เดียนเบียนฟูกลางเวหา – สุดยอดแห่งความมุ่งมั่นและสติปัญญาเวียดนาม
Hong Van-VOV5 -  
(VOVworld)-ชัยชนะ12วันคืน ฮานอย-เดียนเบียนฟูกลางเวหาเดือนธันวาคมปี1972ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งการต่อสู้เพื่อทำลายยุทธนาการณ์ทิ้งระเบิดปูพรมที่มีชื่อว่า LinebackerII ของกองทัพสหรัฐ เป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นและสติปัญญาของชาวเวียดนาม ซึ่งสามารถช่วยพลิกสถานการณ์และมีส่วนร่วมสำคัญในภารกิจการรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวในฤดูใบไม้ผลิปี1975ของประชาชนเวียดนาม
(VOVworld)- ชัยชนะ12วันคืน ฮานอย-เดียนเบียนฟูกลางเวหาเดือนธันวาคมปี1972ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งการต่อสู้เพื่อทำลายยุทธนาการณ์ทิ้งระเบิดปูพรมที่มีชื่อว่า LinebackerII ของกองทัพสหรัฐ เป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นและสติปัญญาของชาวเวียดนาม ซึ่งสามารถช่วยพลิกสถานการณ์และมีส่วนร่วมสำคัญในภารกิจการรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวในฤดูใบไม้ผลิปี1975ของประชาชนเวียดนาม
ในการต่อสู้12วันคืนเมื่อ40ปีก่อนเหนือน่านฟ้าฮานอย กองทัพเวียดนามได้เตรียมรับมือกับยุทธนาการณ์ LinebackerII ของสหรัฐในเชิงรุกไว้ล่วงหน้าโดยตั้งแต่ปี1965 เมื่อสหรัฐเปิดการโจมตีทางอากาศเขตเบ๊นก๊าต นครโฮจิมินห์ ซึ่งขณะนั้นประธานโฮจิมินห์ได้พยากรณ์แล้วว่า สหรัฐจะใช้เครื่องบินบี52ทิ้งระเบิดกรุงฮานอยและภาคเหนือเวียดนามอย่างแน่นอนและสหรัฐจะยอมแพ้เหนือน่านฟ้าฮานอยเท่านั้น ดังนั้นเหล่าทัพป้องกันอากาศยานแห่งกองทัพอากาศต้องเตรียมแผนการรับมือในเชิงรุกไว้ ซึ่งจากการปฏิบัติตามคำชี้นำของประธานโฮจิมินห์ กองทัพเวียดนามได้พัฒนากองกำลังทหารป้องกันและต่อสู้อากาศยาน เตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์และฝึกอบรมแผนการรับมือกับเครื่องบินรบของสหรัฐโดยเฉพาะการต่อสู้กับเครื่องบินบี52 พลโท เหงวียนซวนเหมา อดีตรองหัวหน้าฝ่ายการเมืองแห่งเหล่าทัพป้องกันทางอากาศเผยว่า เหล่าทัพป้องกันอากาศยานแห่งกองทัพอากาศได้จัดทำหนังสือเกี่ยวกับการโจมตีเครื่องบินบี52ตั้งแต่ปี1968 ถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ปี1972เสนาธิการใหญ่ วันเตี๊ยนหยุงและคณะผู้บริหารกรมเสนาธิการได้อนุมัติ แผนการต่อสู้กับเครื่องบินบี52ต่อจากนั้นพลเอกหวอเงวียนยาบก็ได้อนุมัติเพื่อให้เราเตรียมแผนรับมือในเชิงรุก
|
หารือแผนการต่อสูกับเครื่องบิน (photo internet) |
การต่อสู้ใน12วันคืนเหนือน่านฟ้าฮานอยยังสะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และความคล่องตัวของกองทัพเวียดนามโดยเครื่องบินMiG21 จรวดSAM2 ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน100mmและระบบเรดาร์P35 ได้กลายเป็นภาพหลอนที่สร้างความหวาดผวาให้กับเครื่องบินบี52 เครื่องบิน F-105 หรือ F-4 ของกองทัพอากาศสหรัฐ พันเอกดิงเท้วันอดีตหัวหน้ากองพัน77 ซึ่งสามารถยิงเครื่องบินบี52ตก4ลำได้เผยว่าหน้าที่ของกองพัน77คือปกป้องเขตบาดิ่ง ดังนั้นเราต้องศึกษารายละเอียดของเครื่องบินบี52เพื่อหาจุดอ่อนที่จะช่วยให้การโจมตีได้ง่ายขึ้น เช่นหากบนหน้าจอสัญญาณเรดาร์พบสัญญาณที่ซับซ้อนอย่างแรงก็ใช่บี52แล้ว โดยบี52มักจะบินอยู่ในระดับความสูง10กิโลเมตร เหมาะสำหรับการใช้จรวดต่อสู้อากาศยาน นอกจากนี้บี52เป็นเครื่องบินใหญ่และหนักดังนั้นเรดาร์สามารถตรวจจับตำแหน่งได้ชัดเจน
