สิ่งที่ยากจะคาดเดาได้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส
Hong Van- VOV5 -  
(VOVWorld)-การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสกำลังเข้าสู่โค้งสุดท้าย โดยการลงคะแนนรอบแรกจะมีขึ้นในอีก๒เดือนที่จะถึง ถึงแม้พรรคฝ่ายต่างๆในฝรั่งเศสสามารถคัดเลือกผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้แล้วแต่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสยังเป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดาได้
(VOVWorld)-
การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสกำลังเข้าสู่โค้งสุดท้าย โดยการลงคะแนนรอบแรกจะมีขึ้นในอีก๒เดือนที่จะถึง ถึงแม้พรรคฝ่ายต่างๆในฝรั่งเศสสามารถคัดเลือกผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้แล้วแต่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสยังเป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดาได้
นาง มารีน เลอ แปง ตัวแทนฝ่ายขวาจัด
|
คาดว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะมีขึ้นในปลายเดือนเมษายนนี้ ซึ่งการเลือกตั้งรอบแรกจะมีขึ้นในวันที่๒๓เมษายนและรอบที่สองจะมีขึ้นในวันที่๗พฤษภาคม โดยผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสคือนาย ฟรองซัวส์ ฟียง อดีตนายกรัฐมนตรีและตัวแทนของพรรคฝ่ายขวา นาย เบอนัว อามง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการศึกษาฝรั่งเศส ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคฝ่ายซ้าย นาง มารีน เลอ แปง ตัวแทนฝ่ายขวาจัดและนาย เอ็มมานูเอล มาครง อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผู้ลงสมัครสายกลาง
เกิดสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้
เมื่อหลายเดือนก่อน บรรดานักวิเคราะห์เห็นว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นระหว่างนาย นิโกลาส์ ซาร์โกซี อดีตประธานาธิบดี ซึ่งเป็นผู้ลงสมัครจากพรรคฝ่ายขวากับนาย ฟรองซัว อองลองค์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันและตัวแทนของพรรคสังคมหรือพีเอส แต่สิ่งแรกที่อยู่เหนือความคาดเดาของประชามติก็คือ นาย ฟรองซัวส์ ฟียง อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนมากนักในการลงประชามติต่างๆกลับได้กลายเป็นตัวแทนของของพรรคฝ่ายขวาเพื่อลงชิงชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ในขณะเดียวกัน ที่พรรคฝ่ายซ้าย หลังจากที่ประธานาธิบดี ฟรองซัว อองลองค์ตัดสินใจไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส นาย เบอนัว อามง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการศึกษาฝรั่งเศส ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนักก็ได้รับชัยชนะเหนือคู่แข่งคือนาย มานุแอล วาลส์ อดีตนายกรัฐมนตรีเพื่อกลายเป็นตัวแทนของพรรคฝ่ายซ้ายเข้าร่วมศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะมีขึ้นอย่างดุเดือด]
ในสภาวการณ์ที่พรรคฝ่ายซ้ายเกิดความแตกแยก บรรดานักวิเคราะห์ได้ให้ข้อสังเกตว่า ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งรอบที่๑นี้อาจเป็นตัวแทนของพรรคฝ่ายขวาคือนาย ฟรองซัวส์ ฟียงและนาง มารีน เลอ แปง ตัวแทนของฝ่ายขวาจัดและมีความเป็นไปได้ที่นาย ฟรองซัวส์ ฟียงอาจได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ดี เมื่อเร็วๆนี้ หลังจากที่สื่อต่างๆของฝรั่งเศสเปิดเผยข้อมูลว่า นายฟรองซัวส์ ฟียงโกงภาษีและจ่ายเงินเดือนให้แก่ภริยาและลูกสองคนตอนดำรงตำแหน่งส.ว.เมื่อหลายปีก่อน ทำให้คะแนนนิยมของนาย ฟรองซัวส์ ฟียงได้ลดลงเหลือร้อยละ๒๐ ซึ่งต่ำกว่านาง มารีน เลอ แปง ตัวแทนฝ่ายขวาจัดที่มีร้อยละ๒๗และนาย เอ็มมานูเอล มาครงที่มีร้อยละ๒๓
