ผลักดันความสัมพันธ์เวียดนาม-ฝรั่งเศส
(VOVworld)- วันนี้ ท่านเหงวียนเตินหยุงนายกฯได้เริ่มการเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่24-26กันยายน ซึ่งนับเป็นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์เพื่อสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ สร้างแรงผลักดันที่เข้มแข็งและเป็นรูปธรรมในความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคีในทุกด้าน
(VOVworld)- วันนี้ ท่านเหงวียนเตินหยุงนายกฯได้เริ่มการเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่24-26กันยายน ซึ่งนับเป็นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์เพื่อสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ สร้างแรงผลักดันที่เข้มแข็งและเป็นรูปธรรมในความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคีในทุกด้าน
|
นายกฯเวียดนามพบปะกับประธานาธิบดีฝรั่งเศสในกรอบของอาเซม9ที่ประเทศลาวเมื่อปี2011 |
เวียดนามและฝรั่งเศสได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่12เมษายนปี1973 และในตลอด40ปีที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้ธำรงการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการเมืองที่น่าไว้ใจ มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งและการสร้างกรอบความร่วมมือทั้งในระดับการสนทนายุทธศาสตร์และการสนทนาประจำปีในทุกด้าน จนถึงปัจจุบันฝรั่งเศสได้เป็นหุ้นส่วนการค้ายุโรปรายใหญ่อันดับ3ของเวียดนามโดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนปี2012บรรลุ3.2พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสินค้าส่งออกหลักของเวียดนามไปยังฝรั่งเศสมีรองเท้า สิ่งทอ เครื่องใช้ในครัวเรือน สัตว์น้ำ อุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกในขณะเดียวกันได้นำเข้าอุปกรณ์ด้านการบิน เภสัชภัณฑ์ เครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิก เคมีภัณฑ์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนถึงปลายปี2012ฝรั่งเศสอยู่อันดับ2ในกลุ่มประเทศยุโรปและอันดับ15ในจำนวน92ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนาม โดยมี375โครงการรวมยอดเงินทุนกว่า3.1พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนั้นฝรั่งเศสยังเป็นผู้อุปถัมภ์โอดีเอจากยุโรปรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามรวมยอดเงินทุน2.5พันล้านเหรียญสหรัฐที่ใช้ในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจสังคม การถ่ายทอดเทคโนโลยี การเกษตร อุตสาหกรรมและการเงิน ในการให้สัมภาษณ์นักข่าววิทยุเวียดนามประจำฝรั่งเศสท่านเยืองจี๊หยูงเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำฝรั่งเศสกล่าวว่าในด้านการศึกษา ปัจจุบันมีนักศึกษาเวียดนามกว่า7พันคนกำลังศึกษาในฝรั่งเศส ในด้านสาธารณสุข ฝรั่งเศสช่วยฝึกอบรมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญกว่า2500คนโดยบรรดาเจ้าหน้าที่การแพทย์สำคัญของเวียดนามนั้นส่วนใหญ่ได้จบการศึกษาจากฝรั่งเศส นอกจากนั้นความร่วมมือระดับท้องถิ่นก็มีความคึกคักไม่น้อยโดยท้องถิ่นของเวียดนามและฝรั่งเศสกว่า50แห่งได้มีความร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งซึ่งนับเป็นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อสร้างสรรค์ความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ
ก่อนหน้านี้ครบ20ปี การเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีฝรั่งเศสฟร็องซัวส์ มีแตร็องได้สร้างนิมิตหมายที่สำคัญและเปิดศักราชใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์และผลักดันความร่วมมือระหว่างสองประเทศและในครั้งนี้การเยือนฝรั่งเศสของนายกฯเวียดนามได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีนั้นได้พัฒนาอย่างกว้างลึกเพื่อพร้อมที่จะยกระดับเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ซึ่งก็ถือเป็นนิมิตหมายที่สำคัญเช่นกันในโอกาสรำลึกครบรอบ40ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งในการตอบสัมภาษณ์นักข่าววิทยุเวียดนามประจำฝรั่งเศส อดีตเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำเวียดนาม ผู้ที่รับหน้าที่เตรียมความพร้อมให้แก่การเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีฟร็องซัวส์ มีแตร็องเมื่อปี1993ย้ำว่าเวียดนามได้ลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับหลายประเทศทั้งในเอเชียและยุโรปและล่าสุดนี้คือสิงคโปร์และเดนมาร์ค ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความคล่องตัวและความน่าสนใจของเวียดนามในเวทีโลก เวียดนามและฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์กันมาช้านานและมีความคล้ายคลึงกันทางวัฒนธรรมพร้อมทั้งตั้งใจที่จะร่วมกันขยายความร่วมมือในทุกด้านและนี่คือพื้นฐานเพื่อสร้างสรรค์ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ซึ่งในฐานะที่เป็นสองประเทศที่อยู่ในศูนย์กลางของยุโปรและเอเชีย เวียดนามและฝรั่งเศสต่างมีสถานะที่เอื้อให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนในระดับใหม่ และผมเห็นว่าเราพร้อมให้แก่การยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์แล้ว
ทั้งนี้ ในการเยือนฝรั่งเศสครั้งนี้ นายกฯเวียดนามจะร่วมกับบรรดาผู้นำฝรั่งเศสหารือและประกาศสาส์นที่ระบุถึงบทบาท สถานะของทั้งสองประเทศรวมทั้งเห็นพ้องในมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อแปรความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้เข้าสู่ส่วนลึก สร้างก้าวกระโดดใหม่ให้แก่การพัฒนาทางการค้า การลงทุน วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การศึกษาฝึกอบรมและวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ โดยความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์นี้จะเป็นระเบียบการที่ดีเพื่อให้เวียดนามและฝรั่งเศสร่วมแลกเปลี่ยนทัศนะในปัญหายุทธศาสตร์ที่มุ่งสู่การพัฒนาร่วมกัน เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองของโลก./.
Thành Chung/VOV