ชัยชนะเหนือยุทธนาการณ์โจมตีทางอากาศของกองทัพสหรัฐเดือนธันวาคมปี1972ยังเป็นจุดสุดยอดแห่งศิลปะการต่อสู้ของกองทัพอากาศเวียดนามในการต่อสู้กับสหรัฐอเมริกาเพื่อกู้ชาติ ซึ่งตามความเห็นของพลโทฝามตวน เครื่องบินบี52ได้รับการคุ้มกันจากหน่วยเครื่องบินที่ทันสมัย โจมตีตอนกลางคืนแถมยังมีการติดตั้งจรวดและปืนที่สามารถยิงเครื่องบินโมตีได้ ดังนั้นกองทัพอากาศของเวียดนามต้องฝึกซ้อมตามสนามบินขนาดเล็ก ปรับเปลี่ยนระดับการบินจากต่ำขึ้นสูงเพื่อประชิดเป้าหมายให้รวดเร็ว พันโท หวูดิ่งหราง นักบินขับเครื่องบินMiG21เผยว่าตอนนั้นยังไม่มีประเทศใดใช้MiG21ต่อสู้กับบี52 ซึ่งในการรบครั้งนั้นสหรัฐได้โจมตีทำลายสนามบินต่างๆในฮานอยเพื่อจำกัดศักยภาพการต่อสู้ทางอากาศของกองทัพเวียดนาม พวกเราต้องแก้ไขปัญหาด้วยการใช้รันเวย์สั้นที่เหลืออยู่เพื่อร่วมการต่อสู้ โดยเฉพาะการใช้สนามบินรอบนอกฮานอยเพื่อทำการโจมตีแบบสายฟ้าแลบ แม้กองทัพอากาศยิงเครื่องบินบี52ตกน้อยกว่ากองทหารปืนใหญ่และจรวดแต่ทุกครั้งที่เครื่องบินMiG21ของเราออกศึกก็สามารถสร้างความปั่นป่วนให้แก่ฝูงบินบี52ของศัตรูเพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยทหารป้องกันอากาศยานสร้างชัยชนะ
|
พลเอก หวอเงวียนยาบ อนุมัติแผนการโจมตีบี52(photo internet) |
นอกจากเตรียมแผนยุทธวิธีการต่อสู้ในเชิงรุก กองทัพเวียดนามยังปรับปรุงอาวุธยุทโธปกรณ์การต่อสู้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะจรวดSAM2ซึ่งเป็นอาวุธที่ศัตรูเห็นว่าไม่สามารถต่อสู้กับบี52ได้ พลโท เหงวียนวันเฝียด อดีตหัวหน้ากองพัน57เผยว่า ในการต่อสู้กับบี52 เวียดนามมีจรวดSAM2ที่มีพิสัยการยิงต่ำจึงโจมตีไม่ถึงเป้าหมาย ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญของทั้งเวียดนามและรัสเซียได้ร่วมศึกษาวิจัยเพื่ออัปเกรดทั้งจรวด ระบบควบคุม จนถึงระบบเรดาร์เพื่อสามารถชี้เป้าหมายและหลบการรบกวนของฝ่ายศัตรู ซึ่งทำให้การยิงมีความแม่นยำยิ่งขึ้น จากการเตรียมพร้อมด้านกองกำลังและแผนการสู้รบที่มีประสิทธิภาพพร้อมการประสานการต่อสู้อย่างแน่นแฟ้น กองทัพและชาวนครหลวงสามารถทำลายยุทธศาสตร์การโจมตีทางอากาศของสหรัฐ ยิงเครื่องบินที่ทันสมัยตกหลายสิบลำรวมทั้งบี52 จำนวน34ลำซึ่งมีฉายาว่าเป็น ป้อมบินยักษ์ที่ไม่อาดทำลายได้ ทำให้สหรัฐต้องประกาศยุติการโจมตีทิ้งระเบิดทำลายภาคเหนือและลงนามในข้อตกลงปารีสปี1973 อันเป็นการเปิดโอกาสแห่งยุทธศาสตร์เพื่อให้เวียดนามประสบชัยชนะที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์ในอีก2ปีให้หลัง 40ปีได้ผ่านพ้นไปแต่ชัยชนะฮานอย-เดียนเบียนฟูกลางเวหายังเป็นนิมิตหมายทองแห่งประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นสติปัญญา ความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและประธานโฮจิมินห์ เป็นเกียรติประวัติแห่งความรุ่งโรจน์เพื่อให้ชนรุ่นหลังสืบต่อไป./.
Hong Van-VOV5