นาย เอ็มมานูเอล มาครง อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผู้ลงสมัครสายกลาง
(Photo: vietnamplus.vn)
|
ผลการเลือกตั้งที่ไม่อาจคาดเดาได้
จากความผันผวนดังกล่าว ในโค้งสุดท้ายนี้ บรรดาผู้ลงสมัครกำลังพยายามเรียกคะแนนนิยมจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งให้มากขึ้น โดยเมื่อวันที่๔กุมภาพันธ์ นาง มารีน เลอ แปง หัวหน้าพรรคแนวร่วมแห่งชาติหรือFN ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดได้เปิดการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ด้วยคำมั่นเกี่ยวกับเสรีภาพของประเทศฝรั่งเศสและเสียงพูดของประชาชนฝรั่งเศส ในคำมั่นต่างๆที่ให้ไว้ นาง มารีน เลอ แปงได้เสนอให้ฝรั่งเศสถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป เก็บภาษีต่อสัญญาจ้างงานชาวต่างชาติ ลดอายุเกษียญราชการ ปรับลดภาษีให้แก่สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมและภาษีเงินได้ จำกัดสิทธิและผลประโยชน์ต่างๆ เช่น มีเพียงพลเมืองฝรั่งเศสเท่านั้นที่ได้รับการศึกษาฟรีและการจำกัดจำนวนผู้อพยพ แต่อย่างไรก็ดี เนื้อหาของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งดังกล่าวของนาง มารีน เลอ แปงไม่มีการพูดถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจ ไม่ตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับการลดหนี้สาธารณะและการขาดดุลงบประมาณและไม่วางมาตรการเพื่อสร้างความสมดุลย์ระหว่างการปรับปรุงนโยบายด้านสวัสดิการสังคมและการปรับลดภาษี นอกจากนี้ นาง มารีน เลอ แปงกำลังถูกกล่าวหาว่า ได้ทำการว่าจ้างผู้ช่วยสองคนให้ทำงานในรัฐสภา แต่ผู้ช่วยสองคนนี้ไม่ได้มีการทำงานให้กับทางอีพีแต่อย่างใด แต่กลับทำงานให้แก่ทางพรรคของนาง มารีน เลอ แปงแทน โดยทางอีพีได้เรียกรอ้งให้นาง มารีน เลอ แปงคืนเงินค่าจ้างผู้ช่วยทั้งสองกว่า๓แสนยูโร
ในขณะเดียวกัน แม้ได้ประกาศว่า จะไม่ถอนตัวจากศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแต่โอกาสที่นาย ฟรองซัวส์ ฟียงจะได้รับชียชนะกลับมีไม่มากนัก บรรดานักวิเคราะห์เห็นว่า แม้ได้รับการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายขวาแต่ความเป็นไปได้ที่จะได้รับเสียงสนับสนุนข้างมากเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ง่ายนักเนื่องจากชื่อเสียงของตัวเขาได้ถูกทำลายหลังเหตุอื้อฉาวดังกล่าว
ในขณะเดียวกัน นาย เบอนัว อามงกำลังประสบอุปสรรคต่างๆเนื่องจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ลดลงและสถานการณ์ความไร้เสถียรภาพในฝรั่งเศสภายหลัง๔ปีที่พรรคพีเอสบริหารประเทศ รวมถึงการแตกแยกระหว่างพรรคพีเอสกับพรรคพันธมิตรก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของนาย เบอนัว อามง
ในสภาวการณ์ดังกล่าว นาย เอ็มมานูเอล มาครง อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจ วัย๓๙ปีก็ได้กลายเป็นเป้าหมายที่บรรดานักวิเคราะห์จับตาเพราะเขาได้ยอมรับว่า ตัวเองเป็นผู้ลงสมัครสายกลางแต่กำลังแสวงหามาตรการเพื่อเรียกการสนับสนุนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งของทั้งสองพรรคฝ่ายขวา
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่ผลการลงประชามติไม่สะท้อนให้เห็นผลการเลือกตั้งอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะ หลังจากที่อังกฤษตัดสินใจถอนตัวออกจากอียูและชัยชนะของมหาเศรษฐี โดนัล ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ดังนั้น ศึกชิงตำหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด.
Hong Van- VOV5