(VOVworld) – ถึงแม้จะถูกคัดค้านอย่างหนักจากประชาคมโลก แต่ในเดือนเมษายน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลียังคงเดินหน้าทดลองยิงขีปนาวุธซึ่งทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีทวีความตึงเครียดมากขึ้นและท่าทีนี้ก็หมายความว่า ยังไม่สามารถจัดการเจรจาเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีได้

เผชิญหน้าแทนการไกล่เกลี่ย
ในคำประกาศล่าสุด นาย Ri Thae Song ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ยืนยันว่า เปียงยางไม่มีแผนการยุติการทดลองยิงขีปนาวุธถึงแม้สหรัฐจะยุติการซ้อมรบร่วมประจำปีกับสาธารณรัฐเกาหลีแล้วก็ตาม ในขณะเดียวกัน บรรดานักวิเคราะห์ได้แสดงความเห็นว่า การทดลองยิงขีปนาวุธคือส่วนหนึ่งในความพยายามของนาย คิม จอง อึน เพื่อเสริมสร้างสถานะของตนก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีในเดือนพฤษภาคมนี้ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ถือว่าไม่ปกติเพราะไม่เคยเกิดขึ้นในตลอด 36 ปีที่ผ่านมา หลายคนได้แสดงความเห็นว่า นาย คิม จอง อึน จะอ้างเหตุการณ์นี้เพื่อประกาศว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองและมีความแข็งแกร่งด้านการทหาร
การเคลื่อนไหวต่างๆของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ทำให้สาธารณรัฐเกาหลีต้องรักษาระดับสัญญาณเตือนภัยเพราะมีความวิตกกังวลว่า เปียงยางจะเดินหน้าทดลองยิงขีปนาวุธครั้งที่ 5 ในทุกที่ทุกเวลาโดยนาง ปาร์ค กึน เฮ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีได้เตือนว่า ถ้าหากเปียงยางยังคงมีการกระทำที่ยั่วยุเช่นนี้ต่อไปก็จะถูกคว่ำบาตรและเผชิญกับแรงกดดันที่แข็งกร้าวมากขึ้น ในขณะเดียวกัน จีนได้ส่งกองกำลังทหารไปยังเขตชายแดนที่ติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชนชนเกาหลี ส่วนสหรัฐกำลังผลักดันการป้องกันตนเองโดยนาย บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐได้ย้ำว่า วอชิงตันสงวนเวลามากขึ้นเพื่อติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ ตลอดจนระบบป้องกันเพื่อขัดขวางภัยคุกคามในระดับที่ค่อนข้างต่ำจากเปียงยาง แต่นาย บารัค โอบาม่า ก็ได้ยอมรับว่า ไม่มีมาตรการใดที่ปฏิบัติได้โดยง่ายเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากเปียงยาง นาย Josh Earnest โฆษกของทำเนียบขาวได้ยืนยันว่า ทางเดียวที่เปียงยางต้องเลือกเพื่อปรับตัวเข้ากับประชาคมโลกคือ ต้องให้คำมั่นที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีและปฏิบัติตามหลักปฏิบัติสากล ในขณะเดียวกัน สาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐและญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้สหประชาชาติอนุมัติมติคว่ำบาตรฉบับใหม่ถ้าหากเปียงยางทดลองยิงขีปนาวุธครั้งที่ 5 โดยมติฉบับนี้จะมีเนื้อหาที่แข็งกร้าวมากขึ้น เช่นห้ามประเทศต่างๆส่งออกน้ำมันดิบไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ตลอดจนห้ามเครื่องบินของสายการบินสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีบินผ่านน่านฟ้าของประเทศต่างๆ ส่วนที่ยุโรป ฝรั่งเศสได้เรียกร้องให้อียูอนุมัติมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อเปียงยาง
คาบสมุทรเกาหลีถูกแบ่งแยกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงเมื่อปี 1945 จนถึงขณะนี้ ในทางทฤษฎี สองภาคเกาหลียังคงอยู่ในภาวะสงคราม ดังนั้น การที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีผลักดันการทดลองยิงขีปนาวุธเมื่อเร็วๆนี้จะไม่สามารถนำสันติภาพมาสู่คาบสมุทรเกาหลีได้หากมีแต่จะทำให้สถานการณ์มีความไร้เสถียรภาพมากขึ้น.