วสันต์ของพรรคก็เป็นวสันต์ของประเทศ
Vân -  
(VOVWORLD) -ผลสำเร็จที่มีความหมายยิ่งใหญ่แห่งประวัติศาสตร์โดยพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเป็นผู้ริเริ่มและชี้นำการปฏิบัติเป็นการยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเส้นทางพัฒนาก้าวไปสู่สังคมนิยมของเวียดนามนั้นเป็นทางเลือกที่ถูกต้องและสอดคล้องกับสถานการณ์ของเวียดนามและแนวโน้มการพัฒนาของยุคสมัย
วันนี้ 3กุมภาพันธ์ เป็นวันครบรอบ94ปีวันก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งภายใต้การนำของพรรค จากการเป็นประเทศอาณานิคมกึ่งศักดินา เวียดนามได้ก้าวไปเป็นประเทศที่เอกราชและมีอธิปไตย ด้วยอาณาเขตทั้งทางบกกว่า3แสน3หมื่นตารางกิโลเมตรและทางทะเลกว่า3200กิโลเมตรที่ทอดยาวจากด่านชายแดนสากล หิวหงิกวานบนเหนือสุดไปจนถึงแหลมก่าเมาทางใต้สุด ซึ่งมีบทบาทสถานะทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจที่สำคัญได้รับการรวมเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์และกำลังได้รับการพัฒนาผสมผสานอย่างเข้มแข็งเข้ากับประชาคมโลก
เศรษฐกิจพัฒนาและเติมโตอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงก่อนปฏิบัติภารกิจโด่ยเม้ย (ปี1986) เวียดนามเป็นประเทศที่ยากจนและถูกทำลายเสียหายอย่างหนักจากสงคราม หลังภาวะสงคราม เวียดนามยังถูกปิดล้อมทางเศรษฐกิจในตลอดเกือบ20ปี โดยข้าวสารธัญหาญและสินค้าที่จำเป็นคาดแคลนทุกอย่าง ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมีความลำบากมากด้วยประชากรประมาณ3/4มีมาตรฐานชีวิตต่ำกว่าระดับยากจน แต่ภายหลังมีการปฏิบัติแนวทางโด๋ยเม้ยหรือภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ เศรษฐกิจเวียดนามก็เริ่มพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับค่อนข้างสูงในตลอด40ปีที่ผ่านมาโดยเฉลี่ยอยู่ที่เกือบร้อยละ7ต่อปี มูลค่าจีดีพีของเวียดนามเมื่อปี2023บรรลุประมาณ4แสน3หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่5ของประชาคมอาเซียนและอันดับที่35ในท๊อป40เศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก จีดีพีเฉลี่ยต่อหัวประชากรเพิ่มขึ้น58เท่าคืออยู่ที่4300ดอลลาร์สหรัฐในปี2023และได้ออกจากรายชื่อประเทศที่มีรายได้ต่ำในปี2008โดยกำลังมุ่งสู่เป้าหมายเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลางในปี2030โดยตัวเลขจีดีพีต่อหัวประชากรจะขึ้นเป็น7500ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนั้น จากประเทศที่ขาดแคลนธัญหาญเวียดนามได้พัฒนาเป็นประเทศส่งออกข้าวและสินค้าเกษตรหลายรายการชั้นนำของโลก เงินสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นและบรรลุ1แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี2023และเวียดนามยังเป็นประเทศที่ดึงดูดเงินทุนเอฟดีไอมากที่สุดในอาเซียน
สวัสดิการสังคมมีความมั่นคง การทูตมีเอกลักษณ์
