(VOVWorld) – หลังจากที่ต้องเลื่อนการเยือนออกไป วันที่๒๑กุมภาพันธ์ นาย ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้เดินทางไปเยือนประเทศสหรัฐเป็นเวลา๓วันเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์พันธมิตรยุทธศาสตร์กับสหรัฐ การเยือนนี้มีความสำคัญโดยไม่เพียงแต่เป็นการแปรความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐในวาระใหม่ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะและประธานาธิบดีบารัก โอบามาให้เป็นรูปธรรมเท่านั้นหากยังเป็นการส่งอิทธิพลไม่น้อยต่อเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือที่กำลังมีความผันผวนอย่างซับซ้อนด้วย

นาย ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น(Photo:Internet)

(VOVWorld) – สิ่งที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะนำติดตัวไปด้วยในการเยือนสหรัฐครั้งนี้คือ ความเป็นไปได้ที่โตเกียวจะเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ TPP  การขยายความสัมพันธ์ด้านความมั่นคง และเศรษฐกิจกับสหรัฐ และปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีหลังจากที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี หรือเกาหลีเหนือ ทำการทดลองนิวเคลียร์ ครั้งที่๓ ซึ่งตามนั้น ในระหว่างอยู่เยือนสหรัฐ นายชินโซ อาเบะจะมีการพบปะกับประธานาธิบดีบารัก โอบามา ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นฟูมีโอ กีชีดะจะพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจอห์น เคอรี นอกจากนี้ นายชินโซ อาเบะยังมีบทปราศรัย ที่กรุงวอชิงตัน เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจเพื่อฟื้นฟูการขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและแก้ไขปัญหาเงินฝืดที่ยืดเยื้อมานานปี  ก่อนการเยือนสหรัฐของนายชินโซ อาเบะ เลขานุการฝ่ายสารนิเทศของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้เผยว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามาหวังว่า การหารือกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะจะเน้นปัญหาทวิภาคี ภูมิภาคและโลก รวมทั้ง สนธิสัญญาความมั่นคงสหรัฐ ญี่ปุ่น ปัญหาเศรษฐกิจ และการค้า อย่างไรก็ดี บรรดาผู้สันทัดกรณีเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่การทดลองนิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีที่ผ่านมาจะเป็นหัวข้อที่ครอบคลุมการเจรจาระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ ซึ่งทั้งสองฝ่ายอาจจะมีความเห็นพ้องกันในปัญหานี้ได้ง่ายเนื่องจากสัญญาณมีที่ดีๆก่อนหน้านั้นจากทั้งสองฝ่าย ในโทรเลขเมื่อวันที่๑๓ที่ผ่านมา นายบารัก โอบามาและนายชินโซ อาเบะได้เห็นพ้องกันว่า จะร่วมกันมีปฏิบัติการที่แข็งกร้าวต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี รวมทั้ง มติฉบับใหม่เกี่ยวกับการขยายการคว่ำบาตรต่อเปียงยาง  นายบารัก โอบามา ยืนยันอีกครั้งว่า สหรัฐยังคงยืนหยัดพันธกรณีเกี่ยวกับการป้องกันประเทศกับญี่ปุ่น ได้แก่ การขยายกิจกรรมของโล่นิวเคลียร์ของสหรัฐ มีความเป็นไปได้ที่ในการพบปะครั้งนี้ ณ กรุงวิชิงตัน ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงการประสานการควบคุมแหล่งเงินจากตลาดการเงินระหว่างประเทศที่ไหลเข้าเปียงยาง

รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นฟูมีโอ กีชีดะและอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฮีลารี กลินตั้น(Photo:Internet)

การขยายความร่วมมือทวิภาคีญี่ปุ่น สหรัฐอาจจะบรรลุได้หลังการเยือนของนายชินโซ อาเบะหลังจากที่ชะงักงันมาตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน  หลังการเลือกตั้งสภาล่างเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะได้ย้ำว่า ประเด็นหลักของยุทธศาสตร์ต่างประเทศของรัฐบาลญี่ปุ่นคือ ขยายความสัมพันธ์กับสหรัฐในด้านความมั่นคง และเศรษฐกิจ ในกรอบของการเยือนสหรัฐของรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นฟูมีโอ กีซีดะ  เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ฮีลารี คลินตัน ก็ได้ยืนยันถึงความจำเป็นที่จะต้องส่งเสริมให้ความสัมพันธ์พันธมิตรสหรัฐ ญี่ปุ่นพัฒนาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นในอนาคต แม้ทางการโตเกียวและวอชิงตันจะมีจุดยืนร่วมกันเกี่ยวกับการขยายมาตรการคว่ำบาตรสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีและขยายความร่วมมือด้านความมั่นคง แต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังมีข้อขัดแย้งที่เกี่ยวข้องถึงการที่ญี่ปุ่นเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมการเจรจา TPPซึ่งเป็นอุปสรรคในการเยือนสหรัฐของนายชินโซ อาเบะ บรรดาผู้สันทัดกรณีเห็นว่า นายชินโซ อาเบะ เข้าใจว่า ต้องมีท่าทีที่ดีต่อTPPเพื่อจะได้รับความไว้วางใจจากทางการบารัก โอบามา แต่ ที่ญี่ปุ่น นี่เป็นปัญหาที่ยากในการปฏิบัติเพราะปัจจุบัน สส.ทั้งในและนอกพรรคเสรีประชาธิปไตยหรือ LDPซึ่งเป็นพรรครัฐบาลต่างคัดค้านTPPเพราะกลัวว่า ข้อตกลงฉบับนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าเกษตรญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ข้าวและเนื้อสัตว์ ก่อนการเยือนสหรัฐไม่กี่สัปดาห์ ญี่ปุ่นได้ยอมรับเงื่อนไขล่วงหน้าของสหรัฐก่อนที่ประเทศนี้เข้าร่วมการเจรจาTPPด้วยการผ่อนผันการกำจัดการนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐที่มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่เกิดโรควัวบ้าเมื่อ๑ทศวรรก่อน แต่ถึงกระนั้น การปฏิบัตินี้ของญี่ปุ่นยังไม่เป็นที่พอใจสำหรับสหรัฐ

การเยือนสหรัฐของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะจะสร้างความอบอุ่นให้แก่ความสัมพันธ์พันธมิตรญี่ปุ่นสหรัฐ(Photo:Internet)

การเยือนสหรัฐครั้งแรกหลังจากที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายชินโซ อาเบะเป็นไปในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยังมีข้อขัดแย้งอยู่บ้างแต่ก็มีความคาดหวังว่า การเยือนนี้จะสร้างความอบอุ่นให้แก่ความสัมพันธ์พันธมิตรญี่ปุ่นสหรัฐซึ่งชะงักงันมานาน./.