ประเทศซีเรียกับความท้าทายใหม่
Hong Van-VOV5 -  
(VOVworld)- ในขณะที่เหตุการณ์ที่เครื่องบินเอฟ-4ของตุรกีถูกฝ่ายซีเรียยิงตกเมื่อวันที่22มิถุนายนนั้นยังไม่ลดความร้อนแรงลงก็เกิดเรื่องซ้ำขึ้นอีกเมื่อตุรกีกล่าวหาว่าซีเรียได้ยิงเครื่องบินลำที่2ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ค้นหาซากเครื่องบินเอฟ-4 ซึ่งได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตกสู่ภาวะความตึงเครียดที่น่าอันตราย...
(VOVworld)- ในขณะที่เหตุการณ์ที่เครื่องบินเอฟ-4ของตุรกีถูกฝ่ายซีเรียยิงตกเมื่อวันที่22มิถุนายนนั้นยังไม่ลดความร้อนแรงลงก็เกิดเรื่องซ้ำขึ้นอีกเมื่อตุรกีกล่าวหาว่าซีเรียได้ยิงเครื่องบินลำที่2ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ค้นหาซากเครื่องบินเอฟ-4 ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตกสู่ภาวะความตึงเครียดที่น่าอันตรายและมีความเสี่ยงที่จะเกิดการใช้ความรุนแรงในระดับระหว่างประเทศในสภาวการณ์ที่ซีเรียกำลังเผชิญกับความไร้เสถียรภาพภายในประเทศ
|
ประธานาธิบดีซีเรียบาซาร์ อัล อัสซาด (Photo internet)
|
ตามความเห็นของรองนายกฯตุรกี บูเลนท์ อารินช(Bulent Arinc) การที่ฝ่ายซีเรีย ยิงเครื่องบินของตุรกีถือเป็นปฏิบัติการที่เป็นอริและทาง อังการา จะมีปฏิบัติการป้องกันตนเองในกรอบของกฎหมายสากลรวมทั้งเผยว่า ตุรกีจะมีการตัดสินใจว่าจะระงับการส่งออกไฟฟ้าไปยังซีเรียหรือไม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนนาย อาห์เหม็ด ดาวูโตลู(Ahmet Davutoglu) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศตุรกีกล่าวว่า นี่เป็นเครื่องบินที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ฝึกซ้อมและตรวจการทำงานของระบบเรดาห์มิใช่มีหน้าที่ทำการสอดแนม ซึ่งอังการาจะพยายามใช้ความอดกลั้นแต่ต้องทำความกระจ่างแจ้งปัญหานี้ต่อประชามติภายใต้กรอบของกฎหมายสากล ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าเรื่องดังกล่าวมิได้ส่งผลอันร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้นหากยังกลายเป็นเหตุผลเพื่อให้ฝ่ายตะวันตกเพิ่มแรงกดดันต่อทางการประธานาธิบดีบาซาร์ อัล อัสซาดและเข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ในซีเรียมากยิ่งขึ้นตามที่บรรดาผู้สันทัศน์กรณีได้พยากรณ์ไว้ โดยไม่สนใจต่อคำอธิบายของฝ่ายซีเรียที่ยืนยันว่า เหตุยิงเครื่องบินดังกล่าวมิใช่การยั่วยุหากเป็นการป้องกันตนเองเท่านั้นเพราะเครื่องบินลำนี้ได้เข้าเขตน่านฟ้าของซีเรีย แต่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ซึ่งมีตุรกีเป็นสมาชิกยังตัดสินใจเรียกประชุมฉุกเฉินในวันที่26มิถุนายน ส่วนสหรัฐก็ได้แสดงท่าทีผ่านการแถลงของโฆษกทำเนียบขาวเจย์ คาร์นีย์ (Jay Carney)ที่ว่าสหรัฐพร้อมที่จะร่วมมือกับตุรกีในการกดดันให้ดามัสกัสต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ ในขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฮิลลารี คลินตั้นได้เผยว่า วอชิงตันจะร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นกับอังการาในการผลักดันกระบวนการถ่ายโอนอำนาจในซีเรีย ส่วนเมื่อวันที่25มิถุนายน เพื่อเพิ่มแรงบีบคั้นต่อประธานาธิบดีและโดดเดี่ยวทางการซีเรียมากขึ้น รัฐมนตรีต่างประเทศของ27ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียูได้ผ่านความเห็นชอบคำสั่งคว่ำบาตใหม่ที่มุ่งเป้าไปยังกระทรวงและสถานประกอบการภาครัฐของซีเรีย ซึ่งนับเป็นการประกาศใช้ระเบียบการลงโทษซีเรียรอบที่16ของอียูนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี2011 ซึ่งมีบุคคล129คนและ49หน่วยงานถูกระบุในบัญชีดำของอียู รวมไปถึงออสเตรเลียก็ได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตใหม่ในการจำกัดการแลกเปลี่ยนค้าด้านปีโตรเลี่ยม การบริการด้านการเงินและโทรคมนาคม ต่อสถานการณ์ที่ซับซ้อนและอ่อนไหวนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย อาเล็กซานเดอร์ กลุสโก (Alexander Glushko) ได้เร่งรัดให้นาโต้ไม่อ้างคำเรียกร้องของตุรกีเกี่ยวกับการเรียกประชุมนาโตทำให้ความตึงเครียดของสถานการณ์ในซีเรียนับวันทวียิ่งขึ้น ส่วนประเทศอิหร่านซึ่งเป็นพันธมิตรของซีเรียได้แสดงความหวังว่าจะมีการแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติและถูกต้องเพื่อความมีเสถียรภาพของภูมิภาค ในขณะที่จีนก็ประกาศเรียกร้องให้ทุกฝ่ายมีความอดกลั้นในการแก้ไขปัญหา
ในสภาวการณ์ที่ความตึงเครียดระหว่างทางการของประธานาธิบดีซีเรีย บาซาร์ อัล อัสซาดและประเทศมหาอำนาจตะวันตกยังไม่สามารถแสวงหามาตรการแก้ไขที่เหมาะสมได้ สถานการณ์การปะทะระหว่างกองกำลังรักษาความมั่นคงซีเรียกับฝ่ายค้านก็ยังไม่คลี่คลายลง ซึ่งตามความเห็นขององค์การติดตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียนั้น สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่นองเลือดที่สุดของวิกฤตที่ยืดเยื้อในซีเรียมากว่า15เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะในวันที่24มิถุนายน เหตุใช้ความรุนแรงต่างๆก็ได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย34คน และหากนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี2011จนถึงปัจจุบัน จำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุใช้ความรุนแรงต่างๆในซีเรียมากกว่า1หมื่น5พันคน ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าว สถานการณ์ภายในของซีเรียก็ไม่มีวี่แววที่จะสดใสยิ่งขึ้น เมื่อทางการซีเรียต้องพยายามรับมือกับแรงกดดันจากฝ่ายตะวันตกหลังเหตุยิงเครื่องบินของตุรกีพร้อมกับการแก้ไขการปะทะภายในประเทศ และวิกฤตการเมืองในซีเรียกำลังถูกดันให้ไปยังจุดที่อันตรายจนอาจจะเป็นการจุดชนวนให้แก่การปะทะในทั้งภูมิภาคตะวันออกกลาง./.
Hong Van-VOV5