บริษัท VinFast สร้างนิมิตหมายในตลาดโลกผ่านการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า (Photo: Vietnamnet)

รายงานของ Brand Finance ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการประเมินมูลค่าแบรนด์ชั้นนำของโลกที่ประกาศเมื่อวันที่ 20 เมษายนระบุว่า เวียดนามได้รับการชื่นชมในการสร้างสรรค์และพัฒนาเครื่องหมายการค้าแห่งชาติ และเครื่องหมายการค้าแห่งชาติเวียดนามมีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในโลกในช่วงปี 2019-2022 และเวียดนามกำลังผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสีเขียวผสานกับการพัฒนาตามส่วนลึกและยั่งยืน เพื่อธำรงอัตราการขยายตัวดังกล่าวและเกาะติดแนวโน้มการพัฒนาของเศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน  ยืนยันเครื่องหมายการค้าของสถานประกอบการกับเครื่องหมายการค้าแห่งชาติ

สร้างเครื่องหมายการค้าเวียดนามที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในห่วงโซ่คุณค่าโลก

บริษัท Brand Financeที่มีสำนักงานในประเทศอังกฤษได้ประเมินว่า แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และความขัดแย้งทางการเมืองในโลก แต่เครื่องหมายการค้าแห่งชาติเวียดนามยังคงมีอัตราการขยายตัวที่สูงที่สุดในโลกคือร้อยละ 7.4 ในช่วงปี 2019-2022 ในรายชื่อ 100 เครื่องหมายการค้าแห่งชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกที่จัดโดย Brand Finance เครื่องหมายการค้าแห่งชาติเวียดนามติดอันดับสูงและอันดับเลื่อนขึ้นทุกปี โดยเมื่อปีที่แล้ว เครื่องหมายการค้าแห่งชาติเวียดนามเลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับที่ 32

ในเวลาที่ผ่านมา แบรนด์ต่างๆของเวียดนามได้มีการขยายตัวในด้านมูลค่าและดัชนีความแข็งแกร่งของแบรนด์หรือ BSI สถานประกอบการนับวันตระหนักเกี่ยวกับบทบาทและความสำคัญของแบรนด์ ซึ่งเป็นกุญแจเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์และสถานประกอบการ สร้างภาพลักษณ์ของเวียดนามในการเป็นประเทศที่มีผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีคุณภาพและมีขีดความสามารถในการแข่งขันสูง สร้างชื่อเสียงในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ

ปัจจุบัน เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งออกสินค้าสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและผลิตภัณฑ์การเกษตรมากที่สุดในโลก แต่ก่อนหน้านั้น เวียดนามเคยเป็นประเทศส่งออกวัตถุดิบเพื่อการผลิตและมีไม่กี่แบรนด์ที่สามารถครองส่วนแบ่งในตลาดโลก    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามได้มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งต่างๆ  และมีสถานประกอบการที่มีเงินทุนนับพันล้านดอลลาร์สหรัฐที่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ เช่น เครือบริษัทเวียดเทล  จุงเงวียนและVinamilk  ในขณะที่เครือบริษัท TH ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กลายเป็นสถานประกอบการที่เดินหน้าในการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในด้านอาหาร เครื่องดื่ม อีกทั้งยังให้การสนับสนุนสถานประกอบการอื่นๆ ในสาขาเดียวกันเข้าถึงเทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนมาเป็นการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน ส่วนบริษัท VinFast สร้างนิมิตหมายในตลาดโลกผ่านการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า

ในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมถือเป็นกุญแจเพื่อให้เวียดนามปฏิบัติเป้าหมายต่างๆในยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมในช่วงปี 2021 -2030ให้ประสบความสำเร็จและการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขยายตัวตามส่วนลึก มีประสิทธิภาพและยั่งยืน นอกจากนี้ เศรษฐกิจแห่งสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน การบริโภคสีเขียวและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกำลังกลายเป็นแนวโน้มของโลก นาย หว่างมิงเชี้ยน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนาม ได้ให้ข้อสังเกตว่า

“ในเวลาที่ผ่านมา การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อมุ่งสู่การขยายตัวอย่างยั่งยืนได้สร้างผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม  ช่วยให้สถานประกอบการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก แนวโน้มการอุปโภคบริโภคปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในความได้เปรียบที่ช่วยให้สถานประกอบการเวียดนามยกระดับเครื่องหมายการค้าและดึงดูดผู้บริโภค”

นาย หว่างมิงเชี้ยน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนาม

การสนับสนุนของรัฐบาลในการพัฒนาแห่งสีเขียว

การที่นับวันมีแบรนด์เวียดนามยืนยันสถานะในตลาดโลกได้แสดงให้เห็นถึงก้าวเดินที่ถูกต้องและทันการณ์ในแนวทางการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนของรัฐบาลเวียดนาม โดยรัฐบาลเวียดนามได้ประกาศใช้นโยบายที่กำหนดแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพในการลงทุน เน้นดึงดูดโครงการที่มีคุณภาพสูง นาย Alex Haigh ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของ Brand Finance ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกได้ให้ข้อสังเกตว่า ที่เวียดนาม แม้แนวโน้มการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียนเพิ่งปรากฎขึ้นได้ไม่นานแต่เวียดนามสามารถพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสีเขียวได้ในทุกด้าน 

“ เครื่องหมายการค้าแห่งชาติเวียดนามมีอัตราการขยายตัวที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ แต่อย่างไรก็ดี เพื่อยืนยันเครื่องหมายการค้านี้  เวียดนามต้องการเงินลงทุนที่เหมาะสมควบคู่กับการปฏิบัติกลไกต่างๆของรัฐบาล   พวกเราเห็นว่า บรรยากาศการประกอบธุรกิจในเวียดนามมีความสะดวกมาก ดังนั้น เพื่อเพิ่มมูลค่าของเครื่องหมายการค้าแห่งชาติ เวียดนามควรประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ บรรยากาศการประกอบธุรกิจที่สะดวกและชื่อเสียงของสถานประกอบการที่ได้รับการยกระดับ  ภาพลักษณ์ของเวียดนามที่มีความผูกพันกับคุณค่าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน”

ในฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนามประจำปี 2023ที่ถูกจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า ต้องปฏิบัติแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสีเขียวอย่างเคร่งครัด รัฐบาลเวียดนามให้คำมั่นที่จะอำนวยความสะดวกเพื่อให้สถานประกอบการพัฒนา ถ่ายทอดเทคโนโลยี การฝึกอบรม การพัฒนาแหล่งบุคลากรในการพัฒนาแห่งสีเขียว เครื่องหมายการค้าแห่งชาติที่แข็งแกร่งจะเป็นภาพลักษณ์ของเครื่องหมายการค้าของประเทศ มีส่วนร่วมขยายผล ยกระดับสถานะของเวียดนามในปัจจุบันและในอนาคต.