(VOVWORLD) -ในหลายวันที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุใช้ความรุนแรงที่นองเลือดระหว่างกองทัพอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่าและเขตเวสต์แบงก์ โดยเหตุรุนแรงยังบานปลายไปยังดินแดนของเลบานอนและเขตที่ราบสูงโกลันที่มีการพิพาทระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย ซึ่งทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าอาจเกิดเหตุรุนแรงที่เลวร้ายครั้งใหม่ในภูมิภาคตะวันออกกลางทำให้ประชาคมโลกต้องผลักดันความพยายามเพื่อลดความตึงเครียดและควบคุมสถานการณ์
อิสราเอลระดมกองกำลังรักษาความมั่นคงหลังจากที่เกิดการปะทะกับชาวปาเลสตน์ในมัสยิดอัล-อักซอ เมื่อวันที่ 5 เมษายน (Photo: AFP/TTXVN) |
ต้นเหตุของความรุนแรงครั้งนี้ในภูมิภาคตะวันออกกลางคือการที่กองทัพอิสราเอลบุกโจมตีมัสยิดอัล-อักซอที่ชาวอิสราเอลเรียกว่า The Temple Mount ในเขตเยรูซาเลมตะวันออกเมื่อเช้าตรู่วันที่ 5 เมษายน หลังจากนั้น ได้เกิดการโจมตีตอบโต้กันระหว่างสองฝ่าย ซึ่งทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลางตกเข้าสู่ภาวะอันตรายและมีความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะที่นองเลือดครั้งใหม่ซึ่งผลที่ตามมาอาจเลวร้ายเป็นอย่างมาก
การใช้ความรุนแรงที่อันตราย
ตามแหล่งข่าวต่างๆ ในการบุกโจมตีใส่มัสยิดอัล-อักซอในเขตเยรูซาเลมตะวันออกเช้าวันที่ 5 เมษายน กองทัพอิสราเอลได้จับกุมตัวชาวปาเลสไตน์กว่า 350 คน สิ่งที่น่าสนใจคือเหตุโจมตีดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาที่ชาวยิวกำลังฉลองเทศกาลปัสคา ส่วนชาวปาเลสไตน์กำลังฉลองเทศกาลรอมฎอน
ภายหลัง 1 วัน กองทัพอิสราเอลได้ประกาศว่า เมื่อบ่ายวันที่ 6 เมษายน กลุ่มฮามาสได้ยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 34 ลูกจากภาคใต้ของเลบานอนใส่ภาคเหนือของอิสราเอล ซึ่งขีปนาวุธส่วนใหญ่ถูกอิสราเอลยิงตกแต่ยังคงทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คนและสร้างความเสียหายด้านทรัพย์สิน ภายหลังไม่กี่ชั่วโมง เช้าวันที่ 7 เมษายน กองทัพอิสราเอลได้ทำการตอบโต้ด้วยการโจมตีใส่โครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มฮามาสในภาคใต้ของเลบานอนและฉนวนกาซ่า นี่เป็นครั้งแรกที่อิสราเอลยอมรับว่าทำการโจมตีใส่ดินแดนของเลบานอนนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2022 ในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ลงนามกฤษฎีกาเกี่ยวกับการระดมกำลังตำรวจและกำลังพลสำรองเพื่อพร้อมรับมือเหตุรุนแรงที่กำลังทวีความตึงเครียด
สิ่งที่น่าสนใจคือเมื่อเช้าวันที่ 8 เมษยน กองทัพอิสราเอลได้ประกาศว่า จรวด 3 ลูก ถูกยิงจากซีเรียไปยังเขตที่ราบสูงโกลันที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล ซึ่งหน่วยทหารปืนใหญ่ของอิสราเอลได้ทำการตอบโตทันที
ขณะเดียวกัน ที่เขตเวสต์แบงก์ ได้เกิดการปะทะหลายครั้งระหว่างกองทัพอิราเอลกับกองกำลังติดอาวุธของปาเลสไตน์นับตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน ส่วนในการปะทะครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 10 เมษายนในค่ายลี้ภัย Aqaba ในเมือง Jericho มีชาวปาเลสไตน์ 1 คนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ 5 คน
กองทัพอิสราเอลทำการโจมตีทางอากาศใส่ฉนวนกาซ่าเมื่อวันที่ 7 เมษายน (Photo: AP) |
ป้องกันความเสี่ยงที่การปะทะทวีความรุนรุงมากขึ้น
สถานีโทรทัศน์ภาษาอาหรับ Aljazeera และแหล่งข่าวต่างๆในภูมิภาคได้ประเมินว่า สถานการณ์ในเขตเวสต์แบงก์ ฉนวนกาซ่า เขตชายแดนระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน และระหว่างอิสราเอลกัลซีเรียกำลังตึงเครียดและน่ากังวลมาก ซึ่งน่ากังวลที่สุดคือความเสี่ยงจากการโจมตีระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในภาคใต้ของเลบานอนที่อาจจะมีการเข้าร่วมของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในเลบานอนและเคยมีการเผชิญหน้าที่นองเลือดหลายครั้งกับกองกำลังอิสราเอลในอดีต ส่วนในบริเวณที่อยู่ภายใต้การควบคุมของปาเลสไตน์ที่ฉนวนกาซ่าและเขตเวสต์แบงก์ ถ้าหากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ความตึงเครียดก็จะทวีมากขึ้นจนบานปลายเป็นการปะทะที่นองเลือดครั้งใหม่ที่อันตรายกว่าการลุกฮือต่อสู้อินติฟาดาของชาวปาเลสไตน์ในอดีต
จากสถานการณ์ดังกล่าว ประชาคมโลกได้พยายามเพื่อลดความตึงเครียดและป้องกันไม่ให้การปะทะที่รุนแรงมากขึ้น โดยเมื่อวันที่ 8 เมษายน ประธานาธิบดีตุรกี รีเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีอิสราเอล อิซฮาก เฮอร์โซก ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ลอยด์ ออสตินได้มีการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล Yoav Gallant เพื่อเร่งรัดให้อิสราเอลใช้ความอดกลั้นและลดความตึงเครียด
ในวันเดียวกัน นาย Josep Borrell ตัวแทนระดับสูงเกี่ยวกับนโยบายด้านการต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรปหรืออียูได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายต้องใช้ความอดกลั้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่สำคัญต่างๆกำลังถูกจัดขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงต่างๆและย้ำว่า ต้องผลักดันความพยายามเพื่อป้องกันไม่ให้การปะทะลุกลามในวงกว้าง
ก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่ของจีน รัสเซีย อังกฤษและฝรั่งเศสก็ได้เรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆต้องใช้ความอดกลั้น ลดความตึงเครียด พร้อมทั้งเร่งรัดให้ประชาคมโลกและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องแสวงหามาตรการที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์.