วยหุ้นส่วนและความร่วมมืออย่างรอบด้านหรือพีซีเอระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปเป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย  โดยจากเป็นฝ่ายช่วยเหลือเวียดนามเพื่อการพัฒนา การแก้ปัญหาความยากจนและการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรปและเวียดนามได้กลายเป็นความสัมพันธ์หุ่นส่วนที่เสมอภาคและร่วมมือในทุกด้าน ซึ่งข้อตกลงโครงว่าด้วยหุ้นส่วนและความร่วมมืออย่งรอบด้านหรือพีซีเอระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปเป็นตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของการพัฒนาระหว่างเวียดนามกัยสหภาพยุโรปอย่างรอบด้านและลึกซึ้งในกว่า ๒๐ ปีที่ผ่านมา อีกทั้งเป็นเครื่องหมายสำคัญของการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการในการเชื่อมโยงอย่างกว้างลึกและบทบาทของสหภาพยุโรปในศตวรรษที่ ๒๑ เช่นเดียวกับฐานะและพลังของเวียดนามที่นับวันยิ่งสูงขึ้นภายหลังดำเนินการเปลี่ยนแปลงประเทศมาเป็นเวลากว่า ๒๕ ปีและการหลอมรวมของเวียดนามเข้ากับโลกอย่างสำเร็จ  หลังพิธีลงนามท่านฝ่ามบิ่งมินห์รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศเวียดนามได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยยืนยันว่า ข้อตกลงโครงว่าด้วยหุ้นส่วนและความร่วมมืออย่างรอบด้านหรือพีซีเอระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปสะท้อนให้เห็นถึงผลประโยชน์ที่กลมกลืนและด้านที่ให้ความสำคัญระหว่างสองฝ่ายเมื่อเทียบกับข้อตกลงโครงที่เวียดนามและคณะกรรมการยุโรปหรืออีซีได้ลงนามปี ๑๙๙๕  “ ข้อตกลงฉบับนี้ได้ขยายความร่วมมือในด้านที่เวียดนามต้องการอาทิเช่น วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การศึกษาและฝึกอบรม นับเป็นแขนงที่สหภาพยุโรปมีศักยภาพ  พร้อมกันนั้น ข้อตกลงโครงว่าด้วยหุ้นส่วนและความร่วมมืออย่างรอบด้านหรือพีซีเอระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปจะช่วยสนับสนุนสหภาพยุโรปในการขยายความร่วมมือกับเวียดนามในด้านระหว่างประเทศและทั่วโลก อันเป็นการสะท้อนบทบาทของเวียดนามบนเวทีโลกอาทิ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การรับมือกับการท้าทายใหม่ๆด้านความมั่นคงได้แก่ การก่อการร้าย การต่อต้านการเผยแพร่อาวุธที่มีอนุภาพการทำลายล้างสูง ซึ่งสหภาพยุโรปต้องการความร่วมมือของเวียดนามเป็นอย่างมาก ”

รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามประเมินเกี่ยวกับอนาคตในความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายหลังจากได้ลงนามในข้อตกลงโครงว่าด้วยหุ้นส่วนและความร่วมมืออย่างรอบด้านหรือพีซีเอระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปโดยย้ำว่า ทั้งสองฝ่ายมีพื้นฐานในการเห็นลู่ทางที่แจ่มใสเพราะผู้นำระดับสูงของสองฝ่ายให้ความสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี อีกเหตุผลคือพื้นฐานทางการเมืองและเศรษฐกิจที่สำคัญของเวียดนามในภูมิภาคจะทำให้สหภาพยุโรปได้รับความสะดวกในการผลักดันและขยายบทบาทของตนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสภาวการณ์ที่ภูมิภาคนี้กำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและอาเซียนกำลังมีบทบาทเป็นแกนนำในโครงสร้างของภูมิภาค ซึ่งได้รับการเสริมสร้างยิ่งขึ้นเมื่อเวียดนามประสบความสำเร็จในหน้าที่ประธานอาเซียนปี ๒๐๑๐ และตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เวียดนามจะทำหน้าที่ผู้ประสานงานในความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับสหภาพยุโรปตลอดจนดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่อาเซียนในปี ๒๐๑๓ อีกเหตุผลหนึ่งเกี่ยวกับลู่ทางที่แจ่มใสในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปคือ ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพความร่วมมือทางการค้าสูงมาก โดยการค้าระหว่างสองฝ่ายยังคงขยายตัวต่อเนื่องแม้ทั้งเวียดนามและสหภาพยุโรปจะประสบปัญหาทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา  ปี ๒๐๑๑ การค้าระหว่างสองฝ่ายมีมูลค่ากว่า ๒ หมื่น ๔ พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ ๓๖ เมื่อเทียบกับปี ๒๐๑๐ แม้สหภาพยุโรปเป็นตลาดใหญ่แต่การค้าระหว่างสองฝ่ายยังอยู่ที่ร้อยละกว่า ๐.๕ ของยอดมูลค่ารวมของอียูกับต่างประเทศ  การที่เวียดนามและสหภาพยุโรปลงนามในข้อตกลงโครงว่าด้วยหุ้นส่วนและความร่วมมืออย่างรอบด้านหรือพีซีเอและเริ่มการเจรจาว่าด้วยข้อตกลงว่าด้วยการค้าเสรีหรือเอฟทีเอจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นายฟร้องซ์ เจเซน เอกอัครราชทูตและหัวหน้าสำนักงานตัวแทนคณะกรรมการยุโรปประจำเวียดนามกล่าวว่า  “   ความสัมพันธ์ทางการค้าทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปไม่ได้รับผลกระทบในทางลบจากวิกฤตทางเศรษฐกิจ โดยปีนี้ มูลค่าการค้าระหว่างสองฝ่ายจะมีอัตราการขยายตัวดีขึ้น ผมเห็นว่าการเจรจาเกี่ยวกับการค้าเสรีหรือเอฟทีเอไม่เพียงแต่นำมาซึ่งผลประโยชน์ให้แก่เวียดนามเท่านั้น หากรวมทั้งผลประโยชน์ของสหภาพยุโรปด้วย  ข้อตกลงว่าด้วยการค้าเสรีจะเริ่มดำเนินได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายสามารถสร้างพื้นฐานทางการเมืองอันดีงามได้  ปัจจุบัน เวียดนามและสหภาพยุโรปเป็นหุ้นส่วนที่ดีของกัน ดังนั้นทั้งสองฝ่ายควรมุ่งสู่เขตการค้าเสรีที่นำมาซึ่งผลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้แต่ละฝ่าย ”

หลังจากลงนามในข้อตกลงโครงว่าด้วยหุ้นส่วนและความร่วมมืออย่างรอบด้านหรือพีซีเอระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป และเริ่มดำเนินการเจรจาเกี่ยวกับเขตการค้าเสรีหรือเอฟทีเอระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็กำลังเร่งดำเนินเนื้อหาบางประการได้แก่ การขยายความร่วมมือบนเวทีระหว่างประเทศและภูมิภาค เร่งรัดให้สหภาพยุโรปรับรองเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามและร่วมมือในด้านอื่น ไม่ว่าจะเป็นในด้านการศึกษาและฝึกอบรม สิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ พลังงาน การป้องกันและลดภัยธรรมชาติ  สองฝ่ายก็เห็นพ้องจะขยายการพบปะและแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงรวมทั้งการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของประธานสภายุโรปนายเฮอร์มาน วาน รอมปุยในปลายปีนี้

การดำเนินตามเนื้อหาของข้อตกลงโครงว่าด้วยหุ้นส่วนและความร่วมมืออย่างรอบด้านหรือพีซีเอระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปในอนาคตในขณะที่สภาวการณ์วิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนกำลังเป็นไปอย่างซับซ้อนจะประสบกับการท้าทายหลายประการ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุนและเงินทุนเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการของสหภาพยุโรปแก่เวียดนามต่อไป  อย่างไรก็ดี เนื่องด้วยเจตนารมย์อันแน่วแน่ของผู้นำระดับสูงของทั้งสองฝ่าย ข้อตกลงโครงว่าด้วยหุ้นส่วนและความร่วมมืออย่งรอบด้านหรือพีซีเอระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปจะเป็นเงื่อนไขสำคัญในการสร้างพลังให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปในทุกด้านให้เข้าสู่ส่วนลึกและในทางปฏิบัติในปีต่อๆไป ./.