มติยกเลิกและลดเก็บภาษีให้แก่สถานประกอบการมาตรการแก้ไขชั่วคราวแต่มีประสิทธิภาพ
Le Phuong-VOV5 -  
(VOVworld) - ในสภาวะการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสแรกของปี 2012 ได้ลดลงในระดับต่ำที่สุด ความต้องการบริโภคลดลงและอุตสหกรรมประสบอุปสรรคนานัปการ มติยกเลิกและลดภาษีให้แก่สถานประกอบการเป็นสัญญาณที่ดีให้แก่สถานประกอบการเพื่อแก้ไขปัญหาขาดสภาพคล่องด้านการเงินให้แก่สถานประกอบการ
(VOVworld) - ในสภาวะการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสแรกของปี 2012 ได้ลดลงในระดับต่ำที่สุด ความต้องการบริโภคลดลงและอุตสหกรรมประสบอุปสรรคนานัปการ มติยกเลิกและลดภาษีให้แก่สถานประกอบการที่ที่ประชุมครั้งที่ 3 รัฐสภาสมัยที่ 13 ได้ผ่านความเห็นชอบได้กลายเป็นสัญญาณที่ดีให้แก่สถานประกอบการ โดยผู้แทนรัฐสภาได้ให้ความสำคัญต่อมติดังกล่าวและมีข้อเสนอต่างๆให้ปฏิบัติมาตราการแก้ไขดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อแก้ไขปัญหาขาดสภาพคล่องด้านการเงินให้แก่สถานประกอบการ
|
นาย Vuong Dinh Hue รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเวียดนามรายงานต่อรัฐสภา (Internet) |
มติการยกเลิกและลดเก็บภาษีให้แก่สถานประกอบการในปี 2012 ได้ระบุถึงมาตรการแก้ไขสองมาตรการโดยประการแรกคือ การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 30 ให้แก่สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม สถานประกอบการได้จัดอยู่ในระดับ 1 หรือระดับพิเศษได้แก่เครือบริษัทและสถานประกอบการที่ใช้แรงงานจำนวนมากในการผลิต การรับว่าจ้าง การแปรรูปในแขนงต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์การเกษตร ของป่าและสัตว์น้ำ สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องหนังและรองเท้า ชิ้นส่วนและการก่อสร้างกิจการเศรษฐกิจสังคม ประการที่สองคือการยกเลิกลดภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้ส่วนบุคคลและภาษีเงินได้นิติบุคคลในปี 2012 ให้แก่บุคคลที่ให้กรรมกร ผู้ใช้แรงงานหรือนักศึกษาเช่าห้องพัก บุคคลที่ดูแลและรับเลี้ยงเด็กและบุคคลที่ให้บริการด้านอาหารการกินให้แก่กรรมกรโดยเงื่อนไขคือบุคคลเหล่านี้ต้องรักษาราคาการให้บริการตามราคาในช่วงปลายปี 2011 คาดว่า มาตรการแก้ไขดังกล่าวต้องใช้วงเงินประมาณ 29 ล้านล้านด่งหรือประมาณกว่า 9 แสน 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งในนั้นมาจากมาตรการขยายเวลาการเสียภาษีของสถานประกอบการ 16 ล้านล้านด่งหรือประมาณ 5 แสน 3 หมื่นล้านบาทและ 13 ล้านล้านด่งหรือประมาณ 4 แสน 3 หมื่นล้านบาทมาจากการลดการใช้จ่ายและมาตรการการเงินอื่นๆ นาย Đỗ Văn Vẻ ผู้แทนรัฐสภาจ.ท้ายบิ่งให้ข้อสังเกตุว่า “ ผมคิดว่า วงเงิน 29 ล้านล้านด่งเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เพราะว่าปัจจุบัน สถานประกอบการประสบอุปสรรคนานับปการและอ่อนแอมาก ดังนั้นการใช้วงเงินดังกล่าวถือเป็นยาที่ทรงสรรพคุณให้แก่สถานประกอบการเพื่อช่วยให้สถานประกอบการเหล่านี้ฝันฝ่าอุปสรรคเพื่อการพัฒนา แต่อย่างไรก็ตาม สถานประกอบการต้องพยายามเพื่อขยายการผลิต การประกอบธุรกิจ การจำหน่ายสินค้าและมุ่งสู่การส่งออก”
|
สถานประกอบการต้องพยายามเพื่อขยายการผลิต การประกอบธุรกิจ การจำหน่ายสินค้าและมุ่งสู่การส่งออก (Internet)
|
วงเงิน 29 ล้านล้านด่งดังกล่าวได้ช่วยแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการแต่ก็ส่งผลกระทบส่วนหนึ่งต่องบประมาณแผ่นดิน ดังนั้นถ้าหากยืดดวลาการเก็บภาษีและลดภาษีให้แก่บุคคลและสถานประกอบการจะทำให้งบประมาณแผ่นดินในปี 2012 หายไปประมาณ 9 ล้านล้านด่ง นาย Trần Ngọc Vinh ผู้แทนรัฐสภาเมืองท่าไฮฟองกล่าวยืนยันว่า “ในสภาวะการณ์ที่สถานประกอบการประสบอุปสรรคนานัปการปัจจุบัน การใช้มาตรการแก้ไขดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่องบประมาณแผ่นดิน ดังนั้นต้องมีการปรับปรุงและกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน ถ้าหากไม่ชัดเจนจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของงบประมาณแผ่นดินและขาดความโปร่งใสและความเปิดเผยดังนั้นต้องสนใจในเรื่องนี้” ผู้แทนรัฐสภาหลายคนยังแสดงความคิดเห็นว่า อุปสรรคของสถานประกอบการในปัจจุบันส่วนใหญ่คือการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อ ดอกเบี้ยสูงและปัญหาสินค้าค้างสต๊อก ดังนั้นมาตรการการลดหรือยกเลิกภาษีของรัฐบาลเป็นสิ่งที่จำเป็นในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว รัฐบาลควรกำหนดแนวทางการลงทุนพัฒนาเพื่อช่วยให้สถานประกอบการสามารถคงอยู่ได้และพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่วนผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจได้แสดงความคิดเห็นว่า นอกจากการใช้มาตรการช่วยเหลืออย่างพร้อมเพรียง สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือ รัฐบาลต้องปรับปรุงและสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจที่ดีเพื่อเปิดโอกาสให้แก่การจัดตั้งสถานประกอบการและคงอยู่ได้อย่างยั่งยืน./.
Le Phuong-VOV5