(VOVworld) – ด้วยเสียงสนับสนุนทิ้งห่างนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ลงสมัครจากพรรครีพับลิกันได้กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ ส่วนผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า สหรัฐในสมัยของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะย่างเข้าสู่เส้นทางที่ “ก้าวกระโดด” โดยนโยบายที่เขาจะให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหรัฐ

ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ (Photo Reuters)

ในการกล่าวสุนทรพจน์หลังได้รับชัยชนะ นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศว่า นี่คือช่วงเวลาที่ชาวอเมริกันทุกคนต้องอยู่ใกล้ชิดกัน และยิ่งกว่าเวลาใด ชาวอเมริกันต้องสามัคคีกันเพื่อฟื้นฟูสถานะประเทศมหาอำนาจชั้นนำอันดับหนึ่งของโลก
นโยบายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศมากมายจะได้รับการปฏิบัติ
ถ้าหากย้อนดูการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นาย โดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงพื้นที่ทั่วประเทศและยืนยันถึงความปรารถนาอันแรงกล้าว่าจะได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเพื่อสามารถทำการตัดสินใจที่สำคัญๆเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงประเทศสหรัฐได้อย่างสมบูรณ์ นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้ให้คำมั่นในการหาเสียงเลือกตั้งว่า สหรัฐจะย่างเข้าสู่เส้นทางที่ “ก้าวกระโดด” โดยการดำเนินนโยบายที่ “น่าจับตา” นั่นคือการต่อต้านการอพยพ การสร้างงานทำอีก 25 ล้านตำแหน่งภายในเวลา 10 ปี การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้เหลือแค่ร้อยละ 15 แทนร้อยละ 35 ในปัจจุบัน ทำการลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานและลดการขาดดุลการค้า สำหรับข้อตกลงการค้าเสรี นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศว่า ทุกข้อตกลงต้องปกป้องหน่วยงานอุตสาหกรรมของสหรัฐ
สำหรับนโยบายการต่างประเทศ นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้ยืนยันจุดยืนที่เน้นปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐ โดยจะปรับปรุงข้อตกลงการค้าทวิภาคีและพหุภาคีต่างๆ ไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นๆและปรับปรุงความสัมพันธ์กับประเทศรัสเซีย
มหาเศรษฐีโดนัลด์ ทรัมป์ วัย 70 ปีมีชื่อเสียงในทั่วโลกเกี่ยวกับความเฉียบแหลมทางธุรกิจ ซึ่งเป็นตัวอย่างของนักธุรกิจสหรัฐที่ได้ประสบความสำเร็จในด้านอสังหาริมทรัพย์ การกีฬาและการบันเทิง และไม่เพียงแต่เป็นนักธุรกิจชั้นนำของสหรัฐเท่านั้น แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ยังเป็นดาราของหน่วยงานการสื่อสารสหรัฐอีกด้วยโดยเป็นพิธีกรผู้ผลิตของรายการโทรทัศน์ยอดฮิต “ The Apprentice” ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2015 นายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2016 ของพรรครีพับลิกันอย่างเป็นทางการ ในตลอดช่วงเวลารณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ผลการสำรวจประชามติที่ออกมาหลายรอบต่างแสดงให้เห็นว่าโอกาสที่เขาจะเอาชนะคู่แข่งนั้นมีน้อยเพราะขาดประสบการณ์ทางการเมืองแต่ชัยชนะในครั้งนี้ทำให้นายทรัมป์ได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นถึงความแข็งแกร่งของตน อันที่จริงแล้วก็ต้องยอมรับว่านายทรัมป์เป็นผู้ลงสมัครที่มีจุดยืนชัดเจนด้านนโยบายต่างประเทศโดยเฉพาะการปฏิบัติแนวทางให้ความเคารพพร้อมกับการจำกัดอิทธิพลของประธานาธิบดีรัสเซียปูติน การควบคุมปัญหาผู้อพยพอย่างมีประสิทธิภาพและทำให้ประเทศสหรัฐมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น สำหรับผลการเลือกตั้งที่ออกมาครั้งนี้ยังเป็นการสะท้อนความในใจของชาวอเมริกันในขณะที่ทุกคนกำลังรู้สึกไม่มีความปลอดภัยจากการดำเนินงานทางการเมืองแบบเดิมโดยปัญหาการก่อการร้าย การใช้ความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอาวุธ ตลอดจนการที่สหรัฐตกเข้าสู่วิกฤตการปะทะในตะวันออกกลาง ดังนั้นการที่สหรัฐจะมีคณะผู้บริหารชุดใหม่พร้อมคำมั่นในการปฏิบัตินโยบายใหม่ก็อาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดหรือไม่อย่างน้อยก็จะมีการเข้าถึงมาตรการแก้ไขปัญหาใหม่ ชัยชนะของมหาเศรษฐีผู้นี้ได้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ชาวอเมริกันเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่นำพาประเทศสหรัฐเข้าร่วมสงครามที่ไร้เหตุผลนอกดินแดนสหรัฐและเขาจะถือผลประโยชน์ของชาวสหรัฐเหนือกว่าสิ่งอื่นใด
ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของประธานาธิบดีสหรัฐคนที่45
เมื่อก้าวเข้าสู่ทำเนียบขาวเพื่อรับหน้าที่ตามวาระ4ปี ความท้าทายที่นายทรัมป์ต้องรับมือนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยผู้นำคนใหม่ของสหรัฐจะรับหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ แก้ไขปัญหาที่กำลังร้อนแรงต่างๆเช่นภารกิจการต่อต้านการก่อการร้าย ปัญหาซีเรีย ปัญหาความสัมพันธ์กับรัสเซียและประเทศพันธมิตรในยุโรป และในเอเชีย ตลอดจนปัญหาหนี้สาธารณะที่คิดเป็นเกือบ2หมื่นพันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็น108%ของจีดีพีสหรัฐ ปัญหาความไม่เสมอภาคทางสังคม การควบคุมอาวุธปืน ปัญหาผู้อพยพ เป็นต้น ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐ ประธานาธิบดีคนใหม่จะเริ่มรับหน้าที่ในวันที่20มกราคมในปีถัดไปหลังวันจัดการเลือกตั้ง เป็นอันว่า ประธานาธิบดีคนที่45ของสหรัฐจะเริ่มทำงานในวันที่20มกราคมปี2017หลังจากได้รับการถ่ายโอนอำนาจจากประธานาธิบดีคนที่44.