สงครามในอัฟกานิสถานความชงักงันที่ยึดเยื้อมานาน
Hong Van- VOV5 -  
(VOVWORLD) -ในหลายวันที่ผ่านมา ณ กรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน ได้เกิดการโจมตีหลายครั้ง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก นี่เป็นการโจมตีที่นองเลือดที่สุดนับตั้งแต่ที่สหรัฐและองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ยุติปฏิบัติการทางทหารในอัฟกานิสถานเมื่อปี2014 ซึ่งสร้างความวิตกกังวลต่อประสิทธิภาพของความช่วยเหลือของสหรัฐให้แก่ทางการอัฟกานิสถานในการรักษาเสถียรภาพให้แก่ประเทศและขับไล่กลุ่มกบฎ
กลุ่มมือปืนตาลีบันในจังหวัดFarah ประเทศอัฟกานิสถาน (Photo: AFP/TTXVN) |
เมื่อวันที่29มกราคม ทหารอัฟกานิสถาน11นายได้เสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มไอเอส ก่อนหน้านั้น2วัน กองกำลังตาลีบันได้เปิดการโจมตีด้วยคาร์บอมบ์ในกรุงคาบูล ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า100คน ในรอบ1เดือนที่ผ่านมา ทั้งกลุ่มไอเอสและตาลีบันได้ทำการโจมตีหลายครั้งใส่กรุงคาบูล โดยรัฐบาลอัฟกานิสถานไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
จุดอ่อนด้านความมั่นคง
อัฟกานิสถานได้ตกเข้าสู่สภาวะไร้เสถียรภาพเนื่องจากการปะทะระหว่างกองทัพรัฐบาลกับกลุ่มกบฎตาลuบัน ซึ่งกลุ่มก่อการร้ายต่างๆได้ฉวยโอกาสนี้จัดตั้งเครือข่ายในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มไอเอส เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ในเวลาที่ผ่านมา กองกำลังรักษาความมั่นคงของอัฟกานิสถานได้ผลักดันยุทธนาการกวาดล้างกลุ่มกบฎหัวรุนแรงแต่การปะทะระหว่างกองทัพรัฐบาลกับกลุ่มนักรบมุสลิมได้ทำให้ทหารอัฟกานิสถานหลายนายเสียชีวิต
หลังจากที่สหรัฐและนาโต้ถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน กลุ่มตาลีบันได้ฟื้นฟูกองกำลังและขยายการเคลื่อนไหว ยึดครองเขตต่างๆในอัฟกานิสถาน รวมทั้งเปิดการโจมตีทุกวัน โดยมุ่งเป้าไปยังกองกำลังรักษาความมั่นคงอัฟกานิสถานที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ รายงานของสหประชาชาติที่ประกาศเมื่อปลายปี2017ระบุว่า กลุ่มตาลีบันได้ขยายการเคลื่อนไหวในเขตที่กำลังยึดครอง สิ่งที่อันตรายคือสมาชิกของกลุ่มตาลีบันได้แฝงตัวเป็นสมาชิกของกองกำลังรักษาความมั่นคงอัฟกานิสถานเพื่อทำการโจมตีจากภายใน ทำให้สถานการณ์ความมั่นคงเลวร้ายลง
ซึ่งคำถามที่ว่า ทำไมกองกำลังรักษาความมั่นคงอัฟกานิสถานที่ได้รับการสนับสนุนและฝึกอบรมจากสหรัฐไม่สามารถตอบโต้การโจมตีดังกล่าวได้ บรรดาผู้สังเกตการณ์เห็นว่า ปัญหาที่สำคัญที่สุดคือ กองกำลังดังกล่าวได้รับการจัดตั้งอย่างเร่งรีบ มีสมาชิกที่มาจากกองกำลังและเชื้อชาติที่แตกต่างกันและยังมีบางกลุ่มที่เคยต่อสู้กัน รวมถึงการที่สหรัฐต้องระดมกำลังเพื่อขับไล่กลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรีย ซึ่งได้สร้างช่องว่างด้านความมั่นคงในอัฟกานิสถาน
ตำรวจอัฟกานิสถานในกรุงคาบูล(Photo: THX/TTXVN) |
การปะทะที่ยืดเยื้อยังไม่จบ
เมื่อเดือนสิงหาคมปี2017 ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศยุทธศาสตร์เกี่ยวกับอัฟกานิสถาน โดยเพิ่มแรงกดดันต่อกลุ่มตาลีบันเพื่อบังคับให้หันมานั่งเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลอัฟกานิสถาน นอกจากนี้ สหรัฐยังเพิ่มแรงกดดันต่อปากีสถาน โดยบังคับให้ต้องมีมาตรการที่แข็งกร้าวเพื่อขัดขวางการช่วยเหลือกลุ่มตาลีบัน ซึ่งมีฐานที่มั่นในบริเวณชายแดนปากีสถานที่ติดกับอัฟกานิสถาน
แต่อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ การประกาศและแรงกดดันจากทำเนียบขาวยังไม่เกิดประสิทธิผลเพราะเพื่อที่จะสามารถเอาชนะเหนือกลุ่มไอเอสและกลุ่มตาลีบัน ทางการอัฟกานิสถานต้องได้รับความไว้วางใจจากประชาชนว่า รัฐบาลอัฟกานิสถานสามารถบริหารประเทศและค้ำประกันความปลอดภัยให้แก่ประชาชน แต่นี่เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ไม่ง่ายนัก การโจมตีครั้งล่าสุดของกลุ่มไอเอสและตาลีบันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของทางการอัฟกานิสถานในการค้ำประกันความมั่นคงของประเทศ
การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองทัพอัฟกานิสถานและเพิ่มจำนวนทหารสหรัฐในอัฟกานิสถานถูกเรียกว่า “ยุทธศาสตร์ใหม่”ของสหรัฐในอัฟกานิสถาน แต่อย่างไรก็ดี การที่กลุ่มต่างๆออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า อัฟกานิสถานกำลังต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากกลุ่มตาลีบัน กลุ่มไอเอส เครือข่าย Haqqani กลุ่มอัลกออิดะห์และกลุ่มกบฎต่างๆ ทำให้ประชามติมีความสงสัยเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของประธานาธิบดีสหรัฐ บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อสังเกตว่า ยุทธศาสตร์ของสหรัฐไม่มีอะไรใหม่ๆ พร้อมทั้ง เตือนว่า ปฏิบัติการทางทหารไม่สามารถแก้ไขการปะทะในประเทศนี้ได้ ส่วนข้อตกลงเพื่อแก้ไขการปะทะในอัฟกานิสถานยากที่จะบรรลุได้และจนถึงขณะนี้ อนาคตของอัฟกานิสถานยังคงมีความไร้เสถียรภาพและการใช้ความรุนแรง.
Hong Van- VOV5