ในด้านสวัสดิการสังคมนั้น อัตราครอบครัวยากจนลดลงเฉลี่ยร้อยละ1.5ต่อปี ซึ่งจากร้อยละ58ตามมาตรฐานความยากจนปี1993ลงเหลือร้อยละ2.93ตามมาตรฐานความยากจนหลายมิติในปี2023 ตำบลชนบทเกือบทั้งหมดมีถนนคอนกรีด มีระบบไฟฟ้าแห่งชาติ มีโรงเรียนประถมและมัธยมต้น มีสถานีอนามัยและระบบสายโทรศัพเข้าถึงหมู่บ้าน เวียดนามได้ก่อสร้างและเปิดใช้สนามบินและท่าเรือที่ทันสมัยหลายแห่ง ระบบทางไฮเวย์เกือบ2พันกิโลเมตรและคลอบคลุมระบบอินเตอร์เนต4จี-5จีอย่างกว้างขวาง คนจน เด็กอายุต่ำกว่า6ขวบและผู้สูงอายุได้รับประกันสาธารณสุขฟรี อายุไขเฉลี่ยของประชากรเพิ่มจาก62ปีในปี1990ขึ้นเป็น73.7ปี ในปี2023 ปัจจุบัน เวียดนามมีประชากรใช้อินเตอร์เนตร้อยละ80และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศรวดเร็วที่สุดในโลก รองศ.ดร.บุ่ยดิ่งห์ฟอง จากสถาบันการเมืองรัฐศาสตร์โฮจิมินห์ยืนยันว่า “การพัฒนาสร้างสรรค์สังคมนิยมเป็นภารกิจเพื่อประชาชน ของประชาชนและโดยประชาชน ซึ่งสามารถยืนยันได้ว่านี่เป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่มาก ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมนิยมมีการผสานระหว่างสิ่งใหม่และสิ่งที่มีอยู่ เราต้องมุ่งสู่ความก้าวหน้าเพื่อเอาชนะความล้าสมัย”
รัฐมนตรีต่างประเทศบุ่ยแทงเซิน |
ในเกือบ40ปีปฏิบัติภารกิจเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ พรรคฯได้สร้างสรรค์แนวทางการทูตใหม่ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของ “ต้นใผ่เวียดนาม” ซึ่งนำมาซึ่งดอกผลที่สำคัญคือจากการที่เคยเป็นประเทศถูกปิดล้อมในทุกด้าน ปัจจุบันเวียดนามได้ขยายและพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตในเชิงลึกกับ193ประเทศและกำลังสะท้อนบทบาทสถานะของความเป็นมิตรและเป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจของประชาคมระหว่างประเทศ รัฐมนตรีต่างประเทศบุ่ยแทงเซินได้ยืนยันว่า “ผลลัพธ์ที่ได้บรรลุนั้นเกิดจากการชี้นำที่ถูกต้องของพรรคและการบริหารแบบรวมศูนย์และมีประสิทธิภาพของรัฐ ความสามัคคีและความเป็นเอกฉันท์ ความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างสูงของทั้งระบบการเมือง การประสานงานอย่างใกล้ชิดคล่องตัวระหว่างการทูตของพรรค การทูตของรัฐ และการทูตประชาชน ระหว่างการต่างประเทศกับงานด้านกลาโหม ความมั่นคง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคม ตลอดจนการรับมือแก้ไขงานด้านการต่างประเทศต่างๆตามหลักการ “ปรับตัวเข้ากับทุกการเปลี่ยนแปลง” เพื่อมีมาตรการปฏิบัติที่เหมาะสม สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสและรับมือทุกความท้าทายในเชิงรุกเพื่อดำเนินภารกิจการต่างประเทศได้สำเร็จ”
ทั้งนี้ ผลสำเร็จที่มีความหมายยิ่งใหญ่แห่งประวัติศาสตร์จากภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่พรรคคอมมิวนิสต์เป็นผู้ริเริ่มและชี้นำการปฏิบัติเป็นการย้ำอีกครั้งว่าเส้นทางพัฒนาไปสู่สังคมนิยมของเวียดนามนั้นถูกต้องและสอดคล้องกับสถานการณ์ของเวียดนามและแนวทางของยุคสมัย เป็นการยืนยันถึงความจริงที่ว่า ในเวียดนามไม่มีกองกำลังการเมืองใดๆนอกเหนือจากพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามที่มีทั้งความมุ่งมั่นแห่งอุดมการณ์ มีประสบการณ์ มีชื่อเสียงและมีความสามารถในการชี้นำเพื่อนำพาขบวนการปฏิวัติของประชาชาติประสบผลสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่า นำพาประเทศพัฒนาอย่างมั่นคงและผสมผสานเข้ากับโลกอย่างเข้มแข็งดั่งทุกวันนี้.
Vân