การประชุมไอป้าครั้งที่ 36

ไอป้า 37 จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 29 กันยายนถึงวันที่ 3 ตุลาคม ภายใต้หัวข้อ “ไอป้าที่คล่องตัวเพื่อประชาคมอาเซียนที่ก้าวหน้า” โดยมีผู้นำรัฐสภาจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนและผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมเพื่อหารือถึงการผลักดันการปฏิบัติเนื้อหาที่ระบุในวิสัยทัศน์อาเซียนปี 2025
ส่วนร่วมที่เข้มแข็งของเวียดนามต่อฟอรั่มแห่งรัฐสภาของภูมิภาค
นับตั้งแต่ที่เข้าเป็นสมาชิกของไอป้าเมื่อปี 1995 เวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆและมีส่วนร่วมในการประชุมครั้งต่างๆของไอป้า โดยได้จัดการประชุมไอป้าครั้งที่ 23 ช่วงปี 2001-2002 และไอป้าครั้งที่ 31 ช่วงปี 2009-2010 การประชุมเชิงวิชาการ การประชุม “หลังวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจโลกและการพัฒนาอย่างยั่งยืน” เมื่อปี 2010 การประชุม “บทบาทขององค์การนิติบัญญัติต่อวิกฤตการเงิน” เมื่อปี 1998 และการประชุม “ปฏิบัติโครงการวิจัยความร่วมมือด้านนิตินัยในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้าสตรีและเด็ก” เมื่อปี 2005 ข้อเสนอหลายข้อของเวียดนามได้รับคำชื่นชมจากสมาชิกไอป้า เวียดนามมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการผลักดันสัมพันธไมตรี ความร่วมมือ การแลกเปลี่ยนและส่งเสริมความเข้าใจภายในกลุ่มไอป้า พยายามยกระดับบทบาท สถานะและประสิทธิภาพการปฏิบัติของไอป้าเพื่อสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคและโลก รัฐสภาเวียดนามได้ทำการเปลี่ยนแปลงใหม่ ประกาศนโยบายและเอกสารทางนิตินัยเพื่อปฏิบัติมติที่ได้รับการอนุมัติจากการประชุมไอป้าครั้งต่างๆ
ในที่ประชุมไอป้าครั้งที่ 37 คณะผู้แทนเวียดนามจะหารืออย่างเข้มแข็งเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมและเนื้อหาต่างๆในระเบียบวาระการประชุม พร้อมกับผู้นำรัฐสภาประเทศสมาชิกไอป้า นางเหงียนถิกิมเงินจะกล่าวปราศรัยในการประชุมนัดแรก นอกจากนี้ คณะผู้แทนเวียดนามยังกล่าวปราศรัยในการประชุมของคณะกรรมาธิการส.ส.หญิงไอป้า คณะกรรมาธิการดูแลปัญหาการเมือง คณะกรรมาธิการดูแลปัญหาเศรษฐกิจและคณะกรรมาธิการดูแลปัญหาสังคมที่มีขึ้นหลังการประชุมไอป้า 37 เพื่อร่วมมือกับบรรดาประเทศสมาชิกสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนที่สันติภาพ เสถียรภาพและร่วมมือกันเพื่อความเจริญรุ่งเรือง
การทูตรัฐสภาพหุภาคีมีส่วนร่วมต่อการปฏิบัตินโยบายการต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
การที่เวียดนามเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นนับตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกของไอป้าได้สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างเป็นฝ่ายรุก เข้มแข็งและมีความรับผิดชอบของเวียดนาม ซึ่งนอกจากไอป้าแล้ว รัฐสภาเวียดนามยังเป็นสมาชิกของสหภาพรัฐสภาโลกหรือไอพียู สหภาพรัฐสภาที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสหรือเอพีเอฟ ฟอรั่มรัฐสภาเอเชีย – แปซิฟิกหรือเอพีพีเอฟ การประชุมหุ้นส่วนรัฐสภาเอเชีย – ยุโรปหรือเอเอสอีพี และการประชุมระดับรัฐสภาต่างๆ รัฐสภาเวียดนามไม่เพียงแต่เข้าร่วมอย่างเข้มแข็งเท่านั้นหากยังเป็นฝ่ายรุกในการเสนอความคิดริเริ่มและข้อเสนอที่มีลักษณะสร้างสรรค์เพื่อผลักดันความร่วมมือภายในฟอรั่มเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ซึ่งเป็นการพิสูจน์งานด้านการต่างประเทศพหุภาคีของรัฐสภาที่นับวันเปิดกว้างมากขึ้น มีส่วนร่วมต่อการปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศและการยกระดับสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก นายโงดึ๊กแหมง รองหัวหน้าคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของรัฐสภาประเมินว่า“ควบคู่กับการต่างประเทศของพรรค การทูตของรัฐและการทูตประชาชน งานด้านการต่างประเทศของรัฐสภาได้มีส่วนร่วมเสริมสร้างความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างรัฐสภาเวียดนามกับรัฐสภาประเทศต่างๆทั่วโลก ในสภาวการณ์ที่อธิปไตยของประเทศถูกคุกคาม เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการสร้างความสมดุลและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับรัฐสภาประเทศต่างๆและองค์กรระหว่างประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น”

ท่านเหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุมครั้งแรก รัฐสภาเวียดนามสมัยที่ 14

ในแนวโน้มแห่งโลกาภิวัตน์ การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและการเชื่อมโยงในภูมิภาคอย่างเข้มแข็งในปัจจุบัน งานด้านการต่างประเทศของรัฐสภาเวียดนามในฐานะเป็นช่องทางการต่างประเทศของรัฐและของประชาชน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระบวนการเดินพร้อมกับรัฐบาลผลักดันความเชื่อมโยงในภูมิภาคและความร่วมมือระหว่างประเทศ แก้ไขปัญหาระดับภูมิภาคและโลก นี่คือคำยืนยันของท่านเหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในพิธีเปิดการประชุมครั้งแรก รัฐสภาเวียดนามสมัยที่ 14 เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา “ผลักดันงานด้านการต่างประเทศของรัฐสภาต่อไปเพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศที่เปิดกว้าง หลากหลายและพหุภาคีของพรรค รัฐและประชาชน ขยายกิจกรรมการต่างประเทศพหุภาคีบนเวทีภูมิภาคและโลก เน้นถึงข้อมูลการต่างประเทศของรัฐสภาและประสานงานในกิจกรรมการต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ”
งานด้านการต่างประเทศของรัฐสภาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากกิจกรรมการต่างประเทศของพรรคและรัฐ การที่เวียดนามเข้าร่วมการประชุมไอป้า 37 ที่จะมีขึ้นณ ประเทศเมียนมาร์อย่างเข้มแข็งจะมีส่วนร่วมสำคัญต่อการปฏิบัตินโยบายการต่างประเทศของเวียดนามอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในทุกด้านและกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนาม.